logo-heading

หลังจากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ บริษัทไทยลีก ได้ออกมาประกาศแนวทางที่ชัดเจนของศึก "โตโยต้า ไทยลีก 2020"

ทั้งการเล่นแบบข้ามปีครั้งแรกของไทยลีกที่จะไปเริ่มในเดือน กันยายน และไปจบในเดือน พฤษภาคม ปีหน้านี้อย่างแน่นอน ทั้งเรื่องของ ตลาดซื้อขายนักเตะ ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนนักกีฬาใหม่ทั้งหมด รวมไปถึงเรื่องของ โควต้า เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 ที่จะให้สิทธิ์กับทีมอันดับที่จบในอันดับ 1 ถึง 4 ในเลกแรกของฤดูกาล 2020 ซึ่งคาดว่าน่าจะรู้ผลในช่วงเดือน ธันวาคม นี้

ดังนั้นถ้านับนิ้วต่อจาก 4 เกมแรกก่อนที่ไทยลีกจะหยุดไปนั้น เท่ากับว่ากลับมาเตะอีก 11 เกมก็จะรู้ผลแล้วว่าทีมไหนที่จะได้สิทธิ์ไปเล่นใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 ...

วันนี้ ทีมงานขอบสนามบอลไทย ขอมาพูดถึงเรื่องนี้สักนิดนึง เพราะเชื่อว่าด้วยสถานการณ์แบบนี้ หลายทีมที่ยังไม่เคยไปสามารถคาดหวังได้มากขึ้นแน่นอน ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเรื่อง โควต้า เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 ของ ไทยลีก กันก่อน โดยปีนี้จะเป็นสิทธิ์แบบใหม่ที่เราเพิ่งได้เป็นปีแรกนั่นคือ โควต้า 2+2 ทีม

ถ้าในช่วงเวลาปกติแล้ว อันดับ 1 หรือแชมป์ไทยลีก กับ แชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ จะเป็นทีมที่ได้สัปทานตรงนี้ในฐานะ 2 ทีมที่ไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ ส่วนอีก 2 ทีมคือ อันดับ 2 และ อันดับ 3 ของไทยลีกที่จะได้สิทธิ์ไปเล่นในรอบคัดเลือกรอบที่ 2 ... 

แต่จากการที่เราเปลี่ยนมาเล่นลีกแบบข้ามปีเป็นครั้งแรก ทำให้ต้องมีการปรับการได้สิทธิ์เพื่อรันให้โควต้าของเราไม่เสีย เพียงแต่ครั้งนี้มันค่อนข้างเร็ว เพราะแค่จบเลกแรกก็ได้ทีมไปเล่น ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย 2021 แล้ว ด้วยเป็นการเอาทีมอันดับ 1-4 ในลีกไปเลย เท่ากับว่าเราเปลี่ยนโควต้าเดียวคือเอาโควต้าแชมป์บอลถ้วยออก แล้วมาใส่ให้กับทีมอันดับที่ 2 ของลีกแทน ส่วนที่เหลือก็เหมือนเดิม ... หลังทำความเข้าใจเรื่องโควต้ากันไปแล้ว มาดูสถานการณ์ในไทยลีกกันสักหน่อยว่าหลังผ่าน 4 เกมแรกที่ผ่านมา ทีมไหน อยู่ตรงไหน กันบ้าง ???  ตารางคะแนนไทยลีก 2020 จะเห็นว่าทีมด้านบนอันดับ 1 กับ 2 อย่าง ทรู แบงค็อก และ ราชบุรี มิตรผล ทำแต้มไม่หล่นเลยแม้แต่แต้มเดียว ผ่าน 4 เกมพวกเขาเก็บ 12 แต้มเต็ม รองลงมาก็เป็นทีมชั้นนำอย่าง การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด น้องใหม่หน้าเก่าที่ยกระดับการเล่นของตัวเองมาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการมี 10 คะแนนในมือ จะเห็นว่า ณ ตอนนี้ยังไร้เงา 2-3 ทีมดังอย่าง สิงห์ เชียงราย แชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้วที่เป็นทีมเดียวที่เล่นฟุตบอลเอเชียอยู่ในปีนี้ยังหาฟอร์มเก่าไม่เจอเมื่อเก็บได้ 5 แต้มรั้งอยู่ที่ 10 ของไทยลีก ส่วนอีกทีมอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ที่เคยไปเล่นในรายการนี้มาแล้วล่าสุดเก็บได้ 6 แต้มจาก 4 เกมอยู่อันดับ 7 ของตารางคะแนน แต่ที่น่าหนักใจที่สุดคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ล่าสุดแพ้มากกว่าชนะหลังผ่าน 4 เกมแรก เก็บได้ 4 แต้ม รั้งอยู่ที่ 11 ของไทยลีก ทำให้การกลับมาเล่นต่อนัดที่ 5 และลุยต่ออีก 11 เกมเพื่อไป ACL 2021 กลายเป็นผลพลอยได้ของหลายทีมที่อาจจะเคยหวังไปเล่นสักครั้งแต่ยังทำไม่ได้ ด้วยสถานการณ์แบบนี้ทำให้อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ ทีมอย่าง ราชบุรี มิตรผล ที่ทำสนามสวยๆ เพื่อไปลุยบอลเอเชีย ตอนนี้พวกเขาหวังได้แบบเต็มๆ เช่นเดียวกับทีมอย่าง ทรู แบงค็อก ที่พลาดมา 2-3 ครั้งกับการเล่นบอลเอเชีย ไม่แน่ครั้งนี้อาจจะสมหวังก็เป็นได้ หรือทีมอย่าง การท่าเรือ และ บีจี ที่มีสถานะเป็นทีมใหญ่ทั้งคู่คงจะโหยหาบอลเอเชียน่าดู จากสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาก็สามารถหวังได้เต็มๆ เช่นกัน กลับกันกับสถานการณ์ที่เป็นงานยากมากของ กว่างโซ้ง และ ปราสาทสายฟ้า เพราะด้วยฟอร์มในช่วงแรกที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ รวมไปถึงคะแนนที่ตามหลังทีมนำอยู่ 7 กับ 8 แต้ม เพราะการจะกลับมาเอาสิทธิ์เพื่อไปเล่นบอลเอเชียแบบอัตโนมัตินั้นต้องคัมแบ็กอันดับที่ 1 และ 2 เท่านั้น ดังนั้นงานนี้ไม่ง่ายแน่นอน สุดท้ายแม้จะยังบอกไม่ได้ว่า 11 เกมที่เหลือกับ โควต้า เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 จะเป็นของทีมใด แต่จากสถานการณ์ที่ว่ามาทั้งหมดก็มีโอกาสสูงที่เราอาจจะได้เห็นทีมหน้าใหม่ๆ ไปเล่นฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชียก็เป็นได้

บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)

logoline