logo-heading

ย้อนกลับไปในช่วงที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกกุมบังเหียนด้วยกุนซือประสบการณ์สูงอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล เขาได้กลายเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพลักดันดาวรุ่งของ “ปีศาจแดง” ให้ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่

ซึ่งมีแข้งหลายคนที่ได้รับโอกาสครั้งสำคัญจากกุนซือชาวฮอลแลนด์ผู้นี้ ว่าแล่ว ขอบสนาม ของเราเลยจะพาไปดูกันว่า ณ วันนี้เด็กๆ ในคาถาของ ฟาน กัล ในวันนั้น วันนี้พวกเขาเป็นอย่างไร แยกย้ายไปค้าแข้งที่ไหนกันบ้าง

เซดี้ ยานโก้

ยานโก้ ย้ายมาร่วมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2014 จากสโมสร โบลตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับที่ทีมปิดดีล มารูยาน เฟลไลนี่ แบบพอดิบพอดี แน่นอนว่า ยานโก้ ในตอนนั้นเพิ่งอายุเพียง 19 ปี ทำให้ถูกจับลงไปเล่นกับทีมชุดสำรอง ก่อนที่จะได้รับโอกาสลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ในศึกลีก คัพ ที่ทีมพบกับ มิลตัน คีนส์ดอนส์ ซึ่งเจ้าตัวถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงเลยทีเดียว แต่ทว่าก็อยู่ในสนามได้เพียง 45 นาที ก็ถูกถอดออกจากสนาม ก่อนที่บทสรุปผลการแข่งขันในวันนั้นมันจะอัปยศสิ้นดี เพราะ "ปีศาจแดง" บุกไปพ่ายแบบเละเทะ 4-0 และนั้นเป็นเกมเดียวที่ ยานโก้ ได้ลงสนามให้ทีม ก่อนถูกปล่อยตัวออกจากทีมในปี 2019 รวมแล้วถึงตอนนี้เจ้าตัวผ่านการค้าแข้งมาแล้วถึง 8 สโมสร ล่าสุดคือได้รับสัญญาถาวรจาก ปอร์โต้ ก็แต่ถูกปล่อยไปให้ ยัง บอยส์ ยืมตัวไปใช้งาน [caption id="attachment_117426" align="aligncenter" width="1280"] saidy janko เซดี้ ยานโก้ หนึ่งในแข้งนัดอัปยศบุกพ่าย มิลตัน คียนส์ ดอนส์ 4-0[/caption]

อันเดรส เปเรร่า

หนึ่งในดาวรุ่งที่ทีมดึงตัวมาตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อนำมาปลุกปั้น โดยเมื่อครั้งยังเป็นแข้งระดับเยาวชน เปเรร่า ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมายังทีมชุดใหญ่ของทีม ซึ่งในระหว่างนั้นเจ้าตัวเคยได้รับรางวัลแข้งชุดยู-21 ยอดเยี่ยมของสโมสร โดย เปเรร่า ได้โอกาสลงสนามในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกจาก ฟาน กัล คือเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2015 ซึ่งได้โอกาสลงสนามเป็นตัวสำรองในช่วง 13 นาทีสุดท้ายเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ สเปอร์ส 3-0 ก่อนที่ในซีซั่นถัดมาจะถูกปล่อยยืมตัวไปให้ กรานาด้า และ  บาเลนเซีย ยืมตัวตามลำดับ ซึ่งในปัจจุบัน เปเรร่า ยังคงค้าแข้งอยู่กับทีม แต่ทว่าสถานการณ์ของเขาดูเหมือนจะไม่สู้ดีนัก เพราะกลายเป็นเพียงแข้งตัวสำรองของทีม ทำให้มีโอกาสไม่น้อยที่ต้องเก็บกระเป๋าออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด

