ผมเคยสงสัยว่าเหตุผลอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ดาเนียล เคร็ก เข้าตาทีมผู้สร้างเจมส์ บอนด์ จนได้มีโอกาสมาสวมบทบาท 007 ปาดหน้านักแสดงดังชื่อดังมากมายในปี 2005 กระทั่งเอามีโอกาสได้ดูงานของ แมทธิว วอห์น ที่เคร็กได้แสดงนำเมื่อปี 2004 รู้สึกเลยว่าลุคพี่แกนั้นเด่นชัดและเตะตาทีมงานเป็นอย่างยิ่ง
ข้อดี
บทหนังเขียนได้มีน้ำหนักและละเอียดมาก ตัวละครและทุกๆเหตุการณ์ของหนังเชื่อมโยงเนื้อหาเข้าหากันได้อย่างแนบเนียน เรื่องราวมาเฟียแก๊งค์ค้ายา และพ่อค้าคนกลางต่อรองผลประโยชน์ หาเส้นสายปล่อยของแต่มันดันไปไกลเกินขอบเขต หนังสนุกตรงที่ว่าการสาดเนื้อหาวงการค้ายาไม่ได้เน้นไปที่ประเด็นไม่พอใจแล้วยิงต่อสู้กัน แต่มันเป็นการเอาตัวรอดชิงไหวชิงพริบกัน ไม่มีใครไว้ใจได้เลยในวงการนี้
ต้องชื่นชมแมทธิว วอห์น ที่กำกับหนังเรื่องนี้แล้วปรุงแต่งให้หนังน่าดู สร้างความอันตรายในวงการอบายมุข โดยที่ไม่จำเป็นต้องสร้างประเด็นให้ดูเป็นหนังแอ็คชั่น
ถ้าหากคุณไม่ตั้งดูหนังเรื่องนี้หรือสังเกตุการกระทำของตัวละคร คุณอาจจะดูแล้วงงๆ เมื่อถึงจุดไคลแมกซ์ของหนังในช่วงท้าย
นักแสดง
ถ้าหากคุณดูหนังเรื่องนี้แล้วเห็นการแสดงของ ดาเนียล เคร็ก คุณจะรู้สึกเลยว่าลุคเจมส์ บอนด์ ที่คุณเห็นจากฝีมือการแสดงของเขามาตลอด 14 ปี บุคลิกท่าทางแทบไม่ต่างจากหนังเรื่องนี้เลย และหนังเรื่องนี้ เขาก็เป็นอาชญากรที่ฉลาดมากทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
ข้อเสีย
ยังรู้สึกว่าหนังยังไม่ได้ให้ความสนุกได้ไม่สุดทาง ยังมีรอยโหว่ จุดเปราะบางอยู่และตัวละครก็มีเยอะมากเกินไป ทั้งที่ความจริงน้ำหนักในการดำเนินเรื่องจริงๆ มีตัวละครใช้งานได้อยู่ไม่กี่คน
สรุป
นี่คือหนังมาเฟียแก๊งค์สเตอร์ชั้นดีที่ดูเอามัน การดำเนินเรื่องสนุก ชิงไหวชิงพริบได้อย่างมีชั้นเชิง แมทธิว วอห์น ปรับแต่งให้น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ฉากแอ็คชั่นมาเป็นจุดขายของเรื่อง
หนังมีให้ชมแบบถูกลิขสิทธิ์แล้วในแพลตฟอร์ม Netflix