logo-heading

ริชาร์ลิซอน หัวหอก เอฟเวอร์ตัน กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าบนหน้าโลกออนไลน์ของเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" เมื่อประกาศกร้าวแบบไม่เกรงกลัวคลาสบอล เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เซ็นเตอร์แบ็ก ลิเวอร์พูล ว่า กองหลังรายนี้ไม่ได้ดีที่สุดในโลก แต่ยังมีแนวรับอยู่อีกถึง 3 คน ที่ยอดเยี่ยมกว่าเป็นไหนๆ

ด้วยเพราะตัวเขาเอง สามารถเลี้ยงหลบ ฟาน ไดค์ มาแล้วกับเท้า ต่อให้ขึ้นชื่อว่าเป็นกองหลังที่ผ่านยากมาก ซึ่งนั่นแหละครับกลายเป็นดราม่าทันที เพราะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" กำลังจะดวลกับ "หงส์แดง" ในศึกดาร์บี้แมตช์ บ้านใกล้เรือนเคียง

คำพูดของ ริชาร์ลิซอน อาจจะดูโอ้อวดไปหน่อยๆ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลือกนักสู้ ไม่เกรงกลัวหน้าไหน เพราะชีวิตของเขาผ่าน มรสุมร้ายๆมาตั้งแต่เด็กๆ ฉะนั้น ขอบสนาม จะพาไปดูว่ากว่าที่เขาจะเติบโตมาเป็น ริชาร์ลิซอน และ ห้าวเป้งแบบทุกวันนี้ ต้องอาบน้ำร้อนมาขนาดไหน

- ฐานะบ้านยากจน

เรื่องราวของนักเตะบราซิล เป็นเหมือนหนังที่มีพล็อต ต่อสู้กับความยากลำบาก ให้อารมณ์กำลังนั่งดู "วงเวียนชีวิต" และ ริชาร์ลิซอน ก็คือหนึ่งในนักเตะที่ประสบปัญหาแบบนั้น กว่าจะเติบโตมาได้ ต้องเลี้ยงด้วยลำแข้งมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะครอบครัวไม่ได้มีเงินนอนบนกองทองแบบใครเขา ริชาร์ลิซอน อาศัยอยู่กับครอบครัว โดยมีพี่น้อง 2 คน ด้วยความที่ ปากกัดตีนถีบ ตั้งแต่เด็กๆ นอกจากจะไปทำงานกับพ่อและแม่ตามไร่นาแล้วนั้น เขายังต้องปลีกตัวออกมาขายขนมและขายไอศรีม เพื่อนำเงินมาจุนเจือชีวิต ลำพังแค่ฐานะยากจน ต้องออกมาหาเลี้ยงชีพตั้งแต่เด็กๆ ก็ดูลำบากมากพอแล้ว เขาเองยังต้องห่างจากครอบครัว ไปอาศัยอยู่กับคุณลุงเป็นส่วนใหญ่ เพราะสถานที่แห่งนั้นอยู่ใกล้กับสนามฝึกซ้อมทักษะลูกหนังมากกว่า หากใจไม่รักฟุตบอลจริงๆ ชีวิตอาจจะออกนอกลู่นอกทาง

- โดนปฏิเสธมานับไม่ถ้วน จนเกือบเลิกเล่นฟุตบอล

ทุกคนล้วนมีความฝัน แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก "ที่จะสามารถเดินตามความฝันได้ตลอดเส้นทาง" ชีวิตของ ริชาร์ลิซอน เคยจะเกือบหันหลังให้กับวงการลูกหนังไปแล้ว เพราะเขาเสียใจจนท้อแท้ เนื่องจากถูกปฏิเสธจากหลายๆทีม มาแบบนับไม่ถ้วน ถึงขั้นที่เจ้าตัวเคยกล่าวไว้ว่า "ต่อให้คุณใช้ 2 มือ 10 นิ้วนับ ก็ใช้จำนวนทีมที่เคยปฏิเสธผมไม่ได้" แต่ ริชาร์ลิซอน ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา ดั่งสำนวน "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" เขายอมทุบหม้อข้าว ขอใช้ชีวิตเป็นเดิมพันครั้งสุดท้ายของชีวิต ด้วยการนำเงินที่เหลือติดตัว เดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับ อเมริกา มิไนโร่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกิด 600 กิโลเมตร ถ้าหากไม่ผ่านการตัดตัว เขาจะหันหลังให้กับฟุตบอลทันที และ ไม่มีแม้แต่สตางค์เดินทางกลับบ้าน และเหมือน "ฟ้ามีตา" เห็นความทุ่มเทสุดชีวิตของ ริชาร์ลิซอน เมื่อการทดสอบฝีเทากับ อเมริกา มิไนโร่ ผ่านไปด้วยดี ทำให้เขาได้เข้าไปอยู่ในอะคาเดมี่ของสโมสรแห่งนี้ ด้วยวัยราวๆ 17 ปี

