logo-heading

ถึงแม้ฤดูกาล 2019-20 ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะยังไม่ได้บทสรุปเป็นที่แน่ชัดว่าจะแข่งต่อกันหรือไม่ เนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่มีท่าทีว่าจะดูดีขึ้น

แต่ถ้านับเฉพาะผลงานของนักเตะเชื่อว่ามาถึงตรงนี้เราก็คงได้เห็นว่าใครเล่นดีบ้าง ? หรือ เล่นไม่ดีบ้าง ? วันนี้สิ่งที่ 'ขอบสนาม' ขอนำเสนอก็คือ 'การจัดทีมยอดเยี่ยมโดยจะรวบรวมเฉพาะนักเตะที่ย้ายมา พรีเมียร์ลีก ปีนี้ และทำผลงานได้ดี' จะมีใครบ้างนั้นไปชมกัน ?

ผู้รักษาประตู : ดีน เฮนเดอร์สัน (เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด)

Chelsea eyeing transfer bid for Man Utd goalkeeper Dean Henderson ... เป็นเด็กปั้นจากค่าย 'ปีศาจแดง' ก็จริงแต่ตลอดช่วงที่ผ่านมา 5 ปี ดีน เฮนเดอร์สัน ไม่เคยได้โอกาสลงเฝ้าเสาให้ทีมรักแม้แต่นัดเดียว ในแต่ละปีก็ได้แต่ถูกปล่อยไปเก็บเลเวลกับทีมโน้นทีมนี้ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นทีมในลีกล่างๆ ด้วย แต่ประสบการณ์ในวันนั้นทำให้ไอ้หนูวัย 23 ปีมีเส้นทางที่สดใสในวันนี้ วันที่เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รักษาประตูหน้าใหม่ที่น่าจับตามองที่สุดในอังกฤษ จากผลงานการเก็บไป 10 คลีนชีทในฤดูกาล 2019-20 เทียบเท่ากับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ และ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล และที่สำคัญเลยคือตอนนี้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เสียไปแค่ 25 ประตูเท่านั้น เป็นรองแค่ ลิเวอร์พูล ทีมเดียวที่เสียไป 21 ประตู ดูแล้วยังไงนี่ก็ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าสุดๆ เพราะสโมสรได้ตัว เฮนเดอร์สัน มาในสัญญายืมตัว ไม่ต้องเสียดงินเลยแม้แต่แดงเดียว แต่ปัญหามันจะอยู่ตรงที่ฤดูกาลหน้านี่แหละว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะเก็บตัวเขาไว้ใช้งานเองหรือไม่ เพราะตอนนี้มีกระแสเรียกร้องจากแฟนๆ ให้เอา ดีน เฮนเดอร์สัน ขึ้นไปยึดมือ 1 แทน ดาบิด เด เคอา ได้แล้ว

แบ็กขวา : อารอน วาน บิสซาก้า (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

อดประเดิมชุดใหญ่! \'วาน-บิสซาก้า\'ถอนทีมชาติอังกฤษ | Goal.com แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดใจไม่ไหวกับฟอร์มการเล่นของ อารอน วาน-บิสซาก้า ถึงขั้นต้องยอมทุ่มเงินก้อนโตในจำนวน 50 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวมาเสริมความแข็งแกร่ง ถ้าจะถามว่าแพงไหม ? มันก็แพงจริงแหละ แต่มันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่ตัวนักเตะได้ตอบแทนคืนมา เพราะ วาน-บิสซาก้า แทบไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวเลย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างครบเครื่องตามสเป็กฟูลแบ็กที่สโมสรสมัยนี้ต้องการ เติมเกมบุกได้มันส์สะใจ ถอยลงมาเล่นเกมรับได้ทันยามเปลี่ยนเป็นฝ่ายป้องกัน ส่วนเรื่องของความรวดเร็วคล่องตัวก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เยี่ยมเลย ไหนจะมีสถิติการเข้าปะทะที่ดีอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นอีกด่านที่คู่ต่อสู้จะผ่านไปไม่ได้ง่ายๆ และตัวของ วาน-บิสซาก้า ก็เป็นผู้เล่นคนหนึ่งของ 'ปีศาจแดง' ที่รักษาความคงเส้นคงวาเรื่องฟอร์มการเล่นได้ดีที่สุดในทีมด้วย