รีซ เจมส์

รีซ เจมส์ คนนี้ไม่ใช่แบ็คดาวรุ่งของ เชลซี แต่อย่างใดนะครับ เพียงแต่คล้ายกันแค่ชื่อเท่านั้น โดย เจมส์ ถูก ยูไนเต็ด ถึงตัวมาสู่ทีมตั้งแต่ปี 2012 แต่ทว่าไม่อาจสอดแทรกขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ โดยเกมเพียงนัดเดียวที่ เจมส์ ได้ลงเล่นให้ทีมคือในศึกลีก คัพ ที่ทีมบุกแพ้ มิลตัน คีนส์ดอนส์ 4-0 นั้นแหละ โดยเจ้าตัวได้โอกาสลงสนามครบ 90 นาทีในตำแหน่งแบ็คซ้าย  โดยหลังออกจากชายคา "ปีศาจแดง" เมื่อปี 2015 เจ้าตัวก็ย้ายไปร่วมทัพ วีแกร แอธเลติก ต่อด้วย ซันเดอร์แลนด์ ก่อนที่ปัจจุบันในวัย 26 ปี เจมส์ ได้ย้ายไปค้าแข้งกับสโมสร ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ ทีมในระดับลีกวัน อังกฤษ

เพ็ดดี้ แม็คแนร์

ปราการหลังดาวรุ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ปลุกปั้นขึ้นมาจากอคาเดมี่ของสโมสร ก่อนที่จะได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่จาก หลุยส์ ฟาน กัล โดยเกมนัดแรกของเจ้าตัวกับทีมชุดใหญ่คือในศึกพรีเมียร์ลีก นัดที่ "ปีศาจแดง" เปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ซึ่งเจ้าตัวได้โอกาสจับคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟกับ มาร์กอส โรโฮ  โดยรวมแล้ว แม็คแนร์ ลงเล่นให้ทีมไปทั้งสิ้น 27 นัด ก่อนที่จะถูกปล่อยไปให้ ซันเดอร์แลนด์ ในซีซั่น 2016 และปัจจุบันเจ้าตัวได้ย้ายไปร่วมทัพ มิดเดิลสโบรห์ พร้อมสถาปนาตัวเองเป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟหมายเลข 1 ของทีมเป็นที่เรียบร้อย [caption id="attachment_117427" align="aligncenter" width="1280"] 15 แข้งดาวรุ่ง ผีแดง ในยุค ฟาน กัล ตอนนี้พวกเขาไปอยู่ที่ไหนกันบ้าง เพ็ดดี้ แม็คแนร์ กับครั้งหนึ่งที่ถูกคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นปราการหลังตัวหลักของทีม[/caption]

ไทเลอร์ แบล็คเก็ต

อีกหนึ่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟที่ทีมเลี้ยงดู และฝึกปรือฝีเท้ามาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่ดูเหมือนว่าความพยายามนั้นจะมาประสบความสำเร็จเอาในช่วงที่ ฟาน กัล เข้ามาคุมทีม เพราะช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2014-15 แบล็คเก็ต ได้โอกาสลงสนามในลีกเป็นตัวจริงติดต่อกัน 5 นัดรวด แน่นอนว่าตอนนั้นเขาได้รับการพูดถึงมากพอสมควร ก่อนที่ชื่อของเขาจะเริ่มจางหายไปจากทีมชุดใหญ่ พร้อมถูกปล่อยยืมตัวไปยัง เบอร์มิงแฮม ซิตี้ และ เซลติก ตามลำดับ โดยปัจจุบัน แบล็คเก็ต ในวัย 26 ปี ได้ย้ายไปร่วมทัพ เรดดิ้ง ตั้งแต่ปี 2016 และค้าแข้งกับทีมมาจวบจนทุกวันนี้ รวมแล้วเจ้าตัวลงสนามภายใต้สีเสื้อ "ปีศาจแดง" ไปทั้งสิ้น 12 นัด