- ใช้เวลาแค่ 3 ซีซั่น จากดิวิชั่น 2 บราซิล สู่เส้นทางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

หลังจากที่ ริชาร์ลิซอน เดินตามความฝัน ได้เข้ามาอยู่ อะคาเดมี่ของ อเมริกา มิไนโร่ เมื่อซีซั่น 2014 ผ่านไปเพียง 1 ปี เขาก็ได้ก้าวขึ้นมาเล่นกับชุดใหญ่ กับการแข่งขันบนเวที บราซิล เซเรีย บี เรียกว่าทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยกดไป 9 ประตู จาก 24 นัด ด้วยฟอร์มของ ริชาร์ลิซอน ในฐานะนักเตะอาชีพปีแรก กลายเป็นไปเตะตา ฟลูมิเนนเซ่ ทีมดังจาก เซเรีย เอ ลีกสูงสุดแห่งวงการลูกหนัง "แซมบ้า" พร้อมเซ็นสัญญา 5 ปี จากเด็กดาวรุ่ง สู่นักเตะที่ปีกกล้าขาแข็ง พัฒนาสู่ผู้เล่นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยซีซั่นที่ 2 กับ ฟลูมิเนนเซ่ คือจุดเปลี่ยนชีวิตค้าแข้ง เมื่อการลงเล่น 36 นัด ของเขา ซัดไป 15 ประตู และ มันดีพอทำให้จากเด็กยากจน ต้องมาเร่ขายขนมเพื่อเลี้ยงชีพ ได้เก็บข้าวของย้ายออกจาก ฟลูมิเนนเซ่ มาค้าแข้งกับ วัตฟอร์ด สโมสรชื่อดังจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งถือเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก ด้วยค่าตัว 11.2 ล้านปอนด์ .. วันที่ ริชาร์ลิซอน ย้ายมา ไม่มีใครรู้จัก ชื่อเสียงมาจากไหนไม่มีใครทราบ แต่เริ่มเป็นที่รู้จัก เมื่อเขาลงมาปั่นป่วน ก่อนจะช่วยให้ "แตนอาละวาด" เสมอกับ ลิเวอร์พูล 3-3

- นักเตะค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ เอฟเวอร์ตัน

อย่างที่บอก ชื่อเสียง ริชาร์ลิซอน โด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะถูกจดบันทึกไว้ว่าทำได้เพียงแค่ 5 ประตู จากการลงสนาม 38 นัด ให้กับ วัตฟอร์ด แต่สไตล์ของเขามันจี๊ดจ๊าดโดนใจ สปีดคือจุดเด่น ที่คอยเล่นงานกองหลัง ถ้าหากเพิ่มกล้ามเนื้ออีกหน่อย จะแข็งแกร่งมากกว่านี้อีกหลายขุม เพียงแค่ 1 ซีซั่น วัตฟอร์ด ก็เล็กไปแล้วสำหรับ ริชาร์ลิซอน เพราะนอกจากฝีเท้าแล้ว ยังบวกกับโชควาสนาไปด้วย เพราะ มาร์โก ซิลวา เจ้านายเก่าสมัย แตนอาละวาด ได้โยกย้ายมากุมบังเหียน เอฟเวอร์ตัน และ เฮดโค้ชรายนี้จึงตัดสินใจดึงตัว ริชาร์ลิซอน มาด้วย แต่ไม่ได้มาในฐานะแข้งโนเนมอีกแล้ว เพราะ เอฟเวอร์ตัน ยอมทุ่มทุนสร้าง กระหน่ำเปย์เงินเป็นสถิติสโมสร 50 ล้านปอนด์ เพื่อดึงตัว ริชาร์ลิซอน เข้ามาเป็นแกนหลักสำคัญ นับเป็นเม็ดเงินที่เหลือเชื่อมากๆ หากพิจารณาดูจากชีวิตของ ริชาร์ลิซอน ที่เส้นทางลูกหนังไม่ได้มีอะไรหวือหวา แชมป์ติดตัวก็ไม่มี, ยิงประตูกระจายก็ไม่ใช่ แต่ผลงานของเขากับมัดใจบอร์ดบริหาร "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" อยู่หมัด

