เมื่อวานนี้ดูนักเตะต่างชาติของ บุรีรัมย์ ไปแล้ววันนี้ ขอบสนามบอลไทย ขอพาแฟน เอสซีจี เมืองทอง มาย้อนความทรงจำกับ 10 แข้งต่างชาติระดับตำนานของกิเลนผยอง
แน่นอนว่าชื่อทั้ง 10 คนอาจจะไม่ตรงกับใจของหลายๆ คน แต่ขอให้เชื่อว่าเราคัดมาแล้วว่านี่คือแข้งต่างชาติชั้นดีของ เอสซีจี เมืองทอง ที่แต่ละคนมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมกับการเป็นสมาชิก กิเลนผยอง
มาริโอ ยูรอฟสกี้ : สำหรับแข้งดีกรีเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติมาซิโดเนียผู้นี้เล่นกับ กิเลนผยอง มาถึงสองช่วง โดยในช่วงแรกระหว่างปี 2012-15 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขากับ เมืองทอง เลยก็ว่าได้ เพราะผลงานส่วนตัวในการจับคู่กับ ธีรศิลป์ แดงดา จนกลายเป็นจุดกำเนินคู่หู M&M ระหว่างเขากับ ธีรศิลป์ แดงดา และพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ไทยลีกในฐานะแชมป์ไร้พ่ายได้เป็นทีมแรก เท่านั้นไม่พอเขายังพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้อีก 1 สมัย และ ช้าง เอฟเอ คัพ 1 สมัยด้วย ก่อนที่ในปี 2019 เขาจะกลับมาร่วมทีม เมืองทอง อีกครั้งแต่ก็ไม่ได้ช่วยทีมอะไรมากมายก่อนที่จะยุติบทบาทการเป็นนักบอลกับ เมืองทอง และหันมาเป็นโค้ชยู 19 ของสโมสรในปัจจุบัน
เคลตัน ซิลวา : กับเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาล โตโยต้า ไทยลัก ด้วยผลงาน 144 ประตู จาก 5 สโมสร ตั้งแต่ โอสถสภาฯ , บีอีซี เทโรศาสน , เอสซีจี เมืองทองฯ , สิงห์ เชียงรายฯ และ สุพรรณบุรี เอฟซี แต่ทุกสโมสรที่ว่ามาไม่มีทีมไหนจะดีไปกว่าตอนที่เขาเล่นให้กับ เอสซีจี เมืองทอง อีกแล้ว โดยเฉพาะในช่วงที่เขาฟอร์มดีที่สุดแถมยิงกระจายสามารถหยิบแชมป์ไทยลีกให้กับ กิเลนผยอง ได้สำเร็จในปี 2016 ซึ่งปีนั้นเขาจบด้วยการเป็นดาวซัลโวของไทยลีกอีกด้วย (26 ประตู) เท่านั้นไม่พอในสีเสื้อ เมืองทอง เขายังสร้างสถิติเป็นนักเตะต่างชาติที่ยิง 100 ประตู และยังเป็นนักเตะต่างชาติคนแรกที่ได้รางวัลดาวซัลโวไทยลีก 2 สมัยอีกด้วย (สมัยแรกได้ตอนเล่นให้กับ บีอีซี เทโรศาสน)
ซูมาโฮโร่ ยาย่า : สำหรับ ยาย่า คือผู้เล่นต่างชาติรายแรกๆ ที่เข้ามาสร้างตำนานยิ่งใหญ่ไว้กับ กิเลนผยอง บนเวทีไทยลีก เพราะเขาเข้ามายกระดับให้เมืองทอง กลายเป็นทีมเบอร์ 1 ของประเทศในเวลานั้น ด้วยลีลา และสกิลของฝีเท้า ที่เรียกได้ว่าหาตัวจับได้ยากมากๆ โดยเขาเล่นให้กับ เมืองทอง ในช่วงปี 2008-2010 ลงสนาม 72 นัด ยิงไป 32 ประตู และถูกยกให้เป็นหนึ่งในนักเตะระดับตำนานของสโมสร ก่อนที่ย้ายไปเล่นในยุโรป กับ เกนท์ ยักษ์ใหญ่ของเบลเยียม แม้ว่าเขาจะหวนกลับมาร่วมทีม กิเลนผยอง อีกครั้งในช่วงเลกที่ 2 ของปี 2017 แต่ทว่าด้วยปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย ทำให้ไม่สามารถร่วมทัพลงแข่งจริงๆ ได้