ทอม โธร์ป

แข้งที่ถูกทาง ยูไนเต็ด ดึงตัวมาสู่ทีมตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี ก่อนที่จะได้โอกาสครั้งสำคัญในทีมชุดใหญ่ครั้งแรก และครั้งเดียวในเกมนัดที่ 6 ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014-15 โดยการลงสนามเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายเกม ซึ่งรวมแล้วมันเป็นเวลาเพียง 1 นาทีถ้วน! ใช่ครับ ตลอดชีวิตการค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าตัวได้โอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่เพียงเท่านั้นจริงๆ ก่อนที่สัญญาของเขาจะหมดลงในช่วงปี 2015 และเป็น ร็อตเตอร์แธม ที่เข้ามาคว้าตัวไปร่วมทีม แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนัก ถูกปล่อยตัวไปให้ แบรนด์ฟอร์ด กับ โบลตัน ยืมตัวตามลำดับ โดยสโมสรล่าสุดของเขานั้นคือการโยกย้ายมาค้าแข้งในประเทศอินเดียกับทีม เอทีเค เมื่อปี 2017 ซึ่งก็ลงเล่นได้เพียงปีเดียวก็ต้องโบกมือลากันไป ปัจจุบัน โธร์ป ในวัย 27 ปี กลายเป็นแข้งไร้สังกัด รวมแล้วเป็นก็เป็นเวลากว่า 2 ปีที่เขาไม่ได้ลงสนามในเกมฟุตบอลระดับอาชีพเลย

เจสซี่ ลินการ์ด

ดาวเตะที่มี DNA ของ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบเต็มขั้น เพราะเข้ามาสู่ศูนย์ฝึกของทีมตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น ก่อนที่จะค่อยๆ พัฒนาฝีเท้า เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการถูกปล่อยยืมไปยังสโมสรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เลสเตอร์ ซิตี้, เบอร์มิงแฮม ซิตี้, ไบร์ทตัน หรือ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ โดยปัจจุบัน ลินการ์ด เป็นหนึ่งในขุมกำลังของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในการไล่ล่าความสำเร็จต่างๆ รวมแล้วจนถึงตอนนี้เจ้าตัวลงสนามให้กับ "ปีศาจแดง" ไปแล้วทั้งสิ้น 202 นัด ซัดไป 31 ประตู ซึ่ง 1 ในนั้นคือการยิงพา ยูไนเต็ด เถลิงบัลลังก์แชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2016 [caption id="attachment_117429" align="aligncenter" width="1280"] Lingard เจสซี่ ลินการ์ด กับหนึ่งประตูแห่งความทรงจำในเกมเอฟเอ คีพ รอบชิงชนะเลิศ[/caption]

กิลเยโม่ บาเรล่า

แบ็คขวาชาวอุรุกวัยถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงตัวมาร่วมทีมในช่วงปี 2013 จากสโมสร เปยาร่อน ด้วยค่าตัว 2.8 ล้านยูโร ซึ่งคนที่ต้องการตัวเด็กหนุ่มผู้นี้ก็คือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ทว่าผู้ที่ได้ใช้งานจริงก็เป็น ฟาน กัล นี่แหละโดยในโอกาสลงสนามบ่อยหน่อยก็ในช่วงซีซั่น 2015-16 แต่ทว่าในฤดูกาลต่อมาก็ถูกปล่อยไปให้ แฟร้งเฟิร์ต ยืมตัว ก่อนที่จะถูก เปยาร่อน ต้นสังกัดเดิมอย่างดึงตัวกลับไปใช้งาน ปัจจุบัน บาเรล่า ในวัย 27 ปี ได้โอกาสกลับมาค้าแข้งในยุโรปอีกครั้งกับสโมสร เอฟซี โคเปนเฮเกน ทีมในลีกประเทศเดนมาร์ก พร้อมกับเป็นตัวหลักของทีมในฤดูกาลปัจจุบันนี้ด้วย

