logo-heading

สิ่งที่หล่อเลี้ยงสโมสรฟุตบอลให้ดำเนินต่อไปได้ในทุกวันนี้ก็คือเรื่องของเม็ดเงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าบำรุง ซ่อมแซมสโมสร, ค่าเหนื่อยบุคลากร รวมไปถึงการซื้อนักเตะเข้าสู่ทีม

ว่าแล้วก็มีสื่อต่างประเทศอย่าง football365 ได้ทำการจัดอันดับสโมสรฟุตบอลที่มีค่าใช้จ่ายสุทธิมากที่สุดในรอบ 5 ปีหลังสุดมาให้ชมกัน ซึ่งสโมสรไหนจะเข้าโผมาอยู่ในอันดับเท่าไหร่กันบ้าง ไปติดตามกันได้เลย ...

10.) ไบร์ทตัน

การใช้จ่ายสุทธิ : 214.8 ล้านปอนด์

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทีมแบบ ไบร์ทตัน จะเข้าโผมาอยู่ในอันดับที่ 10 เพราะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพวกเขาต้องใช้จ่ายเงินซื้อนักเตะเสริมทัพไปไม่ใช่น้อย ซึ่งมันต่างกับขาออกที่ทีมมักปล่อยออกไปแบบฟรีๆ หรือขายแบบไม่ได้มีมูลค่าที่สูงมากเท่าที่ควร โดยในช่วงฤดูกาล 2018-19 พวกเขาเจียดเงินไปซื้อแข้งใหม่มากถึง 88.3 ล้านปอนด์ ซึ่งแข้งแพงสุดก็คือ อลิเรซ่า ยาฮานบาคช์ ดาวเตะชาวอิหร่อน ที่จำนวน 17 ล้านปอนด์  และก็อย่างที่กล่าวไปในช่วง 5 ปี หลังมานี้ทีมไม่ได้ปล่อยนักเตะในมูลค่าที่สูงไปกว่า 3.5 ล้านปอนด์ออกจากทีมเลย แต่ทว่า ณ ปัจจุบันพวกเขาก็ยังพอมีแข้งทำเงินให้ได้อยู่ในกรณีที่ต้องการหาเงินเข้าคลังสโมสร นั้นก็คือ ลูอิส ดังก์ ที่มีมูลค่าประเมินมากถึง 50 ล้านปอนด์ 10 สโมสรที่มีค่าใช้จ่ายสุทธิมากที่สุดในรอบ 5 ปีหลังสุด

9.) เอฟเวอร์ตัน 

การใช้จ่ายสุทธิ : 225.42 ล้านปอนด์

สโมสรระดับกลางของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ทุ่มเงินในการซื้อนักเตะมาพอสมควร ซึ่งในช่วง 5 ปีหลังสุดพวกเขาซื้อนักเตะที่มูลค่าสูงกว่า 20 ล้านปอนด์ เข้าสู่ทีมากถึง 14 คน โดยแข้งที่แพงสุดนั้นก็คือ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ที่ทีมซื้อมาจาก สวอนซี ด้วยค่าตัว 42 ล้านปอนด์ แต่ใช่ว่าจะซื้อแพงอย่างเดียว ในส่วนของขาออกพวกเขาทำเงินได้มากพอควรกับการปล่อย โรเมลู ลูกากู ไปร่วมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 73 ล้านปอนด์ และกับเป้าหมายของทีมในตอนนี้คือการกลับไปเล่นยังศึกสโมสรยุโรปอีกครั้ง และเมื่อกุนซือของพวกเขามีนามว่า คาร์โล อันเชล็อตติ มันยิ่งเเพิ่มความหวังให้มากขึ้นไปอีก แน่นอนอนาคตอันใกล้นี้บอร์ดบริหารคงเตรียมตัวเสียเงินก้อนโตอีกแน่ เพราะมันก็ต้องแลกมาด้วยแข้งชื่อดัง ที่ค่าตัวแพงแน่ๆ

8.) ยูเวนตุส (258.79)

การใช้จ่ายสุทธิ : 258.79 ล้านปอนด์

ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา ยูเวนตุส สามารถขายนักเตะออกจากสโมสรด้วยค่าตัวอย่างน้อย 20 ล้านปอนด์ ได้มากถึง 8 คน ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือดีลของ ปอล ป็อกบา ที่ขายกลับไปให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่พวกเขาก็ยังคงความยิ่งใหญ่ในศึกกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ได้อย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าเงินที่พวกเขาได้รับเข้ามาก็แปรเปลี่ยนเป็นแข้งชื่อดังราคาแรงหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เปาโล ดีบาล่า, กอนซาโล่ อิกวาอิน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือล่าสุดอย่าง มัตไธส์ เดอ ลิกต์ นอกจากนั้นยังมีแข้งอีกรายคนที่เข้ามา และออกไปจากสโมสร หรือเป็นพวกดาวรุ่งของสโมสรที่ไม่อาจแจ้งเกิดกับทีมได้ ก็ถูกปล่อยออกไปในราคาถูก แต่เมื่อนำมารวบกันมันก็เป็นมูลค่าที่มากพอสมควรเลยทีเดียว 10 สโมสรที่มีค่าใช้จ่ายสุทธิมากที่สุดในรอบ 5 ปีหลังสุด

