logo-heading

ยู จุน ซู : ถึงช่วงโชว์ไทม์ของโอปป้าสารพัดประโยชน์สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเกาหลีใต้ พร้อมนั่งชมเกม เค ลีก คู่ระหว่าง เอฟซี โซล เปิดบ้านเสมอ อินชอน ยูไนเต็ด 1-1 ซึ่งในทีมชีตของฝั่งผู้มาเยือน มีอดีตนักเตะที่เคยผ่านการเล่นไทยลีกอย่าง โก ซุน กิ อยู่ด้วย

โก ซุน กิ มี 3 ปีที่สวยงามกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (2015, 2016, 2017) เขาลงสนาม 104 เกม ทุกรายการ ยิง 19 ประตู และทำอีก 11 แอสซิสต์ เขาผ่านการคว้าแชมป์ทั้งหมด 8 ใบกับเซราะกราว โดย 5 แชมป์เกิดขึ้นในปีเดียว เมื่อปี 2015 “ผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทำให้การจากลาครั้งนั้น เป็นการจากแบบให้จดจำ เป็นการจากลาแบบให้คิดถึง” ผมได้ชมฝีเท้าของ “อาโก” หรือที่แฟนบอลบุรีรัมย์ เรียกว่า “โอปป้าหน้านิ่ง” อีกครั้งที่บ้านเกิดของเขา โดยปัจจุบัน อาโก ยึดตัวหลักของ อินชอน ได้ โดยมีหน้าที่เป็นกองกลางตัวรับ คอยตัดเกม และออกบอลให้เพื่อน ซึ่งจะวิ่งแค่พื้นที่หลังกลางรุก และหน้ากองหลังเท่านั้น ไม่ต้องวิ่งขึ้นลง บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ เหมือนตอนที่อยู่บุรีรัมย์ ที่เกาหลีใต้ เขาต้องเล่นเกมรับมากขึ้น มีพื้นที่รับผิดชอบต่ำกว่าเดิม และต้องคอยสวิตซ์บอลไปซ้าย-ขวา จ่ายบอลยาวจากแดนหลังมากขึ้น เรียกได้ว่า ดูแล้วเพลินตาเช่นเดิม ที่บอกเลยว่า แอบคิดถึงการเล่นแบบนี้บนแผ่นดินไทยเหมือนกัน หลังจบเกม คำถามที่ตามมาในหัวผม คือ บุรีรัมย์ จะยืนระยะในลีก และเอซีแอล ได้อย่างไร เมื่อไม่มีโควตาเอเชียแบบ โก ซุน กิ แล้ว ซึ่งดูเหมือนว่า คำตอบจะมาเร็วเหลือเกิน เพราะ ใครบางคนกำลังโชว์ฟอร์มบอกเราบางอย่าง ว่าเขาพร้อมจะตัวแทน “อาโก” ได้อย่างสนิทเลยทีเดียว ยู จุน ซู : ถึงช่วงโชว์ไทม์ของโอปป้าสารพัดประโยชน์ ย้อนกลับไป เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทันทีที่สูญเสีย โก ซุน กิ บุรีรัมย์ก็จัดการคว้าตัว “ยู จุน ซู” ดาวเตะสารพัดประโยชน์เพื่อนร่วมชาติ จาก อุลซาน ฮุนได มาทันที โดยเขาสามารถเล่นได้ทั้ง กองหลังตัวกลาง, กองกลาง และ กองหน้า ช่วงแรกๆ นั้น ต้องยอมรับว่า ฟอร์มการเล่นของ ยู จุน ซู ยังไม่คลิ๊กเท่าไรนัก โดยเขาเริ่มต้นจากตำแหน่งกองกลาง และแน่นอน เขาถูกเปรียบเทียบกับสิ่งที่ “อาโก” เคยทำได้ และจากมุมมองของแฟนบอล ต้องยอมรับว่า เขาพ่ายแพ้โอปป้าหน้านิ่งโดยสิ้นเชิง วันเวลาผ่านไป ยู จุน ซู ถูกถอยลงมาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟบ่อยครั้ง เนื่องจาก อันเดรส ตูเญซ มีปัญหาอาการบาดเจ็บ และนั่นก็ทำให้เขาเป็นเหมือนนักเตะโควตาเอเชียที่ไม่ได้มีจุดพีคอะไรมากนัก