โดนัล เลิฟ

ปราการหลังชาวสกอตต์แลนด์ย้ายมาร่วมทัพ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงปี 2013 ก่อนที่ในอีก 3 ปีให้หลังเจ้าตัวจะได้โอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ซึ่งเกมดังกล่าวเป็นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ทีมบุกไปพ่าย ซันเดอร์แลนด์ 2-1 โดย เลิฟ ถูกส่งลงสนามไปแทน มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ตั้งแต่ช่วง 37 นาทีของเกม ภายหลังรุ่นพี่คนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ รวมแล้ว เลิฟ ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ "ปีศาจแดง" ไปทั้งสิ้น 2 นัดถ้วน (อีกเกมคือลงเล่นนัดที่ทีมแพ้ มิดทิลแลนด์ 2-1 ในยูโรปาลีก) ก่อนที่ทีมจะปล่อยออกจากสโมสรในช่วงปี 2016 ซึ่งเจ้าตัวย้ายไปร่วมทัพ วีแกน แอธเลติก ก่อนค้าแข้งกับทีมได้ 3 ปี ก็ได้โอกาสโยกย้ายอีกครั้งด้วยการไปร่วมทัพ ชรูว์สบิวรีทาวน์ ทีมในศึกลีกวัน อังกฤษ ในตอนนี้

รีแกน พลู

เชื่อว่าแฟนบอล "ปีศาจแดง" หลายคนน่าจะไม่รู้จักชื่อของแข้งรายนี้มากเท่าไหร่ เพราะบทบาทกับทีมของเขานั้นถือว่าน้อยมาก โดยเฉพาะกับทีมชุดใหญ่ที่ได้รับโอกาสลงสนามไปเพียง 1 นาที เท่านั้นในเกมกับ มิดทิลแลนด์ ที่ทีมเปิดบ้านเอาชนะไป 5-1 ในศึกยูโรปาลีก ซึ่งเจ้าตัวถูกส่งลงสนามแทนที่ของ อันเดร์ เอเรร่า ในช่วงทดเจ็บ โดยชีวิตลูกหนังของเขาหลังจากนั้นก็ถูกปล่อยยืมตัวไปให้ น็อตแธมป์ตัน และ นิวพอร์ต ก่อนที่จะเซ็นสัญญาถาวรกับ มิลตัน คีนส์ดอนส์ เมื่อช่วงปี 2019 ภายหลังหมดสัญญากับทาง แมนฯ ยูไนเต็ด [caption id="attachment_117430" align="aligncenter" width="1280"] Cameron Borthwick-Jackson คาเมร่อน บอสวิค-แจ็คสัน กับอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปต่อกับทีมหรือไม่[/caption]

คาเมร่อน บอสวิค-แจ็คสัน

อีกหนึ่งเด็กปั้นขนานแท้ของทีมที่ได้รับโอกาสขึ้นมาแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่เมื่อฤดูกาล 2015-16 โดยตำแหน่งถนัดของเจ้าตัวอยู่ที่แบ็คขวาซึ่งในซีซั่นดังกล่าวเขาถูกส่งลงสนามไปมากถึง 14 นัด ก่อนที่หลังจากนั้นเขาจะไม่ได้แวะเวียนมาลงสนามให้ทีมชุดใหญ่อีกเลย โดยนับตั้งแต่จบซีซั่น 2016-17 เจ้าตัวถูกปล่อยยืมตัวมาตลอดไล่ตั้งแต่ วูลฟ์แฮมป์ตัน, ลีดส์ ยูไนเต็ด, สคันธอร์ป ยูไนเต็ด, ทรานเมียร์ โรเวอร์ และปัจจุบันในวัย 23 ปี ก็ถูกปล่อยยืมตัวไปให้ โอล์คแฮม แอธเลติก ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่งสัญญาของเขากับ "ปีศาจแดง" กำลังจะหมดลงในช่วงเดือนซัมเมอร์นี้ ก็ไม่รู้จะได้รับการขยายออกไปหรือไม่

