logo-heading

เป็นที่ทราบกันดีว่าแล้ว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะไม่มีการตัดจบซีซั่น แบบ ลีกดัตช์ หรือ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ต่อให้สถานการณ์ "โควิด-19" จะระบาดไปทั่วโลก แต่ไม่ใช่จู่ๆอยากจะกลับเตะ ก็เตะกันดื้อๆ เพราะรัฐบาลไฟเขียว พร้อมสนับสนุนน ‘Project Restart’ ให้ลีกสูงสุดแดน "ผู้ดี" กลับมาเริ่มต้นกันอีกครั้ง หลังเลื่อนกันมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม

วันศุกร์นี้จะได้บทสรุปชัดเจนแน่ๆ เพราะทั้ง 20 สโมสร จะมีการประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ว่าจะหาทางออกและมีมาตรการอย่างไรบ้าง ในการคัมแบ็กฟาดแข้งอีกครั้ง ซึ่ง 5 วาระต่อจากนี้ อยากให้ทุกคนได้รู้ว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีประเด็นสำคัญอะไรมาเจรจาหารือ เพื่ออย่างน้อยก็มอบความสุข ต่อสู้กับโรค "โควิด-19"

  1. กำหนดการโปรแกรมกลับมาเตะ
โปรเจ็คท์ "รีสตาร์ท พรีเมียร์ลีก อังกฤษ" จะต้องกำหนดวันให้ชัดเจนแจ่มแจ้งไปเลยว่า "เวลาคิกออฟคือวันไหน" ซึ่งประเด็นนี้จะเป็นอีกหนึ่งหัวเรื่องสำคัญ ในการหาทางออกของทั้ง 20 สโมสร โดยเดิมทีคาดการณ์กันว่าจะกลับมาฟาดแข้งอีกครั้งในวันที่ 8 มิถุนายน นี้ และ จะให้กลับมาซ้อมกันอย่างเต็มพิกัด ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โปรแกรมต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของแต่ละสโมสรด้วย ห้ามลืมเด็ดขาดว่าความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก สถานการณ์ก็ห้ามเลวร้ายไปกว่านี้ เพราะปัจจุบันไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่ามีกุนซือหรือนักเตะติดเชื้อ ถ้าหาบทสรุปลงตัวก็กำหนดวันแข่งขันให้มันชัดเจนแล้ว มันก็ต้องพอเหมาะพอเจาะในการให้เวลานักเตะเรียกความฟิตกลับมาลงสนามด้วย การพักไปนานกว่า 1 เดือน พวกความฟิตก็คงไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะได้แค่ออกกำลังกายอยู่ที่บ้าน ไหนจะเวลาเตรียมเรื่องแท็คติค ฉะนั้นต้องวางเรื่องไทม์ไลน์กันให้ชัดเจน เตะเมื่อไหร่ และ กรอบเวลาที่ใช้แข่งขันจะจบเมื่อใด ซึ่งวันศุกร์นี้ก็ได้บทสรุปกันแล้ว
  1. มาตรการรับมือโควิด-19
หลังจากที่ รัฐบาลอังกฤษ ให้ไฟเขียว พรีเมียร์ลีก พร้อมกลับมาเตะ แต่กระนั้นมาตรการตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ต้องละเอียดยิบชนิดที่คลาดสายตาไม่ได้ ว่ากันว่าเหล่านักเตะ, สตาฟฟ์โค้ช, ผู้บริหาร และ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ยามถึงวันฟาดแข้ง จะต้องตรวจโรคอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก่อนการแข่งขัน ผู้ร่างแผนรับมือ โควิด-19 โดย ดร. มาร์ค ยิลเล็ตต์ ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ร่างแผนการรับมือไว้คร่าวๆแล้ว แน่นอนว่าวาระการประชุมหนนี้ ก็จะให้ตัวแทนจาก 20 สโมสร