ถึงขั้นโดนแซวว่า เล่นได้หลายตำแหน่ง แต่ยังไม่ได้ดีแบบสุดๆ สักตำแหน่ง ทว่า 2 นัดหลัง “โอปป้าหน้าหล่อ” ได้เริ่มโชว์ของออกมาให้เห็นแล้วว่า เขามีของดีอะไร ที่ทำไม โบซิดาร์ บันโดวิช ถึงยังเชื่อมั่น และมองเห็นในตัวเขา เมื่อเจ้าตัวจัดการซัดประตูสำคัญในช่วงท้ายเกม 2 นัดติดต่อกัน เริ่มจากประตูชัยช่วงทดเจ็บที่เปิดบ้านชนะ ชลบุรี เอฟซี 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามด้วยยิงประตูตีเสมอ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ 1-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเช่นกัน เมื่อวานที่ผ่านมา ช่วยให้ “เซราะกราว” เก็บ 1 แต้มสุดสำคัญในเกมที่ 5 ของรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะได้ยื้อโอกาสเข้ารอบไปจนถึงแมตช์สุดท้ายที่จะต้องไปเยือน เจจู ยูไนเต็ด ข้อดีของ ยู จุน ซู คือ เขามีความยืดหยุ่นในตำแหน่งการยืนสูงมาก เขาสามารถเล่นเกมรับได้ในเวลาที่ทีมออกนำไปแล้ว หรือยามที่ ตูเญซ ไม่พร้อมลงสนาม, เขาสามารถเล่นกองกลางได้แบบไม่เคอะเขิล แม้จะยังไม่ได้ดีเว่อวังขนาดนั้น และสุดท้ายเขาสามารถยืนกองหน้าได้ ในเวลาที่ทีมต้องการประตู ซึ่งเจ้าตัวก็ทำให้เห็นแล้วว่า แม้คลาสบอลอาจจะไม่เท่ากับ “อาโก” แต่ “อายู” คนนี้ ยิงประตูได้นะเออ หากว่าให้โอกาสเขา   ยู จุน ซู : ถึงช่วงโชว์ไทม์ของโอปป้าสารพัดประโยชน์ "เป็นแผนของเราอยู่แล้ว ยู จุน ซู เป็นผู้เล่นที่ดี เขาเล่นได้หลายตำแหน่ง ที่สำคัญ เขาขยันมากๆ ผมจึงคิดว่า ถ้าดันเขาขึ้นไป จะช่วยสร้างโอกาสให้ทีมได้มากขึ้น และสุดท้ายเขาก็ทำมันได้อีกครั้ง" นี่คือคำพูดจาก เฮ้ดโค้ชของ บุรีรัมย์ ที่กล่าวถึงการซัด 2 ประตูสำคัญติดต่อกันของ ยู จุน ซู ที่เพิ่งได้รับของขวัญในชีวิต นั่นคือ ลูกคนแรก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จุน ซู เป็นนักเตะที่ไม่ได้มีคาแรกเตอร์โดดเด่นอะไรมากนัก แต่เขาเป็นแข้งหนึ่งคนที่พร้อมทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เสมือนพนักงานคนหนึ่งที่คอยทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างสุดความสามารถ ให้เล่นกองหลัง เขาก็จะเล่นเกมรับให้ดีที่สุดด้วยทักษะที่มี ให้เล่นกองกลาง เขาก็เล่นกองกลางให้ดีที่สุดด้วยความสามารถที่มี ให้เล่นกองหน้า เขาก็จะพยายามยิงประตูให้ได้ด้วยความขยัน และความคมที่มี 2 ประตูสุดสำคัญในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก 2 เกมหลังในบ้าน คงทำให้แฟนบอลหัวใจโอปป้า ลืมความหน้านิ่งของ “อาโก” ไปได้บ้างแล้ว และก็น่าจะเปิดใจมาแบ่งซัพพอร์ตโอปป้าหน้าหล่อรายนี้ กันแบบไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว…

“จอน”

logoline