เจมส์ เวียร์

ไม่แปลกถ้าแฟนบอล "ปีศาจแดง" จะเกาหัวไม่รู้ว่าไอ้เด็กหนุ่มคนนี้มันเป็นใคร เพราะผลงานของเขากับทีมนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย โดย เจมส์ เวียร์ ได้โอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด เพียงนัดเดียวเท่านั้น โดยเกิดขึ้นในศึกพรีเมียร์ลีกเกมที่ 27 ของ ซีซั่น 2015-16 ซึ่งเกมดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือน อาร์เซน่อล 3-2 โดย เวียร์ ได้ลงสนามไปในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และแทบไม่ได้สัมผัสกับลูกฟุตบอลเลย โดย เจมส์ ย้ายออกจากถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงซีซั่น 2016-17 และเป็น ฮัลล์ ซิตี้ ที่คว้าตัวไปครอง ก่อนที่หลังจากนั้นเขาจะเพจรไปอีกกับ วีแกน, โบลตัน และสโมสรล่าสุดคือ พอนโลเนีย ทีมในลีกประเทศสโลวาเกีย

โจ ไรลี่ย์

อดีตเด็กฝึกของ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งคนที่ทาง ฟาน กัล ดันขึ้นมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่ แต่ทว่าดูเหมือนจะปลุกปั้นไม่สำเร็จเพราะ ไรลี่ย์ ถูกส่งลงสนามกับทีมชุดใหญ่ไปทั้งหมดเพียง 2 นัด ก่อนถูกปล่อยยืมตัวไปฝห้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมใช้งานช่วงซีซั่น 2016-17 โดยปัจจุบัน ไรลี่ย์ ในวัย 23 ปี ได้โยกย้ายไปค้าแข้งกับ แบรดฟอร์ด สโมสรเล็กๆ ในลีกทู ประเทศอังกฤษ แต่ก็ยังไม่อาจก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้ [caption id="attachment_117431" align="aligncenter" width="1280"] Timothy Fosu-Mensah อาการบาดเจ็บทำให้ ธิโมที โฟร์ซู-เมนซ่า หยุดพัฒนาไปไม่ใช่น้อยเลย[/caption]

ธิโมที โฟร์ซู-เมนซ่า

ปราการหลังเอนกประสงค์ที่ลงเล่นได้หลายตำแหน่ง และดูเหมือนอนาคตของเขาน่จะพุ่งไปได้ไกลกว่านี้ แต่ทว่ามันก็ยังไปไม้่สุดกว่านี้เสียที โดย โฟร์ซู-เมนซ่า ขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ของทีมครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2015-16 ก่อนที่ปีถัดๆ มาจะถูกปล่อยยืมตัวไป คริสตัล พาเลซ และ ฟูแล่ม ตามลำดับ โดยปัจจุบัน ธิโมที โฟร์ซู-เมนซ่า ยังคงค้าแข้งอยู่กับทีม แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้ชื่อของเขาหายไปจากสารบบของทีม ซึ่งก็ต้องมาคอยดูกันว่าหลังจากนี้ โฟร์ซู-เมนซ่า จะสามารถกลับมาเรียกฟอร์มเก่งเพื่อกลับขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ "ปีศาจแดง" ได้หรือไม่

มาร์คัส แรชฟอร์ด

ถ้าจะบอกว่าแข้งรายนี้เก่งที่สุดในรุ่นจากที่กล่าวมามันคงไม่ได้มากจนเกินไป เพราะหลังจากเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ด้วยการกระทุ้ง 2 ประตูในศึกยุโรปาลีกปี 2016 ดูเหมือนกราฟชีวิตของเจ้าหนูรายนี้จะพุ่งขึ้นแบบไม่มีที่สิ้นสุด เพราะในตอนนี้ แรชฟอร์ด ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวหลักของทีม และเป็นตัวความหวังในแดนหน้า พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อยๆ และใครจะเชื่อว่านับจนถึงตอนนี้ แรชฟอร์ด ลงสนามให้ ยูไนเต็ด ไปแล้วถึง 201 นัด ซัดไป 64 ประตู แน่นอนถ้ารักษามาตรฐานจองตัวเองให้ยอดเยี่ยม มีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงเบอร์ต้นๆ ของโลก

- เปา ขอบสนาม -

ติดตามไลน์ขอบสนามเพิ่มเติม เพิ่มเพื่อน
logoline