- ก้าวติดทีมชาติบราซิล

หลังจากย้ายไปอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน ด้วยเม็ดเงินมหาศาล ริชาร์ลิซอน ก็กระฉ่อนทันที เพียงไม่นาน เขาก็ถูกเรียกไปติดทีมชาติบราซิล เป็นครั้งแรก ยุค ติเต้ คุมทัพ และ แค่นัดที่ 2 กับทัพ "เซเลเซา" หัวหอกเจ้าของความสูงเพียง 179 เซนติเมตร ก็เปิดซิงซัด 2 ประตู ให้กับบ้านเกิด นัดถล่ม เอล ซัลวาดอร์ 5-0 ด้วยความที่ บราซิล มีนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ หรือ แข้งชั้นนำอยู่เพียบ ทั้งในลีกยุโรป และ ลีกต่างๆ หากใครไม่รักษาฟอร์มการเล่นให้ดี ก็สามารถหลุดออกจากขุมกำลังได้ทุกเมื่อ นั่นทำให้ ริชาร์ลอซอน พยายามรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองไว้ให้ได้ เพราะความฝันของเขาคือการติดทีมชาติบราซิล ไปลุย โคปา อเมริกา 2019 ริชาร์ลิซอน หวังไว้มาก และ เขาไม่เคยหยิ่งผยอง โอ้อวดกับใคร เขายังเป็นเด็กที่พร้อมรอคอยโอกาสเสมอ ในวันที่ ติเต้ จะประกาศรายชื่อ 23 ขุนพล ไปชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ เขาไปนั่งลุ้นกับเด็กๆในบ้านเกิด และ กระโดดโลดเต้นประหนึ่งว่าเป็นเด็ก 5 ขวบ ไม่ต้องรักษาภาพพจน์ใดๆทั้งสิ้น ทัวร์นาเมนต์นั้น ริชาร์ลิซอน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในรอบแบ่งกลุ่ม .. เขาผู้ไม่เคยปล่อยให้ความฝันหลุดมือ มีชื่อทั้งเป็นผู้ยิงบนสกอร์ และ จ่ายให้เพื่อนทำประตู น่าเสียดายเล็กน้อย ที่รอบน็อคเอาท เจ้าตัวมีปัญหาเรื่องความฟิต แต่กระนั้นอย่างน้อยๆก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2019 ได้สำเร็จ นับเป็นแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิต

- ปักหลัก เอฟเวอร์ตัน ยาวๆ

การต่อสัญญากับ ริชาร์ลิซอน ของ เอฟเวอร์ตัน ไปอีก 5 ปี เมื่อช่วงซัมเมอร์ครั้งก่อน เป็นเหมือนคำตอบหลายๆอย่างว่าผลงานของเขาเป็นอย่างไร ? สโมสรวางโครงสร้างไว้อย่างไร และ นักเตะรายนี้มีความสำคัญมากเพียงใด เพราะนักเตะอายุวัยแค่ 23 กะรัต ยังสามารถทำอะไรได้อีกมากมายนับไม่ถ้วน ฤดูกาลก่อน ริชาร์ลิซอน เคยฝากผลงานซัลโวเอาไว้ 13 ตุง จาก 35 นัด มาฤดูกาลนี้ทุกอย่างดูดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ 27 นัด กดไป 10 ประตู อีกเพียงแค่ 3 ลูก ก็จะแซงสถิติตัวเองทันที !! ยิ่งเกมรีสตาร์ทซีซั่น เอฟเวอร์ตัน จะทำศึก เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ พบกับ ลิเวอร์พูล คืนวันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย. นี้ สปอร์ตไลท์จะฉายมาหา ริชาร์ลิซอน เป็นพิเศษแน่นอน เพื่อที่ทุกสายตาจะคอยจับจ้องว่า เขาจะสามารถเลี้ยงผ่านและเอาชนะ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้อีกครั้ง เหมือนที่ได้กล่าวผ่านลมปากออกไป หรือไม่

ติดตามคอนเทนต์ ขอบสนาม ได้ที่ไลน์แอด

logoline