เซ็นเตอร์แบ็ก : แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

Harry Maguire - Player profile 19/20 | Transfermarkt ย้ายมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวกองหลังสถิติโลกที่ 80 ล้านปอนด์มันจึงไม่แปลกอะไรถ้า แฮร์รี่ แม็คไกวร์ จะโดนวิจารณ์หรือถูกนำฟอร์มไปเทียบกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นกองหลังที่ดีที่สุดในโลก แต่ถ้าตัดเรื่องนี้ออกไปผลงานส่วนตัวของ แม็คไกวร์ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยทีเดียว เขาเป็นกองหลังที่ยืนตำแหน่งได้ดี รักษาระยะได้ดี ถ้าเกิดลองนำสถิติการเล่นเกมรับในปีนี้ไปเทียบกับ ฟาน ไดค์ จะเห็นได้ว่าไม่ได้มีใครเหนือหรือด้อยกว่ากันเท่าไหร่

ไล่ตั้งแต่ การเข้าปะทะชนะ 63% (ฟาน ไดค์ 55%) บล็อคลูกยิง 6 ครั้ง (ฟาน ไดค์ 4 ครั้ง) สกัดบอล 53 ครั้ง (ฟาน ไดค์ 30 ครั้ง) เคลียร์บอลทิ้ง 132 ครั้ง (ฟาน ไดค์ 135 ครั้ง) เคลียร์บอลด้วยศีรษะ 80 ครั้ง (ฟาน ไดค์ 67 ครั้ง) แย่งบอล (รวมจังหวะ 2) 192 ครั้ง (ฟาน ไดค์ 159 ครั้ง) ดวล 1-1 ชนะ 189 ครั้ง (ฟาน ไดค์ 185 ครั้ง) ชนะลูกกลางอากาศ 136 ครั้ง (ฟาน ไดค์ 143 ครั้ง) ช่วยทีมเก็บคลีนชีท 8 ครั้ง (ฟาน ไดค์ 12 ครั้ง) และ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียไป 30 ประตู ส่วน ลิเวอร์พูล เสียไป 21 ประตู เซ็นเตอร์แบ็ก : แกรี่ เคฮิลล์ (คริสตัล พาเลซ)

Gary Cahill\'s first words after joining Crystal Palace on a free ... ใครจะไปเชื่อว่าทีมเล็กๆ กลางตารางอย่าง คริสตัล พาเลซ จะมีสถิติเสียประตูแค่ 32 ประตูเท่านั้นเป็นรองแค่ ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เลสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งหนึ่งในกลไกสำคัญของตัวเลขนี้ก็คือการมี แกรี่ เคฮิลล์ ช่วยยืนเฝ้าหน้าปราสาทอยู่นั่นเอง ถึงแม้อายุอานามจะปาเข้าไป 34 ปีแล้ว แต่ก็ยังรักษามาตรฐานได้ดี ยังคงแข็งแกร่งและเป็นที่พึ่งให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ ส่วนหนึ่งที่พี่แกก้าวมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะการได้ประสบการณ์อันโชกโชนมาจาก เชลซี นี่แหละ และการที่พลพรรค 'ปราสาทเรือนแก้ว' ได้ตัวเขามานับว่าคุ้มค่าสุดๆ เพราะเป็นของดีที่ไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่บาทเดียว

แบ็กซ้าย : ฌิบริล ซิดิเบ้ (เอฟเวอร์ตัน)

Sidibe Joins Everton On Season-Long Loan ถ้าเทียบเฉพาะผู้เล่นตำแหน่งฟูลแบ็กที่ได้ย้ายมาโลดแล่นบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้หากไม่นับ อารอน วาน-บิสซาก้า คงไม่มีใครผลงานดีไปกว่า ฌิบริล ซิดิเบ้ อีกแล้ว และนี่ก็จัดว่าอยู่ในข่ายการย้ายทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลในตำแหน่งนี้ด้วย เพราะพี่แกย้ายมาด้วยสัญญายืมตัวจาก โมนาโก และตอนนี้ก็เบียด เชมุส โคลแมน ขึ้นมาเป็นตัวจริงได้แบบต่อเนื่อง ส่วนสถิติเด่นๆ ของ ฌิบริล ซิดิเบ้ ก็คือเรื่องของการมีส่วนร่วมกับเกมบุก เขาสร้างโอกาสทองให้เพื่อนๆ ได้ 4 ครั้ง มีการครอสส์บอลทั้งหมด 63 ครั้ง แทงทะลุช่องหรือจ่าย คิลเลอร์ พาสส์ 5 ครั้ง และที่เด็ดๆ เลยการวางบอลยาวได้แม่นยำถึง 41 ครั้งด้วยกัน