7.) อาร์เซน่อล

การใช้จ่ายสุทธิ : 267.88 ล้านปอนด์

"ไอ้ปืนใหญ่" สามารถบ่อยผู้เล่นออกจากทีมในราคาที่สูงกว่า 20 ล้านปอนด์ ในช่วง 5 ปีหลังได้มากถึง 9 คน ดีลเด่นๆ ก็พวก อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน หรือ อเล็กซ์ อิโวบี้ ส่วนนักเตะที่พวกเขาซื้อเข้ามาก็ถือว่าราคาไม่ธรรมดาเลยทีเดียวเฉกเช่นในรายของ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมยอง ที่จำนวน 54 ล้านปอนด์ หรือแข้งล่าสุดอย่าง นิโกลาส์ เปเป้ ที่ต้องควักเงินจ่ายไปกว่า 69 ล้านปอนด์ และตัวเลขมันอาจเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากพวกเขาไม่ได้ไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาต่อเนื่องหลายฤดูกาลแล้ว ซึ่งนั้นคือสิ่งที่ทีมต้องหาทางแก้ไข และกลับไปลุยบอลยุโรปถ้วยใหญ่อีกครั้งให้ได้

6.) อินเตอร์ มิลาน

การใช้จ่ายสุทธิ : 279.7 ล้านปอนด์

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ และตลาดเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา อินเตอร์ มิลาน คือสโมสรที่ลงทุนซื้อนักเตะมาเสริมทัพมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น โรเมลู ลูกากู, คริสเตียน อิริคเซ่น, มัตเตโอ โปลิตาโน่ หรือว่าแอชลี่ย์ ยัง รวมๆ เราก็อยู่ที่ประมาณ 140 ล้านปอนด์ ไหนจะค่าใช้จ่ายซื้อนักเตะในช่วงซัมเมอร์อื่นๆ ที่ลงทุนไปเยอะทีเดียวเช่น เจฟฟรีย์ ก็องด็อกเบีย 31 ล้านปอนด์, เจา มาริโอ 38 ล้านปอนด์ หรือ มิลาน สคริเนียร์ 29 ล้านปอนด์ ทำให้รายจ่ายค่อนข้างสูง เมื่อนำมาเทียบกับจำนวนเงินที่เข้ามา ซึ่งเมื่อกวาดสายตาดูแล้วในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาทัพ "งูใหญ่" ขายนักเตะพอทำเงินได้ไม่เยอะ ฉะนั้นแล้วเมื่อมาบวก-ลบ กันมันเลยไม่ค่อยจะสมดุล ซึ่งคราวนี้ก็ต้องมาวัดผลงานในสนามแล้วละ ว่าจะออกมาในทิศทางไหน 10 สโมสรที่มีค่าใช้จ่ายสุทธิมากที่สุดในรอบ 5 ปีหลังสุด

5.) บาร์เซโลน่า

การใช้จ่ายสุทธิ : 319.32 ล้านปอนด์

ดูเหมือนว่าในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า จะทำเงินจากการขายนักเตะได้มากพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งนั้นมันเกิดจากเอฟเฟ็คที่พวกเขาปล่อย เนย์มาร์ ให้ย้ายไปร่วมทัพ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตัว193 ล้านปอนด์ นั้นเอง แต่ทว่าพวกเขาก็เป็นสโมสรที่ใช้เงินจ่ายซื้อนักเตะในระดับ 100 ล้านปอนด์ขึ้นมาถึง 3 คน แล้ว ประกอบไปด้วย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อุสมาน เดมเบเล่ และอ็องตวน กรีซมันน์ ไหนจะค่าตัวแข้งรายอื่นๆ อีก เพราะฉะนั้นเมื่อกดเครื่องคิดเลขดูแล้ว มันก็เลยจะเห็นเป็นตัวเลขสีแดงปรากฎขึ้นมา

4.) เอซี มิลาน

การใช้จ่ายสุทธิ : 350.05 ล้านปอนด์

ยักษ์หลับแห่งศึกกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี แอบใช้จ่ายไปเยอะมากพอควร ซึ่งจะว่าไปดูเหมือนในช่วง 5 ปีหลังมานี้พวกเขาจะไม่ค่อยได้ทุ่มซื้อนักเตะคนไหนในระดับที่เรียกว่าแพงเว่อร์ แต่ "ปีศาจแดง-ดำ" ใช้วิธีการซื้อถูก แต่ซื้อเยอะ อย่างเช่นในฤดูกาลนี้พวกเขาเจียดเงินซื้อนักเตะไปแล้วกว่า 85 ล้านปอนด์ ซึ่งที่ได้มาก็พวก ธีโอ เอร์นานเดซ, ราฟาเอล เลเอา หรืออิสมาเอล เบนนาเซอร์ ส่วนขาออกที่ฮือฮาหน่อยก็คือในรายของ คริสตอฟ เปียเท็ค ที่ขายไปให้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ หรืออีกรายก็อย่าง พาทริค คูโตเน่ ที่ปล่อยไปให้ วูลฟ์แธมป์ตัน ในราคาพองาม 15 ล้านปอนด์

