logo-heading

มากกว่าผลการแข่งขะนที่ เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 ในศึกเอฟเอ คัพ นั้นก็คือฟอร์มของเจ้าหนู บิลลี่ กิลมอร์ ดาวรุ่งที่ผลงานโดดเด่นของทัพ "สิงห์บลู" นั้นเอง

เพราะหลังจบเกมทั้งสื่อ แลแฟนบอล ต่างจ้องมองเด็กหนุ่มคนนี้มากเป็นพิเศษ ภายหลังโชว์ผลงานบนฟลอร์หญ้าในเกมดังกล่าวได้อย่างโคตรไฉไล ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราจะพาไปรู้จักกับเจ้าหนูคนนี้ให้มากขึ้น ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไรจึงก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ เชลซี ได้

จุดเริ่มต้น

บิลลี่ กิลมอร์ ลืมตาทักทายโลกใบนี้เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2001 ในเมืองกลาสโกล์ ประเทศสกอตแลนด์ ก่อนที่จะเข้ารับการฝึกปรือลูกหนังกับสโมสร กลาสโกล์ เรนเจอร์ ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวมีอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น แต่ทว่าตลอดเส้นทางสายนักฟุตบอลเจ้าตัวไม่ได้รับโอกาสดันขึ้นมาลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่เลยสักนัดเดียว ก่อนที่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2017 ทาง เชลซี จึงได้ติดต่อไปทาง เรนเจอร์ เพื่อเจรจาคว้าตัวเจ้าหนูดาวรุ่งผู้นี้ ก่อนที่บทสรุปสุดท้ายทัพ "สิงห์บลู" ยอมจ่ายเงินจำนวน 500,000 ปอนด์ เพื่อดึงตัวเจ้าหนูคนนี้มาพัฒนาฝีเท้า และเป็นอนาคตของทีม โดย กิลมอร์ ได้รับสัญญากับ เชลซี ครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2017  และคอยฝึกซ้อม และลงเล่นกับทีมชุด ยู-18 ปี ของทีม จนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทั้งชุด ยู-19 และ ยู-23 ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดไปเล่นยังรุ่นที่อายุมากกว่า ทำความรู้จัก! บิลลี่ กิลมอร์ ดาวรุ่งที่รอวันฉายแสงของ เชลซี

ความสำเร็จกับทัพ "สิงห์บลู" ชุดเล็ก

อย่างที่บอกไปข้างต้นนะครับว่า กิลมอร์ ตะลุยกับทีมชุดเล็กของ เชลซี มาอย่างโชกโชน จนทำให้ตัวเขาประสบความสำเร็จกับบอลระดับเยาวชนมากพอสมควร ไล่เรียงกับแชมป์ FA Youth Cup ฤดูกาล 2017-18 ที่เจ้าตัวลงสนามเป็นตัวหลักของทีมในรายการการแข่งขัน โดยลงสนามทั้ง 8 นัด โดยเป็นตัวจริงถึง 7 นัดด้วยกัน ส่วนอีกหนึ่งรายการนั้นก็คือแชมป์ พรีเมียร์ลีกชุด ยู-18 ปี ในซีซั่น 2017-18 เช่นกัน ซึ่ง กิลมอร์ ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยซัดไปทั้งสิ้น 7 ประตู กับ 3 แอสซิสค์ จาการลงสนาม 17 นัด ซึ่งด้วยผลงานที่โดดเด่นในปีดังกล่าว ทำให้สต๊าฟฟ์ของทีมเริ่มมองเห็นแววเด่น จึงดันไปฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่บ้างในบางโอกาส