ดักโน่ เซียก้า : กองกลางตัวรับขวัญใจของแฟนบอล เอสซีจี เมืองทอง ถือเป็นผู้เล่นต่างชาติที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนาน สำหรับมิดฟิลชาวไอวอรี่โคสต์รายนี้ ย้ายเข้ามาสู่ทีมตั้งแต่ปี 2008 ที่สโมสรยังอยู่ในระดับดิวิชั่น 1 โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ลงเล่นให้ เมืองทอง เขาถือเป็นนักเตะที่มีบทบาทกับสโมสรอย่างมาก พร้อมกับเป็นหนึ่งในแข้งต่างชาติที่ลงสนามรับใช้ทีมเกิน 100 นัด และมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัย ก่อนในที่สุดจะโดนปล่อยไปให้กับ เพื่อนตำรวจ ในช่วงกลางฤดูกาล 2014
นาโออากิ อาโอยาม่ะ : สำหรับ นาโออากิ อาโอยามะ กลายเป็นหนึ่งในกองหลังเอเชียที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนนึงของไทยลีกและของ เอสซีจี เมืองทอง โดยเขาย้ายจาก เวนต์ฟอเรท โคฟุ มาร่วมทัพ เอสซีจี เมืองทอง เมื่อฤดูกาล 2015 ก่อนที่จะสถาปนาตัวเองเป็นกองหลัตัวหลักของทีมได้ตั้งแต่ปีแรกที่ลงสนาม และบทสรุป 4 ปีของเขาในการลงสนามช่วยกิเลนผยองไปทั้งสิ้น 105 นัด คว้าแชมป์โตโยต้าไทยลีก 1 สมัย ,โตโยต้าลีกคัพ 1 สมัย และ แม่โขงคลับแชมเปี้ยนชิพ แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้กองหลังรายนี้เป็นที่รักของแฟนบอล กิเลน คือความตั้งใจ และความใจสู้ที่เขาแสดงในสนาม พร้อมกับความเป็นลูกพี่ใหญ่ตามแบบฉบับกองกลังเจแปนทำให้เขาเป็นกองหลังในดวงใจของใครหลายต่อหลายคน
เฮแบร์ตี้ เฟอร์นานเดส : ย้ายกลับมาเล่นในไทยลีกกับ เอสซีจี เมืองทอง ในช่วงเลกที่ 2 ของฤดูกาล 2017 โดยเขาพาทีมคว้าแชมป์ 2 รายการทั้ง โตโยต้า ลีก คัพ และ แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนส์ชิพ สำหรับ "เฮแบร์ตี้" ได้ชื่อว่าเป็น "เดอะแบก" ของ กิเลนผยอง ในช่วงนึงเพราะในช่วงที่ทีมฟอร์มแย่ๆ กลับกลายเป็นเขาที่ต้องแบกทีมอยู่ตลอด แม้ว่าภาพรวมในช่วงที่เล่นให้ เมืองทอง จะไม่ได้พาทีมคว้าแชมป์หรือยิ่งใหญ่อะไรมากมาย แต่การได้เป็นนักเตะ เมืองทอง ของ เฮแบร์ตี้ เฟอร์นานเดส มีแต่แฟนบอลรักเขาและจำภาพเขาได้อย่างชัดเจน ก่อนที่ในปีนี้จะย้ายไปร่วมทีม การท่าเรือ เอฟซีในรูปแบบของการยืมตัว