ได้ออกความคิดเห็น, ความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ จากงบประมาณของลีก รวมถึงเมื่อถึงวันคิกออฟ จะต้องจำกัดจำนวนคนให้ชัดเจน ว่าห้ามเกินเท่าไหร่ในสนาม ตามรายงานจากสื่อแดน "ผู้ดี" ระบุว่าไว้ว่า 1 แมตช์การแข่งขัน จะมีแค่ 300 คน เท่านั้น ซึ่งวันศุกร์นี้จะชัดเจนว่า มีนักเตะได้กี่คน, สตาฟฟ์กี่คน, บอร์ดบริหาร, ทีมแพทย์, เจ้าหน้าที่สนาม, ทีมถ่ายสด และ อื่นๆตามเหมาะสม เพื่อความปลอดภัย รายละเอียดกับผู้คนจำนวน 300 คน มีใครบ้าง คลิก
  1. หารือทางออกนักเตะหมดสัญญา
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องถกเถียงกันหนักแน่ๆ นั่นคือความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนักเตะที่จะหมดสัญญากับต้นสังกัดในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ เพราะถ้า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กลับมาโม่แข้งวันที่ 8 มิ.ย. จริงๆ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจบให้ทันสิ้นเดือน เนื่องด้วยมีถึง 92 แมตช์เดย์ ที่เหลืออยู่ จากกฎบัญญัติในสัญญา นักเตะที่หมดสัญญาสามารถแยกทางกับสโมสรได้โดยชอบธรรม ต่อให้ ฟีฟ่า จะอนุญาตให้ขยายสัญญาไปจนกระทั่งจบลีกก็ตาม แต่กระนั้นมันก็มีบางทีมที่อยากให้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เตะกันให้จบๆกันไปเลยในวันที่ 30 มิ.ย. เพื่อเป็นการตัดปัญหาเรื่องข้อผูกมัด [caption id="attachment_112764" align="aligncenter" width="1280"] ลงเอยแบบไหน?! 6 วาระประชุม พรีเมียร์ลีก ที่ต้องรู้ รีสตาร์ทสู้ โควิด-19 วิลเลี่ยน คือหนึ่งในนักเตะที่จะหมดสัญญากับ เชลซี วันที่ 30 มิ.ย.[/caption] แต่กระนั้นมันก็จะมีข้อถกเถียงว่า "ถ้ารีบให้โปรแกรมการแข่งขันเตะกันถี่ยิบเกินไป" จะไม่ยุติธรรมกับสโมสรที่ต้องลุ้นแชมป์, ลุ้นโควต้ายุโรป หรือ ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น เพราะสภาพร่างกายของมนุษย์ ก็มีวันเปราะบาง ไม่ได้แข็งแกร่งเหนือกว่าคนไหน ฉะนั้นเรื่องสัญญานักเตะที่จะหมดหลังจบวันที่ 30 มิ.ย. ต้องถกเครียดอย่างแน่นอน
  1. สถานที่เก็บตัวของนักกีฬา
ถ้ารัฐบาลอนุญาตให้กลับมาเตะแบบเป็นทางการ, กำหนดวันซ้อม และ วันแข่งขันชัดเจน สถานที่เก็บตัวก็จะเป็นประเด็นรองลงมา ในการหาทางออกว่าแต่ละทีมจะมีมาตรการอย่างไร เพราะในช่วงฝึกซ้อมแรกๆ ก็ให้อาบน้ำแต่งตัวมาจากบ้านใครบ้านมัน ซ้อมแบบมีระยะห่าง ห้ามประชิดถึงตัว และ ที่สำคัญซ้อมเสร็จกลับบ้านทันที แต่ก็มีแว่วๆมาว่า ถ้าได้วันกลับมาซ้อมแบบชัดเจนแล้ว แต่ละสโมสรจะเลือกโรงแรมที่พัก ให้นักเตะและบุคลากรสโมสร เข้ามาเก็บตัวเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อเป็นการควบคุมเรื่องสุขภาพ และ ง่ายต่อการดูแล ซึ่งหลายๆทีมก็เจรจาเรื่องนี้กันอยู่ เพราะต้องให้ทีมเยือนมาพักโรงแรมเดียวกัน และ เมื่อมีการเช็คเอาท์ จะทำความสะอาดใหญ่ทันที ซึ่งก็คงจะได้บทสรุปเร็วๆนี้
  1. เตะสนามกลาง ?