3.) ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

การใช้จ่ายสุทธิ : 368.64 ล้านปอนด์

หลังจากที่พวกเขาทุ่มเงินเปรี้ยงก้อนโตคว้าตัว คีเลียน เอ็มบัปเป้ กับเนย์มาร์ มาครอยครองแล้ว ทีมก็ได้ทำการวิเคาระห์เรื่องของกำไร ขาดทุน และกฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ ทำให้หลังจากนั้นทีมไม่ได้ทุ่มซื้อใครแบบบ้าเลือดอีกเลย จะมีก็เพียงรายย่อยเช่น อับดู ดิอัลโล, อิดริสซา เกย์ หรือปาโบล ซาราเบีย ที่ราคาไม่ได้สูงมากนัก แต่ดูเหมือนว่าในช่วงซัมเมอร์พวกเขาอาจจะเสียเงินก้อนโตประมาณ 60 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นค่าตัวของ เมาโร อิคาร์ดี้ หัวหอกที่ทีมยืมตัวมาจาก อินเตอร์ มิลาน แล้วฟอร์มดันดี ถูกใจแฟนบอลเป็นอย่างมาก 10 สโมสรที่มีค่าใช้จ่ายสุทธิมากที่สุดในรอบ 5 ปีหลังสุด

2.) แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

การใช้จ่ายสุทธิ : 484.88 ล้านปอนด์

หนึ่งในทีมที่ใช้จ่ายซื้อตัวผู้เล่นด้วยมูลค่าการเงินที่สูงลิบในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถ้าจะให้พูดคงไล่เรียงกันไม่ไหว เอาที่เด่นๆ ราคาแรงๆ ก็อย่างเช่น อังเคล ดิ มาเรีย, ปอล ป็อกบา, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, โรเมลู ลูกากู หรือล่าสุด เจ้าของตำแหน่งกองหลังที่แพงที่สุดในโลกอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ แต่ทว่าในส่วนของขาออกพวกเขาล้มเหลวพอควร เพราะแข้งบางคนซื้อมาแพง แต่กลับปล่อยออกไปในราคาที่ถูกกว่าที่สื่อประเมินไว้ อาทิเช่น ซื้อ ดิ มาเรีย ในราคา 65 ล้านปอนด์ แต่กลับปล่อยออกไปเพียง 54 ล้านปอนด์ ภายหลังใช้งานได้เพียงซีวั่นเดียว หรือในรายของ เมมฟิส เดปาย แข้งเทพจากฮอลแลนด์ ควักกระเป๋าจ่ายไป 29 ล้านปอนด์ แต่ 2 ปีให้หลังปล่อยออกไปให้ ลียง เพียง 13 ล้านปอนด์ เท่านั้น และตามคาดการณ์อนาคตอันใกล้นี้ ถ้าพวกเขาอยากจะกลับไปลุ้นแชมป์อีกครั้ง อาจจะต้องระเบิดคลังในการพาแข้งฟอร์มเด่นโยกย้ายมาลากเลื้อยในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ให้ได้ ซึ่งแน่นอนมันคงใช้เงินในจำนวนไม่น้อยเลย

1.) แมนเชสเตอร์ ซิตี้

การใช้จ่ายสุทธิ : 600.63 ล้านปอนด์

อย่างที่เราทราบกันว่ากว่า "เรือใบสีฟ้า" จะก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดนี้ได้ พวกเขาต้องเปลี่ยนแปรงทีมไปมากขนาดไหน และส่วนสำคัญนั้นก็คือการซื้อตัวผู้เล่นระดับคุณภาพเข้ามาสู่ทีมให้ได้ ซึ่งในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา แมนฯ วิตี้ เองก็มีหลายดีลที่ต้องควักเงินแพงมากพอควรไม่ว่าจะเป็น เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ริยาร์ด มาเรซ หรือล่าสุดอย่าง โรดรี้ แต่ทว่าในการปล่อยนักเตะออกจากทีมในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา มีนักเตะเพียง 3 เท่านั้น ที่ทีมปล่อยออกไป และได้ค่าตัวมากกว่า 20 ล้านปอนด์ นั้นก็คือ อัลบาโร่ เนเกรโด้, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ และดานิโล่ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทีมของพวกเขาจะถึงจัดอันดับเข้ามาติดโผในอันดับที่ 1 ส่วนสโมสรใหญ่อื่นๆ ที่ไม่เข้ามาติดโผ 10 อันดับแรกอย่าง ลิเวอร์พูล พวกเขารั้งอยู่อันดับ 29, เชลซี อันดับ 25, ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ อันดับ 30 และเรอัล มาดริด ติดโผเข้ามาในอันดับที่ 12
logoline