logo-heading

จบลงไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับเกมคู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่เปิดบ้านเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 1-1 โดยฝั่งเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจาก สตีเว่น เบอร์กไวน์ ก่อนที่ฝั่ง 'ปีศาจแดง' จะตามตีเสมอจากจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นาานเดส

ซึ่งจาก 90 นาทีของเกมเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาก็มีหลากหลายประเด็นให้พูดถึงเป็นอย่างมากกับการคัมแบ็คกลับมาลงสนามของทั้งคู่ ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราเลยจะมานำเสนอ 5 ประเด็นเด็ดๆ หลังเกมว่าจะมีประเด็นไหนแซ่บๆ ให้แฟนบอลได้ติดตามรับชมกันบ้าง ...

27 นาทีของ ป็อกบา

พลันที่รายชื่อของทางฝั่งผู้มาเยือนอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกประกาศออกมา มันอาจจะสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอลเล็กน้อยเพราะ 11 ตัวจริงยังคงไร้ชื่อของ ปอล ป็อกบา ที่การคัมแบ็คหลังอาการบาดเจ็บร่วมๆ ครึ่งปีของเขาเป็นเพียงตัวสำรอง ส่วนนึง โซลชา อาจมองว่ายังไม่อยากเสี่ยงให้ ป็อกบา ลงสนามเป็นตัวจริงเลยในทันที แต่ทว่าด้วยสถานการณ์ของเกมที่ทีมต้องการประตู ป็อกบา ถูกส่งลงสนามมาในนาทีที่ 63 แทนที่ของ เฟร็ด ซึ่งเจ้าตัวอยู่ในสนามได้ไม่กี่วินาทีก็มีโอกาสสับไกลไป 1 จังหวะ รวมไปถึงยกระดับเกมของ "ปีศาจแดง" ให้กลับมาดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง นอกจากนั้นยังมีการจ่ายบอลสวยๆ ทั้งสั้น และยาว รวมไปถึงจังหวะงไฮไลท์ที่ ป็อกบา ใช้สเต็ปหลอกล่อจน เอริค ดายเออร์ ต้องหยุดยั้งด้วยการเบียดเขาล้มลงไปในกรอบเขตโทษ  ซึ่งสถิติหลังเกมมันค่อนข้างชี้ชัดว่า 27 นาทีของ ป็อกบา ในสนามเจ้าตัวรังสรรค์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น ความแม่นยำในการจ่ายบอลสั้น 94%, วามแม่นยำในการจ่ายบอล 100%, แย่งบอลได้ 4 ครั้ง รวมไปถึงเรียก 1 จุดโทษให้กับทีม ซึ่งรวมๆ แล้วเมื่อเขาถูกนำมาเข้าคู่กับ บรูโน่ แฟร์นานเดส ก็ถือว่าเนียนตาไม่ใช่น้อย ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่านัดหน้าถ้าได้โอกาสรวมงานกันเต็มๆ 90 นาที มันจะจัดจ้านมากขนาดไหน Pogba Bruno

รถบัสของน้ามู

อย่างที่เราทราบกันว่าจุดเด่นของ โชเซ่ มูรินโญ่ คือเกมรับที่เหนียวแน่น และอาศัยจังหวะโต้กลับที่ยอดเยี่ยม ซึ่งแน่นอนว่าก่อนลงสนาม "น้ามู" รู้อยู่แล้วว่าศักยภาพของพวกเขาเป็นรองผู้มาเยือน และทีมยังจะต้องขาด เดเล่ อัลลี จากโทษแบน 1 นัดอีก  พอลงสนามไปก็อย่างที่แฟนบอลได้เห็น สเปอร์ส ใช้วิธีการเล่นแบบรัดกุม ตั้งโซนเกมรับให้เหนียวแน่นมากที่สุด รอดักจังหวะจากที่คู่แข่งพลาด และดูเหมือนมันจะสัมฤทธิ์ผลซะด้วยเพราะพวกเขาได้ประตูขึ้นจากความผิดพลาดของทัพ "ปีศาจแดง" ก่อนที่จะเป็น สตีเว่น เบิร์กไวน์ หลุดเข้าไปล่อเต็มแข้งในช่วงนาทีที่ 27 ทำให้หลังจากนั้นพวกเขาเล่นง่ายขึ้น และมันเข้าแผนการของ มูรินโญ่ แบบเต็มๆ โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่มาตั้งรถบัสแบบชัดเจน และอาศัยจังหวะฉาบฉวยในการโต้กลับ ซึ่งถ้าพอจะมีเรื่องให้น่าเสียดายก็อาจจะเป็นที่แนวรุกด้านบน 3 คนของพวกเขาที่ดูเหมือนจะยังต่อกันไม่ติดทั้ง แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง-มิน และ เอริค ลาเมล่า เพราะมีหลายจังหวะที่ควรจะทำได้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะในรายของ เคน ที่แทบไม่มีโอกาสได้ง้างเท้ายิง มากไปกว่านั้นไม่ได้โอกาสเข้าไปสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษของฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เลยสักครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นแล้วอาจบวกสกอร์เพิ่มฉีกห่างคู่แข่งไปได้แล้ว

