การออกสตาร์ทไทยลีก 2020 ของระยอง เอฟซี อาจจะไม่สวยงาม 4 เกมแรก พวกเขาปราชัยรวด หาชัยชนะไม่เจอ จนเป็นเหตุให้กุนซือที่ทำทีมเลื่อนชั้นจากปี 2019 อย่างชูศักดิ์ ศรีภูมิ ตัดสินใจไขก็อกลาออก ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับม้านิลมังกรพอสมควร เพราะโค้ชรายนี้คือผู้สร้างทีมเล็กๆจากลีกภูมิภาค ขึ้นมาเล่นลีกพระรองของเมืองไทย และกลับมาพาทีมเลื่อนชั้นได้สำเร็จ เพราะนักเตะไทยเกินครึ่งทีมเป็นการปลุกปั้นเจียระไนจากเขามาแทบจะทั้งหมด บางคนแทบจะยอมตายแทนเขาได้เลยด้วยซ้ำ
การที่ชูศักดิ์ ศรีภูมิ ใช้วิธีสร้างผู้เล่นขึ้นมาในยุคที่บอลไทยข้าวยากหมากแพง สิ่งหนึ่งมันก็พิสูจน์ได้ว่าบางครั้งฟุตบอล เงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ กึ๋นมันสมองคือปัจจัยที่บ่งชี้ถึงขีดความสามารถตัวบุคคล และเราก็ขอหยิบยกนักเตะของดีของสโมสรแห่งนี้ที่มาจากการให้โอกาสของโค้ชชู
เนื้อหาทุกอย่างพร้อมแล้วเชิญเลื่อนเมาท์ไปอ่านได้เลยครับ
เทพพิทักษ์ พูลจวง
เมสซี่แห่งเมืองระยอง อดีตเพื่อนร่วมรุ่นศุภชัย ใจเด็ด ที่โรงเรียนปทุมคงคา แต่โชคชะตากลับสวนทางกันอย่างชัดเจน “เอิร์ธ” กลับบ้านเกิดและหันมาเตะบอลเดินสาย ทว่าการไปส่งพี่ชายตัวเองในการซ้อมบอลกับทีมม้านิลกรในปี 2015 ที่มาเปลี่ยนชีวิตเด็กอายุ17 ปีในเวลานั้น โค้ชชูศักดิ์ ศรีภูมิ ให้โอกาส เทพพิทักษ์ มาทดสอบฝีเท้าและใส่ชื่อเป็นนักบอลลงแข่งลีกดิวิชั่น 2 ด้วยความที่มุ่งมั่นที่จะล่าฝันในการเล่นฟุตบอล 5 ปีเต็มจากแข้งโนเนมในวันวานและยกระดับฝีเท้าตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงบอลที่คล่องแคล่วกว่าเดิม การหาจังหวะยิงประตู การเล่นลูกตั้งเตะ หรือแม้กระทั่งการแอสซิสต์ เรียกว่าสโมสรเล็กๆแห่งนี้ช่วยบ่มเพาะให้เขากลายเป็นแข้งเนื้อหอมขึ้นมาได้จนมีชื่อได้ลงเล่นไทยลีกในชีวิต ซึ่งถ้าเทพพิทักษ์ รักษาเนื้อรักษาตัวฝึกฝนไปเรื่อยๆโอกาสในนามทีมชาติคงไม่ไกลแน่
อนุชิต เงินบุคคล
แข้งเนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งของสโมสรระยอง เอฟซี ที่โดนหลายสโมสรชอบมาทาบทามตัวอยู่เป็นประจำ แต่ด้วยความที่เขาแทบจะลงหลักปักฐานที่นี้ไปแล้ว ทำให่เขาไม่อยากย้ายไปเล่นที่ไหน อนุชิต เป็นกองกลางตัวรับตัดเกมคุมจังหวะให้ทีมมาช้านานนอกจากตัดเกม “พี่เอ” ยังมีทีเด็ดทีขาดในเรื่องการยิงไกลที่เป็นอาวุธชั้นดีซัพพอร์ททีมด้วย เขาเป็นนักบอลโนเนมที่เกิดมาจากลีกภูมิภาคดิวิชั่น จนเมื่อมีโอกาสไปเล่นลีกที่สูงกว่ากับสุโขทัย เขาทำได้แค่รับเงินและซ้อมไปวันๆ ซึ่งนั้นทำให้เขาได้บทเรียนแล้วกลับมาฝึกฝนพัฒนาตัวเองจนก้าวมาเป็นคนสำคัญที่สโมสรเล็กๆแห่งนี้จะขาดไม่ได้เสียแล้ว
กีรติ แก้วหนองแดง