มิดฟิลด์ตัวรับ : โรดรี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

I am growing a lot\' - Rodri hails Guardiola impact at Manchester ... ค่าตัว 62.5 ล้านปอนด์ตอนแรกก็สงสัยว่ามันแพงไปรึเปล่าสำหรับเจ้า โรดรี้ มิดฟิลด์ตัวใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ไปๆ มาพี่แกก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามันค่อนข้างคุ้มค่ากับการเป็น 'นิว เซร์คิโอ บุสเก็ตส์' อย่างที่ใครๆ เขาร่ำลือกันไว้ โรดรี้ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางที่มีความโดดเด่นเรื่องการครองบอลและการจ่ายบอล โดยค่าเฉลี่ยต่อเกมพี่แกจ่ายบอลไปราวๆ 76.73 ครั้ง แถมยังมีการวางบอลยาวที่แม่นยำมากๆ อีกด้วยที่ 131 ครั้งในฤดูกาลนี้ ส่วนสถิติเกมรับเด่นๆ จะมี การแท็คเคิ่ลชนะ 62% และแย่งบอลคืนจากคู่แข่งได้ 181 ครั้ง ด้วยอายุแค่เพียง 23 ปีเท่านั้นดูแล้วยังสามารถยกระดับฝีเท้าตัวเองได้อีกเยอะ อีกทั้งยังสามารถยืนระยะเป็นตัวหลักให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อีกนานเลย ดังนั้นนี่คือหนึ่งในดีลที่คุ้มค่ามากๆ ในซีซั่นนี้

มิดฟิลด์ตัวรับ : เลอันแดร์ เดนดองซ์เกอร์ (วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส)

Wolves confirm Dendoncker transfer อีกหนึ่งตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กลางกำลังชั่งใจว่าจะเอา ยูรี่ ตีเลอม็องส์ ของ เลสเตอร์ ซิตี้ หรือว่า เลอันแดร์ เดนดองซ์เกอร์ ของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ดี ? เพราะทั้งคู่ฉายแววได้ดีพอๆ กัน แต่ถ้าเกิดเอาความคุ้มค่าแล้วต้องบอกเลยว่าทางฝั่ง เดนดองซ์เกอร์ คุ้มกว่าจริงๆ เพราะสโมสรเพิ่งซื้อขาดมาในปีนี้ ถึงแม้ไม่มีการระบุค่าตัวแน่ชัด แต่เชื่อว่าค่าตัวน่าจะถูกกว่า ตีเลอม็องส์ แน่ๆ ส่วนสไตล์การเล่น เดนดองซ์เกอร์ ก็จัดว่าเป็นมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์ครบเครื่องอีกคน แถมยังมีความดุดันสูงด้วย โดยบทบาทหลักๆ จะหนักไปทางตัวรับ มีจุดเด่นด้านการอ่านเกมและทำลายจังหวะเกมของคู่แข่ง มีความแข็งแกร่งทางสรีระมีรูปร่างสูงใหญ่ สามารถรับมือกับการเข้าปะทะได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นมิดฟิลด์ประเภท บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ ที่คอยเซ็ตเกมและพาบอลทะลุทะลวงขึ้นไปแดนหน้าได้เหมือนกัน เรียกได้ว่าเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์อีกคนหนึ่งบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก และที่ วูล์ฟ มีแผงกองกลางที่แน่นมากๆ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้ไอ้หมอนี่เช่นกัน

ปีกขวา : แดเนี่ยล เจมส์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

Daniel James to be handed Man Utd wage increase to £50,000-a-week ... ได้รับการยกย่องว่าเป็น 'ไรอัน กิ๊กส์ คนต่อไปของวงการฟุตบอล เวลส์' สำหรับ แดเนี่ยล เจมส์ ถึงแม้ปัจจุบันจะยังไม่สามารถเทียบชั้นได้ก็จริง แต่ในภาพรวมถือว่าปล่อยของโชว์ฟอร์มได้ดีสุดๆ เลยจริงๆ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยจุดเด่นหลักๆ เลยก็คือสปีดความเร็วที่โหดไม่เป็นสองรองใครซึ่งนับเป็นประโยชน์มากๆ ในจังหวะเปิดเกมเข้าใส่ศัตรูรวมไปถึงจังหวะการเล่นเกมสวนกลับ ตามสถิติที่เปิดเผยมาของเว็บไซต์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในบทบาทเกมรุก แดเนี่ยล เจมส์ ถือว่ามีบทบาทมากๆ โดยพี่แกมีโอกาสยิงทั้งหมด 39 ครั้ง ตรงกรอบ 18 ครั้งเปลี่ยนเป็น 3 ประตู แต่ที่เด่นกว่านั้นคือสกิลการเซ็ตเกมและการทำจังหวะต่างๆ เพราะตามสถิติที่บอกมา เจมส์ ทำไป 6 แอสซิสต์ สร้างโอกาสทองให้เพื่อนๆ 6 ครั้ง มีจำนวนการครอสส์บอลทั้งหมด 88 ครั้ง และจ่ายบอล คิลเลอร์ พาสส์ 5 ครั้งด้วยกัน และเมื่อดูจากสถิติและผลานต่างๆ แล้วขอบอกเลยว่าค่าตัว 15 ล้านปอนด์ มันถูกเกินไปจริงๆ

