logo-heading

หากถามว่าฟุตบอลไทยตำแหน่งไหนขาดแคลนมากที่สุดในเวลานี้ ผู้เขียนคงตอบได้ว่า ศูนย์หน้า อิทธิพล การเข้ามาทำบอลไทยมากมายของเหล่านักการเมือง ที่มองความสำเร็จระยะสั้น ทำให้พวกเขาทุ่มเงินหากองหน้าต่างชาติมาเพื่อไล่ล่าโทรฟี่ในระยะสั้น และมันส่งผลกระทบต่อบอลไทย ที่อัตราการแจ้งเกิดของดาวรุ่งตัวจบสกอร์เหลือน้อยเต็มที่

อาจมีคำถามมากมายว่า เด็กคนนี้แจ้งเกิด แต่ถึงเวลาจริง มันเหมือนแค่ลมที่ผ่านมาและผ่านไป ไม่มีใครขึ้นมาทดแทน ธีรศิลป์ แดงดา ได้เลย ทั้งที่เขากำลังมาถึงช่วงบั้นปลายชีวิตการค้าแข้่งเต็มที่แล้ว ผู้เขียนกำลังคิดว่า บางทีกองหน้าฝีเท้าดีจากเมืองไทย หากอยากได้แข้งภูธรมีคุณภาพ ก็คงต้องไปเฟ้นหากันที่จังหวัดขอนแก่น เพราะที่เมืองไดโนเสาร์ สร้างกองหน้าโนเนมขึ้นมาประดับวงการลูกหนังบ้านเราไว้หลายคนและขอบสนามก็พร้อมแล้วที่จะนำเสนอเรื่องราวของพวกเขา พร้อมเนื้อหาด้านล่างนี้ครับ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ขอนแก่นจังหวัดสร้างกองหน้าประดับวงการลูกหนังไทย ดาวเตะค่าตัว 3 แสนบาท ที่ย้ายทีมจนเป็นที่ฮือฮาในวงการลูกหนังไทย เมื่อปี 1996 จากธนาคารกรุงไทยมาสู่ราชประชา กองหน้ารูปหล่อที่เกิด ณ จังหวัดอุดรธานี แต่มาเติบโตที่จังหวัดขอนแก่น เขาไม่ได้เป็นนักบอลที่มีพรสวรรค์ แต่เป็นนักกีฬาที่มีความสามารถที่หลากหลายชนิด จนก้าวไปติดทีมกีฬาในจังหวัด หลังสอบเอนทรานซ์ไม่ติด เขาตัดสินใจมุ่งหน้าสู่กรุงเทพ เพื่อแสว่งหาโอกาสได้ลงเล่นฟุตบอล ณ สนามศุภชลาศัย อย่างที่เขาได้ใฝ่ฝัน ก่อนจะผ่านการคัดตัวทีมชาติ17 ปี และสโมสรธนาคารกรุงไทย ในช่วงที่วิกฤติทีมชาติไทยสั่นคลอน หลังการผ่านแชมป์ซีเกมส์ 1991 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นดาวรุ่งที่พุ่งขึ้นมาอยู่ในทีมชาติชุดใหญ่ และค่อยๆสอดแทรกจนกลายเป็นตัวหลัก หลังสิ้นสุดยุคของปิยะพงษ์ ผิวอ่อน  71 ประตูที่ยิงจนเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลพิสูจน์ถึงคุณภาพของเขาได้เป็นอย่างดี แถมยังกวาดโทรฟี่แชมป์มากมายซีเกมส์, อาเซียน คัพ, คัดบอลโลก 2002 และเมื่อผันตัวมาเป็นโค้ช ซิโก้ ก็สร้างศรัทธาให้แก่วงการลูกหนังได้จนทีมกลับมาเป็นที่นิยมได้รับความสนใจจากแฟนบอลมากมายที่แห่เข้ามาจองตั๋วแน่นสนาม พาทีมซิวแชมป์สำคัญในอาเซียน ปิติพงษ์ กุลดิลก ขอนแก่นจังหวัดสร้างกองหน้าประดับวงการลูกหนังไทย กองหน้าร่างยักษ์จากขอนแก่น ที่เป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกับ ศรายุทธ ชัยคำดี "เดอะปั๊ก" มุ่งหน้าจากขอนแก่นมายังสโมสรสิงห์เจ้าท่าเพื่อคัดตัวโดยตรง ก่อนจะได้รับโอกาสจากโค้ชสมชาติ ยิ้มศิริ ที่ต้องการกองหน้ารูปร่างใหญ่เก็บบอลดีเอาไว้ใช้งานในไทยลีก ปี 2001 และซัลโวไป 12 ประตู ด้วยความที่บอลไทยยุคต้น2000 กองหน้ารูปร่างเล็ก ทำให้ปีเตอร์ วิธ เรียก ปิติพงษ์ ขึ้นมาฝึกซ้อมในนามทีมชาติ จนมีโอกาสได้ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์คิงส์ คัพ 2002 