logo-heading

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอดีตทีมแชมป์ไทยลีกเมื่อปี 2008 แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีสโมสรแห่งนี้แล้ว หลังจากที่บอร์ดบริหารองค์กรแม่ตัดสินใจปล่อยสิทธิ์การทำทีมไปให้ฝั่งบุรีรัมย์ เอาสิทธิ์ไปใช้แข่งขันเมื่อปี 2010

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานกว่า 10 ปีแล้ว ปราสาทสายฟ้าประสบความสำเร็จในวงการลูกหนังไทย พร้อมกับการสูญหายของทีมจอมช็อต แต่ปฏิเสธไม่ได้หลอกว่าครั้ง1 ทีมแห่งนี้ลงเล่นไทยลีก ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับการตอบรับที่ล้นหลามจากแฟนบอล จนเกิดเป็นกระแสความนิยมบอลแบบภูธร ปี 2009 คือปีสุดท้ายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในการลงเล่นไทยลีก ก่อนที่นักบอลบางส่วนจะถูกนำไปร่วมการผู้เล่นทีโอทีลงแข่งในนามว่าบุรีรัมย์ Pea แต่ก็ยังมีผู้เล่นชื่อดังบางส่วนที่เมินในการไปร่วมงานกับเนวิน ชิดชอบ ขอบสนามขอนำเสนอแข้งเก่าไฟฟ้าที่ปฏิเสธการเป็นนักเตะบุรีรัมย์ ส่วนจะมีใครบ้างเนื้อหาพร้อมแล้วเชิญอ่านได้เลยครับ 1.ปฏิภาณ เพชรพูล รวมแข้งเก่าการไฟฟ้าที่เมินซบบุรีรัมย์ กองหลังจากท่าเมือง, กาญจนบุรี ก่อนจะเข้าเมืองหลวงมาเล่นฟุตบอลกับโรงเรียยวัดสุทธิวราราม และได้มีโอกาสร่วมงานกับสมชาย ทรัพย์เพิ่ม ในทีมเยาวชนทีโอทีและขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในยุคของ”น้าก็อก” พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ และออกไปหาประสบการณ์ใหม่กับม.กรุงเทพ จนประสบความสำเร็จได้แชมป์ไทยลีก 2006 และได้เล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มในปีถัดมา จนได้มาร่วมงานกับ”น้าเหม่ง” ประพล พงษ์พานิช เขาถูกไว้วางใจให้เป็นแนวรับตัวหลักให้สโมสรจับคู่กับภานุพงศ์ วงศ์ษา พาทีมหักปากกาเซียนพิชิตแชมป์ไทยลีก 2008 ได้อย่างเหลือเชื่อ“ต็อบ” เป็นแนวรับพันธุ์โหดเข้าบอลหนักในเกม แต่นอกสนามเขาใช้ชีวิตเรียบง่าย โดยอยู่ช่วยทีมจนถึงวันที่สโมสรโดนนักการเมืองครอบครอง และตัดสินใจอำลาทีมไปอยู่แบงค็อก ยูไนเต็ด 2.ณรงค์ชัย วชิรบาล รวมแข้งเก่าการไฟฟ้าที่เมินซบบุรีรัมย์ เพลย์เมกเกอร์อารมณ์ร้อนพรสวรรค์สูงจากนครปฐม ที่มาร่วมทัพการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หลังจากย้ายกลับมาจากเวียดนามในปี 2006 และโดยปล่อยให้บีอีซี เทโรศาสนยืมตัวหลังไม่อยู่ในแผนการทำทีมของโชเซ่ อัลเวส บอร์จีส ในปีถัดมา “ตั้ม” กลับคืนสู่สโมสรไฟฟ้าในปี 2008 ภายใต้การทำทีมโดย”น้าเหม่ง” สวมบทบาทเป็นจอมทัพหมายเลข 10 ตำแหน่งถนัด ป้อนบอลให้รณชัย รังสิโย และพิพัฒน์ ต้นกันยา ยิงประตูร่วมกัน 25 ลูกพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ไทยลีก แม้ว่าปีถัดมาเขาจะฟอร์มตกแถมยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บทำให้ช่วยสโมสรได้ไม่ได้มากเท่าที่ควร ซึ่งหลังบอร์ดบริหารไม่ได้ทำทีมต่อ จึงตัดสินใจขายนักเตะไปให้เพื่อนตำรวจ 3.