คริสเตียน เคาคู : ดาวยิงชาว ไอวอรี่โคสต์ ถือเป็นหนึ่งในตัวต่างชาติยุคไทยลีกแรกๆ ที่ขึ้นมาฝากผลงานกับทีม โดยเขาเล่นให้กับ เมืองทอง ตั้งแต่ปี 2010 จนถึง 2012 โดย เคาคู กระหน่ำซัดประตูพร้อมๆ กับคู่หูอย่าง ซูมาโฮโร่ ยาย่า เรียกได้ว่าเขามีส่วนสำคัญกับเกมรุกของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในช่วงเวลานั้นมากๆ แม้ระยะเวลาที่เล่นให้กับทีมแค่ 3 ปี ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับ ก็อง ในลีกเอิง ฝรั่งเศส แต่ลีลา การลากเลื้อยด้วยรูปร่างๆ ผอมบางๆ แต่เร็วจี๋ได้ใจแฟนบอลมากๆ ถือเป็นดาวยิงที่ครบเครื่องคนหนึ่งของ กิเลนผยอง คนนึงเลย
มุสซ่า ซิลล่า : ได้ย้ายมาร่วมทีม กิเลนผยอง หลังจากที่จารึกประวัติศาสตร์เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรก และการเล่นในฐานะกองกลางตัวรับระดับพรีเมี่ยมของเขาทำให้ เมืองทอง ที่แม้จะเป็นน้องใหม่แต่ฟอร์มโหดมากๆ ผนวกกับในตอนนั้นเล่นร่วมกับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว กับ ดักโน่ เซียก้า ทำให้เขากลายเป็น 3 ประสานในแดงกลางที่ลงตัวมากๆ ของทีม โดยในปีนั้น ซิลล่า พาทีมประเดิมแชมป์ไทยลีกปีแรกได้อย่างน่าชื่นชม แต่เขาก็อยู่กับทีมได้ไม่นาน เพราะหลังจากเล่นในปี 2010 กับ เมืองทอง ในรายการเอเอฟซี คัพ ที่เขาก็มีส่วนช่วยทีมทะลุไปถึงรอบรองชนะเลิสอีกด้วย จบปีนั้นก็ย้ายทีม แต่ด้วยความน่ารักนอกสนาม ที่สวนทางกับความดุดันในสนาม ทำให้เขายังคงเป็นที่พูดถึงของแฟนบอลอยู่เสมอ
มาริโอ อบรานเต้ : กองหลังชาวสเปน ย้ายมาค้าแข้งในไทยลีก เมื่อปี 2016 กับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พร้อมกับช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ไทยลีก และแชมป์ร่วม โตโยต้า ลีก คัพ ได้สำเร็จ แม้จะเล่นให้กับ เมืองทอง เพียงแค่ปีเดียว แต่ความสามารถและความแข็งแกร่งของเขาเป็นที่จดจำของแฟนบอลเป็นอย่างมาก ความน่าเสียดายคือหลังจากพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ครั้งแรกกับทีมได้ แต่อดีตกองหลังเยาวชนทีมชาติสเปนวัยไม่ได้รับการต่อสัญญาใหม่กับทีมนี่เอง
รี ควาง ชอน : กองหลังหลังดีกรีทีมชาติเกาหลีเหนือ ชุดฟุตบอลโลก ปี 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ เอสซีจี เมืองทอง ที่เสริมเข้ามาได้อย่างถูกจุดในช่วงเวลานั้น โดยเขาย้ายมาร่วมทีมกิเลนผยอง ฤดูกาลแรกปี 2012 ก็สร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ลีกแบบไร้พ่าย ในปี 2012 แม้ว่าจะค้าแข้งอยู่กับทีมแค่ 2 ฤดูกาล แต่ถือเป็นผู้เล่นแนวรับที่มีผลงานที่ดีคนนึงของ กิเลนผยอง ซึ่งเจ้าตัวลงสนามรับใช้ทีมไป 62 เกมจากทุกรายการแข่งขัน
บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)