แบ็กซ้ายจากจังหวัดเลยที่ไปเล่นบอลเยาวชนโค้กคัพกับหนองบัวพิชญ ก่อนจะติดทหารและไปรับราชการทหารเรือและนั้นทำให้เขาต้องย้ายมาใช้ชีวิตละแวกระยองและสัตหีบ จนได้สโมสรอาชีพคือนาวิกโยธิน ซึ่งเป็นทีมสำรองของราชนาวี และมีโอกาสได้ขึ้นมาสัมผัสทีมชุดใหญ่แบบปะปลาย แต่ด้วยโอกาสที่น้อย ทำให้ช่วงปี 2019 โค้ชชูศักดิ์ ที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการวิ่งหาแข้งโนเนมมูลค่าไม่แพงเอามาปลุกปั้น ตัดสินใจดึง “อาร์ท” มาร่วมทีมม้านิลมังกร เขาตอบความไว้วางใจผู้มีพระคุณด้วยการแจ้งเกิดในการลงเล่นไทยลีก 2 และช่วยระยอง เอฟซี เลื่อนชั้นไปไทยลีก น่าเสียดายที่ระยะเวลาของเขาและโค้ชชูสั้นไปหน่อย ไม่งั้นคงมีเวลาได้พัฒนาฝีเท้ามากกว่านี้
สุวัฒน์ จันทร์บุญภา
อดีตเซ็นเตอร์แบ็คโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่จับคู่กับฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ก่อนจะได้โอกาสไปเล่นทีมเยาวชนพัทยา ยูไนเต็ด หลังจากไม่มีโอกาสได้สัมผัสเวทีไทยลีก “หมู” จึงวิ่งไปหาทีมที่พร้อมจะให้เขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เริ่มตั้งแต่ระยอง เอฟซี, ปทุมธานี เอฟซี, ลำพูน วอริเออร์, สุโขทัย เอฟซี, ลำปาง เอฟซี, เกษตรศาสตร์ แม้จะเป็นคนที่เข้าบอลหนักรุนแรงและโหดตามสไตล์ แต่เขาเป็นนักบอลที่นิสัยดีเรียบง่ายไม่มีพิษมีภัยกับใคร หลังหมดสัญญากับลำปาง เมื่อปีกลาย ชูศักดิ์ ศรีภูมิ ที่เคยเรียกใช้บริการแข้งรายนี้ตั้งแต่ระยอง เอฟซี ปี 2013 และสุโขทัย เอฟซี 2014 จึงตัดสินใจเรียกลูกน้องเก่ากลับมาร่วมทีมบ้านเกิดอีกครั้ง และนี่คือครั้งแรกที่เขาได้ลงเล่นไทยลีก
นันทวัฒน์ สวนแก้ว
เด็กสร้างจากโครงการฟุตบอลโรงเรียนราชวินิตบางเขน ที่ได้รับเลือกให้มาเป็นนักเตะบางกอกกล๊าส แต่ “ป้อม” พบความจริงว่า โอกาสที่จะได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่น้อยเกินไป และนั้นทำให้ ไอ้หนุ่มเมืองกระบี่ ต้องออกไปหาพื้นที่การลงสนามทั้ง ขอนแก่น เอฟซี และอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ก่อนที่ฝีเท้าจะไปเข้าตา ชูศักดิ์ ศรีภูมิ กุนซือทีมม้านิลมังกรในเวลานั้น ชักชวนมาร่วมทีมในระดับไทยลีก 2 ในเลกที่ 2 ปีกลาย จากแข้งโนเนมชื่อไม่ดัง นันทวัฒน์ ค่อยๆแทรกซึมขึ้นมาเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงสโมสร สิ่งที่เป็นจุดเด่นของแข้งรายนี้คือ การเลี้ยงบอลที่เชื่องเท้าจี้กินตัวคู่แข่ง ซึ่งมันสั่งสมมาจากเบสิคที่เน้นจากการลงแข่งขันฟุตซอลสนามเล่น และ ป้อม ปรับตัวให้เข้ากับบอลสนามใหญ่ได้สบาย และช่วยทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่ไทยลีก 2020