แซมมวล ป. คันนิงแฮม รวมแข้งเก่าการไฟฟ้าที่เมินซบบุรีรัมย์ นายทวารที่ในวัยเด็กแข่งขันกับกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เพื่อชิงตำแหน่งนายทวารเบอร์ 1 โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี ดาวเตะลูกครึ่งสกลนคร-อเมริกัน เป็นแข้งที่มีลูกบ้า ปฏิกริยาที่ว่องไวในการป้องกันประตู แม้ว่าไลฟ์สไตล์จะดูเป็นคนไม่ค่อยจริงจัง แต่มันก็ทำให้เขาได้โอกาสเบียดแย่งพื้นที่ตัวจริงมาจากอัมรินทร์ เยาว์ดำ โดยมีโอกาสลงเล่นไปถึง 24 เกม เป็นขวบปีที่แจ้งเกิดของแซมมวล ภายหลังไม่มีการไฟฟ้า เขาตัดสินใจปักหลักอยู่ที่นนทบุรี ต่อไป โดยไปร่วมทัพทีโอที 4.อภิภู สุนทรพนาเวศ รวมแข้งเก่าการไฟฟ้าที่เมินซบบุรีรัมย์ แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะจดจำเขาได้ในฐานะลูกหม้อโอสถสภา แต่คนที่มีพระคุณกับ”บาส” อภิภู คือ”น้าเหม่ง” ให้การเรียกเขาไปติดทีมชาติไทยชุดปรีโอลิมปิกและซีเกมส์ 2007 โดยความที่ยากตอบแทนบุญคุณเขาจึงตัดสินใจหอบหิ้วสตั๊ดมาร่วมทีมการไฟฟ้าส่วนภูมิในปี 2009 เขาเปิดหัวได้อย่างสวยงามยิงประตูให้ไฟฟ้าในเกมเพลย์ออฟ ACL กับสิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ แม้ว่าทีมจะแพ้ในช่วงการต่อเวลาต่อกลับเป็นการเรียกความมั่นใจให้แข้งรายนี้ได้มาก เขาลงเล่นในไทยลีก ทำไป 6 ประตู เป็นนักเตะตัวหลักในเกมรุกแทน ณรงค์ชัย แม้จะเป็นการร่วมงานเป็นไฟฟ้าแค่ปีเดียว แต่โปรไฟล์ดังกล่าวก็ทำให้หลายๆสโมสรสนใจสิงห์อีซ้ายจากสมุทรปราการ แต่สุดท้ายเขาเลือกกลับไปอยู่ทีมพลังเอ็มแทน 5.ภานุพงศ์ วงศ์ษา รวมแข้งเก่าการไฟฟ้าที่เมินซบบุรีรัมย์ แนวรับคนเชียงใหม่โดยกำเนิด ที่เข้าเมืองหลวงมาเรียนที่อัสสัมชัญ บางรัก ก่อนจะไปเล่นบอลโปรลีกกับเชียงใหม่ เอฟซี และโดนทาบทามให้ไปร่วมทีมตำรวจ พร้อมติดยศข้าราชการ ทว่าเขาลาออก และย้ายไปร่วมทีมการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หลังได้รับการชักชวนจากสต๊าฟฟ์โค้ช เขายึดพื้นที่เป็น 11 คนแรกให้ไฟฟ้า-ยุดยา คุมหลังบ้านคู่กับปฏิภาณ เพชรพูล จนได้แชมป์ไทยลีกปี 2008 และมีชื่อติดทีมชาติไทย จากนั้น “ใหม่” อยู่รับใช้สโมสรอีก 1 ฤดูกาลเพื่อช่วยเหลือทีมที่มีส่วนผลักดันให้ตัวเขาได้โอกาสรับใช้ธงไตรรงค์ หลังจากสัญญากำลังจะหมดลงเมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่รอช้าทาบทามไปร่วมทีมทันที โอกาสได้อยู่กับทีมในเมือง การันตีการลงเล่นสม่ำเสมอ เขาตัดสินใจก้าวไปเป็นสมาชิกกิเลนผยองทันที

เอ็มเร่

[email protected]

ขอบคุณภาพประกอบ แฟนเพจ สโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA FC, Tommy bars, นิตยสารฟุตบอลสยาม
logoline