อีกหนึ่งวาระที่คงมีการพูดถึงกัน คือเรื่องของสนามที่ใช้การแข่งขัน จริงอยู่ที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะเตะแบบปิดสนาม ห้ามแฟนบอลเข้าชม โดยจะยิงสดถึงหน้าจอโทรทัศน์ อยู่ที่ว่าจะมีผ่านฟรีทีวีหรือไม่ แต่กระนั้นเรื่องของสังเวียน ก็ต้องมีการหาทางออกกันว่า "จะใช้สนามกลาง" หรือ ตามโปรแกรมเจ้าบ้าน แน่นอนว่า ทีมเหย้า ก็อยากให้ใช้สนามตัวเองฟาดแข้งอยู่แล้ว เพื่อความคุ้นเคยมากกว่า เพราะถ้าสูญเสียข้อได้เปรียบตรงนี้ไป ย่อมมีทีมไม่พอใจแน่นอน ต่อให้จะมีการอ้างอิงเพื่อตัดปัญหาเรื่องการเดินทาง และ มาตรการรับมือเชื้อร้าย โควิด-19 ก็ตาม จากรายงาน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้วาง 2 สังเวียน ไว้เป็นที่ประลองฝีเท้า หากต้องเตะสนามกลางจริงๆ คือ 1. เวมบลีย์ สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งทันสมัยและเลิศหรู รองรับทุกอย่างที่เป็นมาตรการของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2. เซนต์ จอร์จส์ พาร์ค สนามฝึกซ้อมของทัพ "สิงโตคำราม" ซึ่งอยู่ห่างจากเวมบลีย์ ไม่มากเท่าไหร่ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการถ่ายทอดสด  [caption id="attachment_112761" align="aligncenter" width="1280"] เวมบลีย์ อาจใช้เป็นสนามกลางช่วง โควิด สนามเวมบลีย์[/caption] ทำให้มีไปติดต่อสนาม ทวิคเคนแนม สังเวียนรักบี้ ไว้เป็นตัวเลือกด้วย เดี๋ยวรอดูกันว่าสุดท้ายแล้ว จะเตะกันที่สังเวียนเจ้าบ้าน หรือ ใช้สนามกลางโม่แข่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องถามความสมัครใจของทีมฝ่ายเจ้าบ้านเสียด้วย
  1. กติกาใหม่
แค่เชื้อร้ายระบาดหนักก็ว่าแย่แล้ว ฉะนั้นการมาเตะฟุตบอลท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ สภาพร่างกายย่อมเป็นสิ่งสำคัญ ฟิตพอไหม จะมีใครบาดเจ็บหรือเปล่า ? ฉะนั้นการประชุมหนนี้ ก็คงจะลงเรื่อง "กติกาพิเศษ" ในช่วงโค้งสุดท้าย นั่นคือการเปลี่ยนตัวได้ 5 คน ! เดิมที ฟุตบอล เปลี่ยนได้แค่ 3 คน ตลอด 90 นาที ข้อนี้ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่พักไปนาน และ กรอบเวลามันเร่งรีบ กติกาการเปลี่ยนตัวที่ออกมา ก็เพื่อรองรับช่วยเหลือนักเตะฟุตบอล ฟีฟ่า เพิ่มกติกาพิเศษเปลี่ยนตัว 5 คน กฎกติกาเปลี่ยนตัวนี้ ถึงแม้แต่ละสโมสรจะเปลี่ยนเพิ่มได้อีก 2 คน แต่กระนั้นก็จะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนตัวได้แค่ 3 ครั้ง ไม่ใช่ทยอยเปลี่ยนจนครบ 5 คน เพื่อตัดปัญหาเรื่องการถ่วงเวลา ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับวาระการประชุมด้วยว่า จะยอมให้มีกติกาเปลี่ยนตัวแบบพิเศษ ในช่วง ‘Project Restart’ หรือไม่ หากมีข้อสงสัยเรื่องเปิดตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ คลิก ติดตามคอนเทนต์ดีผ่านไลน์แอด "ขอบสนาม" กดปุ่มเพิ่มเพื่อน
logoline