บทสรุปไทม์ไลน์ พรีเมียร์ลีก สู่วันคัมแบ็กฟาดแข้งอย่างเป็นทางการ
วันที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอยก็มาถึง เมื่อ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศคอนเฟิร์มแล้วว่าโปรเจ็คท์ "รีสตาร์ท" ฤดูกาล 2019-20 คัมแบ็กอีกครั้ง ในวันที่ 17 มิถุนายน นี้ หลังจากต้องเว้นวรรคเลื่อนการแข่งขัน ตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เพราะ โรคร้าย "โควิด-19" ระบาดไปทั่วโลก
พวกเขามีมาตรการอย่างไร ในการเริ่มวางแผนโปรเจ็คท์ รีสตาร์ท วันนี้ทางเพจ ขอบสนาม จะมาสรุปให้ได้ฟังกันว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีมาตรการอย่างไร จะดำเนินอย่างไร จนทำให้ซีซั่นนี้กลับมาฟาดแข้งอีกครั้ง
- นายกรัฐมนตรีไฟเขียว
การที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะกลับมาฟาดแข้งได้นั้น ไม่ใช่เอะอะก็จะรีสตาร์ทได้ตามอำเภอใจ เพราะมันจะต้องได้รับไฟเขียวจากทางรัฐบาล และ กระทรวงสาธารณสุข ว่าสถานการณ์ปลอดภัย กลับมาลงเตะได้แบบไร้กังวล
และสิ่งที่แฟนบอลทั่วโลก รอคอย ก็เกิดขึ้น เมื่อ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เป็นคนประกาศด้วยตัวเองว่า อนุญาตให้การแข่งขันกีฬาที่มีถ่ายทอดสด ซึ่งรวมไปถึง พรีเมียร์ลีก สามารถกลับมาลงแข่งขันได้อีกครั้ง แบบไม่มีแฟนบอลเข้าชม ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน เป็นต้นไป
เมื่อคำสั่งออกมาแบบนั้น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ออกมาตรการและเดินหน้าตามแผนโปรเจ็คท์ "รีสตาร์ท" ด้วยการอนุญาตให้ทั้ง 20 สโมสร กลับมาลงฝึกซ้อมแบบกลุ่มย่อยไม่เกิน 5 คน
- ยกระดับการซ้อม
หลังจากที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สั่งให้ทุกสโมสรกลับมาซ้อมแบบกลุ่มย่อยได้ตั้งแต่ราวๆวันที่ 21-22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพื่อให้นักเตะกลับมาเรียกความฟิต, ให้กล้ามเนื้อได้คุ้นเคยอีกครั้ง หลังจากต้องว่างเว้นการลงแข่งขันไปตั้งแต่เดือนมีนาคม
จากนั้นให้หลังเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ยกระดับให้ทุกทีมสามารถกลับมาฝึกซ้อมเป็นกลุ่มใหญ่ได้แล้ว แบบไม่เกิน 12 คน เพื่อที่จะได้ทำงานกันเป็นทีมวางแท็คติคการเล่น
ข่าวซ้อมแบบโดนตัวกัน, ปะทะกันได้แล้ว (คลิกอ่าน)
และ ล่าสุด รัฐบาล ก็ประกาศไฟเขียวเองว่าให้ทั้ง 20 สโมสร สามารถกลับมาฝึกซ้อมแบบโดนตัวกัน หรือ ปะทะกันได้แล้ว หลังจากอังกฤษ ปลดล็อกให้กับนักกีฬาอาชีพทั้งชายและหญิง มาอยู่ที่ ‘เฟสสอง’ ทำให้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขยับเข้าใกล้โปรเจ็คท์ "รีสตาร์ท" ไปเรื่อยๆ แต่ต้องมีการควบคุมและป้องกันการระบาดของเชื้อโรค โควิด-19 อย่างเข้มงวด
- ติดเชื้อ+10 แต่มีผลวิจัยน่าเชื่อถือ
การจะกลับมาแข่งขันได้นั้น มาตรการที่สำคัญที่สุด คือการตรวจหาเชื้อทุกชนชั้น ทั้งนักเตะ-สตาฟฟ์-ผู้บริหาร หรือ ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ทำการตรวจเชื้อไปทั้งสิ้น 3 รอบ ปรากฎว่าพบผู้มีเลือดเป็นบวกติดโรคร้ายทั้งสิ้น 12 คน จากผู้เข้ารับการตรวจทั้งหมด 2,752 คน