ปีกซ้าย : แดนนี่ อิงส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)

UFABET168 การฟื้นคืนชีพของ Danny Ings แสดงให้เห็นว่าการแลก ... เมื่อสมัยยังค้าแข้งอยู่กับ 'หงส์แดง' ลิเวอร์พูล จะเรียกได้ว่าตกนรกทั้งเป็นก็ว่าได้สำหรับ แดนนี่ อิงส์ เพราะตลอด 3 ปีในรั้ว แอนฟิลด์ พี่แกไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นหัวหอกตัวจริงของทีมได้ เพราะในทีมต่างก็มีกองหน้าดีๆ อยู่แล้วหลายคน นั่นเลยทำให้ เซาธ์แฮมป์ตัน อาสาขอพาตัว แดนนี่ อิงส์ ไปร่วมทีมเพื่อเค้นฟอร์มเก่งกลับมา และพวกเขาก็ประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางเอาไว้ด้วย ก่อนจะซื้อขาดมาร่วมทีมในค่าตัว 18 ล้านปอนด์ และตอนนี้ แดนนี่ อิงส์ ก็ซัดไปแล้ว 18 ประตูจาก 30 เกมรวมทุกรายการ ยึดตำแหน่งตัวจริงได้ยาวๆ เลย

มิดฟิลด์ตัวรุก : บรูโน่ แฟร์นานเดซ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

Bruno Fernandes Is Already Acting Like A Captain At Old Trafford ค่าตัว 67.6 ล้านปอนด์ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมจ่ายเพื่อแลกกับการได้ตัว บรูโน่ แฟร์นานเดส เข้ามามันทำให้เหล่าสาวก 'เร้ด เดวิลส์' ตั้งความหวังเอาไว้สูงลิบลิ่วว่าไอ้หมอนี่จะต้องฉายแววได้โหดเหมือนกับค้าแข้งอยู่กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับมันยิ่งกว่านั้น เพราะการเข้ามาของ บรูโน่ มันช่วยยกระดับให้เกมรุกของ 'ปีศาจแดง' น่ากลัวขึ้นมาทันตาเห็น และก็เกิดมิติใหม่ๆ ขึ้นมามากมายจนทีมฟอร์มดีขึ้น จะบอกว่านี่คือการเซ็นสัญญายอดเยี่ยมที่สุดของสโมสรในฤดูกาลนี้ก็คงไม่มีข้อกังขาใดๆ ส่วนผลงานของ บรูโน่ หลังจากย้ายมาช่วงต้นปีจนถึงตอนนี้ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไป 14 เกม ยิงได้ 8 ประตู และทำไปอีก 7 แอสซิสต์ และมีเปอร์เซนต์การผ่านบอลสำเร็จอยู่ที่ 76% ด้วยกัน

กองหน้า : ราอูล ฆิมิเนซ (วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส)

raul-jimenez-wolves_qh7r820yf4pq18r37c9tgvqei หลังทดลองงานอยู่ 1 ปีด้วยสัญญายืมตัวผลปรากฏว่า ราอูล ฆิมิเนซ สอบผ่านจนได้รับตำแหน่งกองหน้าเบอร์ 1 เป็นของการันตีจากทาง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ก่อนที่สโมสรจะใช้ออปชั่นซื้อขาดกระชากตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นสถิติของสโมสร ตัดภาพกลับมาที่ฤดูาลนี้ ราอูล ฆิมิเนซ ยังคงรักษาฟอร์มเก่งของตัวเองเอาไว้ได้เผลอๆ จะโหดกว่าปีก่อนด้วยซ้ำไปกับการระเบิดตาข่ายไปแบบถล่มทลาย 22 ประตูจากการลงสนาม 44 นัด มีลุ้นพาทัพ 'เจ้าหมาป่า' ตีตั๋วไปเล่นฟุตบอบยุโรปในซีซั่นหน้าด้วย
logoline