logo-heading

ถ้าจะให้แฟนบอลนึกถึงโคตรสุดยอดปราการหลังของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงที่ผ่านมาแน่นอนว่าต้องมีรายชื่อหลายคนผุดขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็น โทนี่ อดัมส์, จอห์น เทอร์รี่, เล็ดลี่ย์ คิง, โซล แคมป์เบลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช หรือเวอร์จิล ฟาน ไดค์ ซึ่งโดยเฉพาะ 2 ชื่อสุดท้ายที่ในช่วงรอบปีที่ผ่านมาทั้งคู่ถูกหยิบยกขึ้นมาเปรียบเทียบถึงความยอดเยี่ยมอยู่บ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะทั้งคู่ต่างเข้าขั้นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือแข้งเวิร์คคลาสระดับโลก ไปแล้ว ขอย้อนความหลังกลับไปที่ เนมานย่า วิดิช กันก่อน โดยปราการหลังชาวเซอร์เบีย คือแข้งโนเนมอย่างแท้จริงในวันที่เขาเปิดตัวย้ายซบ แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงเดือนมกราคม ของฤดูกาล 2005-06 ซึ่งแน่นอนตอนนั้นคำถามถาโถมอย่างมากมายว่าไอ้หมอนี้มันเป็นใคร ทำไม 'ป๋าเฟอร์กี้' ถึงยอมทุ่มเงินกว่า 10 ล้านปอนด์ ไปคว้าตัวมาจากลีกรัสเซียได้ วิดิช Vs ฟาน ไดค์ ความยอดเยี่ยมที่แตกต่างกัน ก่อนที่วันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า วิดิช คือปราการหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งของสโมสร ด้วยความสำเร็จถึง 15 โทรฟี่ ตลอด 8 ปีในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด คือเครื่องการันตีความยิ่งใหญ่ และถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้ วิดิช ถึงได้รับคำชมจากแฟนบอล หรือกูรูนักวิจารณ์ทั้งหลายล่ะ? คำตอบก็คือแนวทางการเล่นที่เป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟตัวชน คอยปะทะคู่แข่ง เข้าบอลหนักหน่วงในเกม ถ้าจะเปรียบก็คือกำแพงเหล็กชั้นดีที่คุณต้องดีจริงถึงจะผ่านไปได้ และเมื่อต้องมาจับคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ มันก็ยิ่งเหมือนคู่หูที่เคมีที่โคตรลงตัว คนหนึ่งเป็นด่านหน้า คอยปะทะ ส่วนอีกคนคอยเก็บกวาด มันเลยทำให้ผลงานของทั้งคู่เมื่อออกมาแล้วมันลงตัว เป็นรสชาติที่โคตรกลมกล่อม  โยกไปดูทางฝั่ง ฟาน ไดค์ กันบ้าง แน่นอนว่าด้วยค่าตัวกองหลังสถิติโลก ณ ตอนนั้น ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามันต้องมีส่วนทำให้กดดันที่ต้องแบกไม่ใช่น้อย และยิ่งบวกกับเขาคือตัวความหวังที่แฟนบอลหวังว่าจะเป็นจิ๊กซอว์ส่วนสำคัญในการพาทีมกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งแล้ว เหมือนยิ่งทวีคูณความคาดหวังมากขึ้นไปอีก แต่แล้ว ฟาน ไดค์ ก็ใช้เวลาไม่นานในการสถาปนาตัวเองให้กลายเป็นยอดเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ พิสูจน์ให้เห็นว่าทีมพัฒนา และดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมีเขาคอยคุมเกมอยู่หลังบ้าน จนกระทั่งพาทีมเริ่มเก็บเกี่ยวความสำเร็จมาครอบครองได้  ซึ่งเมื่อถ้าถามในคำถามเดียวแบบเดียวกันใส่ ฟาน ไดค์ ว่ามีดีที่ตรงไหนบ้าง ถึงถูกยกย่องขนาดนี้? สิ่งที่สังเกตุเห็นได้ชัดเลยคือ ฟาน ไดค์ เป็นปราการหลังที่สุขุม เยือกเย็น และสามารถเล่นเกมรุกในสไตล์เซ็นเตอร์ฮาร์ฟได้ แปลแบบง่ายๆ คือการพาบอลขึ้นไปเอง, เปิดเกมเอง หรือจบสกอร์ได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงสภาวะของผู้นำที่หลั่งไหลอยู่ในตัวเขาแบบเต็มไปหมด ซึ่งเขาใช้เวลาไม่นานในการก้าวขึ้นมาเป็นพี่ใหญ่ของทีม และได้ปลอกแขนมาครอบครอง วิดิช Vs ฟาน ไดค์ ความยอดเยี่ยมที่แตกต่างกัน นอกจากนั้นอีกหนึ่งจุดที่ปราการหลังชาวฮอลแลนด์ ได้เสียงชื่นชมคือ การที่ไม่จำเป็นต้องมีคู่หูที่ยอดเยี่ยม แต่กลายเป็นว่าการที่ใครสักคนมาจับคู่กับเขาก็จะพัฒนาฝีเท้าขึ้นตามไปด้วย สังเกตุได้เลยว่าต่อให้จะเป็น มาติป, ลอฟเรน หรือโกเมซ มายืนเคียงข้าง ก็เหมือนลูกหาบของ ฟาน ไดค์ และมันก็ช่วยให้ออร่าของเจ้าตัวเพิ่มมากขึ้นไปอีก ซึ่งแน่นอนจากสิ่งที่บอกมาทั้งหมดทั้งคู่ต่างมีข้อดี และคุณค่าในตัวเองที่ต่างกันออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งคู่มีก็คือฝีเท้าที่เหมือนจิ๊กซอว์คอยอุดปัญหา หรือรอยรั่วของทีมได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้าจะให้เทียบกันแบบปอนด์ต่อปอนด์ เอาสถิติตัวเลขมากางให้เห็นชัดๆ มันก็ไม่อาจยกมือให้ใครชนะได้อย่างแน่นอน  อย่างน้อยมันก็ต่างยุคต่างสมัย ฟุตบอลที่ทั้งคู่เล่นก็ต่างกันนับ 10 ปี ให้ลองสลับยุคกันเล่น ผลงานอาจไม่ออกมาแบบที่เห็นก็เป็นได้ สุดท้ายการที่ทั้งคู่ต่างอยู่ในทีมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของประวัติศาสตร์ และแฟนบอลมากพอๆ กัน มันเลยเกิดเป็นประโยคคำถามที่ยากจะหาคำตอบว่าใครเหนือกว่าใคร บทสรุปสุดท้ายการไม่มีคำตอบอาจจะดีที่สุด มุมมองของใครของมัน ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเองมารองรับ แต่ก็ไม่ควรจะกดขี่ให้ใครดูแย่ทั้งนั้น และเมื่อมันมาถึงตรงนี้ ตัวคุณเองล่ะมองในรูปแบบไหน ใครมีดีที่ตรงไหนอีกบ้าง และด้วยเหตุผลอะไรคอมเมนต์มาพูดคุยกันได้เลยครับ ...
logoline