เมื่อผลงานดีก็ได้รับการทาบทามจาก"โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวณิช โค้ชเซมบาวังในลีกสิงคโปร์ ดึงตัวไปร่วมทีม เขาอยู่กับได้ 2 ปีก่อนจะมุ่งหน้าสู่บอลอาชีพเวียดนามที่ได้ค่าตอบแทนที่สูง ตามนักบอลไทยชื่อดังรายอื่นๆ ที่ไปล่าเงินดอลล่าร์ที่นั้นกัน โดยที่เขาเป็น 1 ในขุนพลชุดเหรียญทองซีเกมส์ 2003 ด้วย "ปิติพงษ์" โกยเงินในลีกต่างประเทศมายาวนาน 5 ปีเต็ม ทั้งเวียดนามและสิงคโปร์ มันก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องกลับเมืองไทย เพื่อมาช่วยการท่าเรือ ทีมที่ให้โอกาสเขาในการลงเล่นฟุตบอลในเมืองหลวง เขาอยู่กับทีมในช่วงเวลาที่ย่ำแย่หนีตกชั้นในไทยลีก ได้แชมป์บอลถ้วยเอฟเอ คัพ ได้ลงเล่นฟุตบอลสโมสรเอเชีย อย่างเอเอฟซี คัพ กระทั่งโชคร้ายมาป่วยเป็นโรคแขนขาลีบ และต้องพักรักษาตัวนานกว่า 3 ปี และเมื่อร่างกายดีขึ้น เดอะปั๊ก กลับมาลงเล่นบอลชายหาด และลงเล่นบอลดิวิชั่น 2 กับสมุทรปราการ เอฟซี ปัจจุบันเขาเลือกเล่นและทำงานเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ศรายุทธ ชัยคำดี ขอนแก่นจังหวัดสร้างกองหน้าประดับวงการลูกหนังไทย ศรายุทธ ชัยคำดี ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ จากนักเรียนโนเนมที่เรียนหนังสือสายอาชีพอยู่ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพลพณิชยการ ก่อนจะหอบหิ้วความฝันมายังเมืองกรุง ด้วยการคัดตัวเป็นนักบอลเยาวชนที่สโมสรฟุตบอลทหารอากาศ ทว่าเขาไม่ได้โอกาสลงเล่นไทยลีกกับทีมลูกทัพฟ้า และทำให้ โจ้ ต้องเปลี่ยนเป้าหมายจากดอนเมือง มายังคลองเตย เพื่อมาคัดตัวกับทีมการท่าเรือแห่งประเทศไทย ในยุคของ"น้ากอ" ดาวยศ ดารา จากกองหน้าดาวรุ่งโนเนมไม่มีใครรู้จัก ศรายุทธ เริ่มมีบทบาทในทีมสิงห์เจ้าท่า ในปี 2002-03 เขาซัลโวไป 12 ประตู คว้าตำแหน่งดาวซัลโว ไทยลีก พร้อมกับผ่านการคัดตัวติดทีมชาติไทยไปทำการแข่งขันซีเกมส์ 2003 ที่เวียดนาม และเป็นดาวยิงตัวหลัก โดยที่ฉายยา "โจ้ 5 หลา"  เกิดขึ้นจากทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว หลังจากกลับมาในฐานะแชมป์ซีเกมส์ ศรายุทธ กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น ได้โอกาสรับใช้ชาติ ได้ไปเล่นบอลอาชีพที่เวียดนาม และกลับมาเมืองไทย ค้าแข้งกับการท่าเรือ, โอสถสภา, บางกอกกล๊าส, อาร์มี่ ยูไนเต็ด, บีอีซี เทโรศาสน, ศรีสะเกษ, แอร์ฟอร์ซ และขอนแก่น พร้อมกับการจารึกชื่อเป็นแข้งไทยรายที่ 2 ที่ซัลโว เกิน 100 ประตู น่าเสียดายที่ชีวิตของ ศรายุทธ ไม่เคยได้แชมป์เมเจอร์กับทีมชาติชุดใหญ่, ไม่ได้สัมผัสโทรฟี่แชมป์ไทยลีก, ไม่มีโอกาสได้ลงเล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ธนา ชะนะบุตร ขอนแก่นจังหวัดสร้างกองหน้าประดับวงการลูกหนังไทย แข้งพรสวรรค์จากที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก ปีก, เพลย์เมกเกอร์ หรือศูนย์หน้า เขาพาทีมขอนแก่นไปแข่งขันบอลนักเรียนเขตการศึกษาที่จังหวัดสุพรรณบุรี ก่อนจะถูกชักชวนให้เข้าเมืองหลวง มาเล่าเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ก่อนจะไปเล่นบอลถ้วยพระราชทาน ค.