กับทีมชุดใหญ่ของ เชลซี

โอกาสในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกของ กิลมอร์ เกิดขึ้นในศึกยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ ที่ เชลซี พ่ายให้กับ ลิเวอร์พูล แต่ทว่าเจ้าตัวมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น ไม่ได้รับโอกาสลงสนาม แต่ทว่าถ้ามองในแง่ดีในเกมที่มีความสำคัญแบบนี้เจ้าตัวก็ได้เข้าใก้ลกับการลงสนามแล้ว เพราะฉะนั้นรอเวลาให้เหมาะสมอีกนิดโอกาสคงกวักมือเรียกอย่างแน่นอน และก็เป็นไปอย่างตามที่คาดเอาไว้โอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของ เชลซี คือเกมพรีเมียร์ลีกที่พบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมโดยได้รับโอกาสลงเป็นตัวสำรอง ก่อนที่โอกาสครั้งต่อมาจะเกิดขึ้นในอีก 2 เดือนถัดมาในเกมลีกที่พบกับ คริสตัล พาเลซ รวมแล้วเจ้าตัวลงเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตอนนี้ 10 นาทีถ้วน ! โดยโอกาสลงสนามอีกครั้งเขาเขาเกิดวันเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2020 ที่ บิลลี่ กิลมอร์ ได้ลงเล่นในศึกเอฟเอ คัพ ที่พบกับ ฮัลล์ ซิตี้ โดยเจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามในช่วง 22 นาทีสุดท้าย เป็นการลงไปเล่นแทนที่ของ คาลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าตัวถือว่าโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจไม่ใช่น้อย ก่อนที่โอกาสครั้งสำคัญแบบทองฝั่งเพชรจะมาถึง ก็คือการได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมเอฟเอ คัพ ที่พบกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ทีมผิดหวัง เขาโชว์ได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมทั้งยังมีจังหวะที่เรียกเสียงปรบมือจากแฟนบอลได้อีก ไม่แปลกที่พอจบเกมรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ จะถูกครอครองโดยเด็กวัย 18 ปี รายนี้ ทำความรู้จัก! บิลลี่ กิลมอร์ ดาวรุ่งที่รอวันฉายแสงของ เชลซี

ตำแหน่งถนัด

ตำแหน่งการเล่นที่ กิลมอร์ ถนัดมากที่สุดก็คือบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นคือเจ้าตัวสามารถเป็นตัวตัดเกมได้ และพาบอลขึ้นไปข้างหน้าในเช่นเดียวกัน ซึ่งสิ่งที่เราสังเกตุเห็นได้จากที่เกมเขาลงสนามพบกับ ลิเวอร์พูล นั้นก็คือการเก็บบอลไว้กับตัว, จ่ายบอลขึ้นแดนหน้า, การตัดเกมแดนกลางของคู่แข่ง รวมไปถึงลูกขยันที่มักพาตัวเองกระจายไปอยู่ในทั่วทุกมุมของสนาม จึงไม่แปลกที่หลังจบเกมแข้งตำนานทีมชาติอังกฤษอย่าง อลัน เชียร์เรอร์ จะออกมาเชยชมหลานคนนี้ว่าคือมิดฟิลด์ที่โคตรยอดเยี่ยม !

คำชื่นชมจากเจ้านาย

เมื่อคุณทำผลงานในสนามได้อย่างยอดเยี่ยมสิ่งที่สวยงามที่สุดคงหนีไม่พ้นคำชื่นชมจากเจ้านาย ซึ่ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด คนที่ให้โอกาสกับเขาก็ออกมาชมเพชรเม็ดงามคนนี้ว่าสามารถเล่นกับทีมชุดใหญ่ของทีมได้แบบสบายๆ เลย "เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าสามารถลงเล่นในระดับนี้ได้สบายๆ ถ้าหากว่าเขาเล่นได้เหมือนกับวันนี้ เขาจะพาตัวเองขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้แน่นอน" "มันเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญเหมือนกันที่เขาเติบโตขึ้นมาจากทีมอคาเดมี่ และมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ศักยภาพของเขาแสดงให้เห็นแล้วว่าฟอร์มการเล่นนั้นมันยอดเยี่ยมเอามากๆ"
logoline