ทั้ง 12 คน ที่ติดโรค "โควิด-19" มาจากทั้ง สตาฟฟ์ และ นักเตะ ซึ่งไม่ค่อยมีการเปิดเผยว่าเป็นสโมสรไหนบ้าง แต่ที่แน่ๆมีจาก วัตฟอร์ด และ บอร์นมัธ ซึ่งคนที่ถูกพบว่ามีเชื้อร้าย จะต้องไปกักตัวเองเป็นเวลา 7 วัน ทำให้มีคำถามตามมาว่าในเมื่อมีผู้ติด โคโรน่าไวรัส แบบนี้ แล้ว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะกลับมาเตะได้หรือไม่ ? เพราะต้องมีการปะทะกันอยู่แล้ว
รายละเอียดการตรวจเชื้อ โควิด-19 ครั้งที่ 3 ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (คลิกอ่าน)
สรุปว่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้มีการอ้างอิงผลวิจัยจากทาง 'เซกันด์ สเป็คตรัม' บริษัทติดตามรวมรวบสถิติสัญชาติของสหรัฐ ที่ติดตั้งกล้องพร้อมระบบปฏิบัติการ โดยนำการแข่งขัน 288 เกม ที่ลงเตะในซีซั่นนี้"ค่าเฉลี่ยเวลาที่นักเตะแต่ละคน ต้องเข้าประทะโดนตัวกันต่อเกม มีเพียงแค่ 39 วินาที / ครั้ง เท่านั้น ซึ่งมันมีความเสี่ยงต่ำเหลือเกิน ที่จะติดไวรัส โควิด-19 ต่อให้คนๆนั้นมีเชื้ออยู่ก็ตาม
- ความคิดเห็นจาก 20 สโมสร
ก่อนหน้านี้ เชื่อว่าทุกคนคงได้เห็นข่าวไปแล้วว่าอาจมีบางสโมสรที่นักเตะยังไม่ต้องการกลับมาฝึกซ้อม เพราะยังหวั่นใจเกี่ยวกับมาตรการป้องกัน กลัวจะติดโรค โควิด-19 และ นำเชื้อไปแพร่กระจายสู่ครอบครัว
แต่กระนั้นจากการประชุมของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ตัวแทนทั้ง 20 ทีม เพื่อหาบทสรุปแบบเด็ดขาด เกี่ยวกับการ "รีสตาร์ทฤดูกาล 2019-20" โดยมติประชุมเสียงส่วนใหญ่โหวตเป็นเอกฉันท์ว่า ให้ซีซั่นกลับมาแข่งขันอีกครั้ง
จากนั้นก็ได้บทสรุปเวลา "ลั่นกลองรบ" กับโปรเจ็คท์ รีสตาร์ท พรีเมียร์ลีก และ ฤกษ์งามยามดีก็คือวันพุธที่ 17 มิถุนายน นี้ โดย 2 คู่ที่จะเปิดหัวกับการคัมแบ็ก คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปะทะ อาร์เซน่อล และ แอสตัน วิลล่า ฟาดแข้งกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นคู่ตกค้าง ไว้ตอนที่ "เรือใบสีฟ้า" ปราบ "สิงห์ผงาด" คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ
- โปรแกรมการแข่งขัน รึสตาร์ท พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
หลังจากที่ทุกท่านทราบกันดีแล้ว 2 คู่ เปิดหัวโปรเจ็คท์ รีสตาร์ท เป็นทีมใด แต่กระนั้นโปรแกรมที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้วางเอาไว้จะมีช่วงสุดสัปดาห์, มันเดย์ไนท์ และ กลางสัปดาห์ แบ่งตารางได้ดังต่อไปนี้
โปรแกรมสัปดาห์แรก เช็คเลยว่าใครเจอใคร (คลิกอ่าน)
วันศุกร์ - เตะ 1 คู่ ช่วงเวลา 20.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
วันเสาร์ - เตะ 4 คู่ เริ่มตั้งแต่ 12.30 น., 15.00 น., 17.30 น. และ 20.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
วันอาทิตย์ - เตะ 4 คู่ เริ่มตั้งแต่ 12.00 น., 14.00 น., 16.30 น. และ 19.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
วันจันทร์ - เตะ 1 คู่ ช่วงเวลา 20.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
กลางสัปดาห์
วันอังคาร - เตะ 2 คู่ เริ่มตั้งแต่ 18.00 น. และ 20.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
วันพุธ - เตะ 2 คู่ เริ่มตั้งแต่ 18.00 น. และ 20.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
วันพฤหัสบดี - เตะ 2 คู่ เริ่มตั้งแต่ 18.00 น. และ 20.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
***ตามเวลาประเทศไทย บวกไปอีก 6 ชั่วโมง***