กับคริสเตียนไทย และตามโชเซ่ อัลเวส บอร์จีส มาร่วมทีมพนักงานยาสูบได้แชมป์ไทยลีก 2004-05 โดยที่เวลานั้นอายุได้ 20 ปี 3 ปีต่อมา จะย้ายมาอยู่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จนมีโอกาสติดทีมชาติไทยชุด 23 ปีซีเกมส์ฺ โคราช 2007 ด้วยความที่เป็นนักบอลที่ครอบครองบอลดี มีสปีดต้นที่จัดจ้าน ทำให้เขาได้โอกาสติดทีมชาติในยุคของชาญวิทย์ ผลชีวิน และปีเตอร์ รีดส์ ทั้งที่เขาเป็นศูนย์หน้าจากทีมเล็กๆ อย่างโค้กบางพระ ที่ในเวลาต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นพัทยา ยูไนเต็ด ก่อนจะย้ายไปอยู่ศรีสะเกษ และตัดสินใจซบเพื่อนตำรวจ เพื่อตำแหน่งอาชีพราชการหลังแขวนสตั๊ด "ซูเปอร์แมน" ท็อปฟอร์มในสีเสื้อเพื่อนตำรวจ เขาเล่นได้โดดเด่น ถูกผลักดันให้ไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า แม้จะรูปร่างไม่ได้ส่วนใหญ่ แต่หาจังหวะจบสกอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนจะหวนกลับสู่ทีมชาติในยุคของเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในการคัดบอลโลก 2018 ในฐานะขุมกำลังสำรองที่มักถูกส่งลงสนามในช่วงๆเกม แต่ด้วยอายุอานามที่เยอะขึ้นและการขึ้นมาของดาวรุ่งมากมาย ทำให้ชื่อในนามทีมชาติค่อยๆหายไป เฉกเช่นเดียวกับการลงเล่นในระดับสโมสรที่โอกาสน้อยนิด จนจำใจลงไปเล่นลีกระดับล่างกับหนองบัวพิชญ และขอนแก่น ยูไนเต็ด กรวิชญ์ ทะสา ขอนแก่นจังหวัดสร้างกองหน้าประดับวงการลูกหนังไทย ไอ้หนุ่มจากขอนแก่น แม้จะดูรูปร่างผอมบางแต่เบสิคลูกหนังแน่นมาก จนได้รับคำยกย่อว่ามีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็น นิวธีรศิลป์ แดงดา "ซัน" เหมือนนักบอลต่างจังหวัดฝีเท้าดีที่จากบ้านเกิดเมืองนอนมาตั้งแต่เด็กๆ ในขณะที่อายุ 13 ปี เป็นเยาวชนของเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2013 และถูกส่งไปศึกษาที่โรงเรียนโพธินิมิตร ที่ปากเกร็ด นนทบุรี ในขณะที่อายุได้ 15 ปี ซันได้รับโอกาสติดทีมชาติ17 ปี ภายใต้การคุมทีมโดยพยงค์ ขุนเณร เรียกว่าแบกอายุที่น้อยกว่าเพื่อน 2 ปี จนได้เป็นตัวหลักของทีม  และจากนั้นเขาก็ค่อยๆขยับตัวเองขึ้นมาเล่นกับนักเตะที่อายุมากกว่า กระทั่งปี 2018 อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ยืมตัวไปร่วมทีม เขาโชว์ฟอร์มเยี่ยมทั้งที่อายุ 17 ปี แต่ซัลโวไป 4 ประตู จากการ่ลงเล่น 8 นัด แม้ว่าทีมจะไม่อาจอยู่รอดในไทยลีก แต่ฝีเท้าในเวลานั้น ทำให้ได้รับการสรรเสริญมากมายจากผู้คนในวงการฟุตบอล อย่างไรก็ดีสิ่งที่ดูเหมือนจะฉุดรั้ง กรวิชญ์ คือเรื่องระเบียบวินัยมากกว่า เพราะพรสวรรค์ชั้นเชิงลูกหนังค่อนข้างดีอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่เมืองทอง ยูไนเต็ด ถึงพยายามเก็บนักเตะเอาไว้กับทีมมากกว่าจะปล่อยไปขัดเกลาฝีเท้ากับโปลิศ เทโร หรือสโมสรระดับเจลีก 2   ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม ขอนแก่นจังหวัดสร้างกองหน้าประดับวงการลูกหนังไทย
logoline