โยริส ฟอร์มอย่างแจ่ม

ถ้าจะบอกว่าหนึ่งในส่วนสำคัญที่ช่วยให้ สเปอร์ส รอดพ้นจากการเสียประตู และเก็บ 1 คะแนนสำคัญนี้ได้นั้นก็คงต้องยกเครดิตให้กับ อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูของทีมไปแบบเต็มๆ  เพราะนายทวารชาวฝรั่งเศสได้ทำการงัดฟอร์มแจ่มเซฟจังหวะสำคัญๆ ได้หลายครั้งมากๆ โดยสถิติหลังจบเกมระบุว่า โยริส เซฟไปมากถึง 7 ครั้ง ซึ่งแต่ละลูกต้องบอกว่ามันก็ยากไม่ใช่น้อย อย่างเช่นลูกยิงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในช่วงครึ่งเวลาแรก หรือจังหวะยิงจ่อๆ ในกรอบเขตโทษของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ในช่วงกลางครึ่งหลัง รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าเขาโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นที่สุดของทัพ "ไก่เดือยทอง" ประจำค่ำคืนที่ผ่านมา 5 ประเด็นหลังเกม ปีศาจแดง บุกยื้อ 1 แต้มจากรัง ไก่เดือยทอง

สภาพร่างกาย

ต้องยอมรับว่าการหยุดพักไปนานกว่า 3 เดือนมันส่งผลกระทบต่อนักเตะมากพอสมควร โดยเกมล่าสุดก่อนหยุดพักไปของ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นในเกมยูโรปาลีกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ส่วนฝั่ง สเปอร์ส เล่นนัดสุดท้ายคือเกมแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งถึงแม้ในช่วงที่หยุดไปทางสโมสรจะได้มีการจัดโปรแกรมออกกำลังกายให้กับนักเตะไปทำกันที่บ้าน เพื่อยังคงสภาพความฟิตเอาไว้ แต่ทว่ามันก็ไม่เหมือนกับการได้ลงสนามไปแข่งขันกันจริงๆ ซึ่งจากเกมที่ผ่านๆ มา รวมไปถึงคู่ของ สเปอร์ส กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เราจะสังเกตุเห็นว่านักเตะบางคนออกอาการเหนื่อยล้าแบบชัดเจน แน่นอนแหละว่ามันเป็นเกมแรกในรอบ 3 เดือน มันไม่แปลกที่อาการดังกล่าวมันจะแสดงออกมา และมีให้เห็นถึงแม้จะเป็นนักกีฬาอาชีพก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการกลับมาลงสนามในเกมหน้าพวกเขาเหล่านั้นสภาพร่างกายก็น่าจะกลับมาเข้าที่เข้าทางกันแล้ว

โอกาสติดท็อป 4 ของทั้งคู่

ภายหลังจบเกมการแข่งขันเกมนัดนี้นั้นเท่ากับว่าทั้ง 2 ทีมจะเหลือโปรแกรมในศึกพรีเมียร์ลีกกันอีกเพียง 8 เกมเท่านั้น กับการไล่ล่าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้า ซึ่งจากผลการแข่งขันที่แบ่งกันไปเพียงทีมละ 1 คะแนน มันก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะโดน เชลซี ทีมอันดับ 4 ฉีกห่างไปด้วยกันทั้งคู่ โดยตอนนี้ฝั่ง "ปีศาจแดง" ตามหลังอยู่ 2 คะแนน ส่วนฝั่ง "ไก่เดือยทอง" ตามอยู่ห่างๆ 6 คะแนน แต่แข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด ซึ่งกับโอกาสที่มีมันยังคงเปิดกว้างในอีก 8 เกมที่เหลือ แต่ในวงเล็บที่ว่าห้ามพลาดอีกเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นมันไม่เพียงแต่จะโดน เชลซี ฉีกห่างออกไป แต่อาจพ่วงไปด้วยการถูกถีบตกจากอันดับที่ครอบครองอยู่ เพราะอย่างลืมว่าคู่แข่งในระแวกใกล้ๆ อย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ วูลฟ์แฮมป์ตัน ก็รอคอยโอกาสอยู่อย่างเงียบๆ ในการตะครุบตั๋วใบนี้อยู่เหมือนกัน

- เปา ขอบสนาม -

ติดตามไลน์ขอบสนามเพิ่มเติม เพิ่มเพื่อน
logoline