logo-heading

30 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก แต่มันเป็นเวลาอันแสนยาวนานสำหรับสาวก ลิเวอร์พูล ที่ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความชอกช้ำมาทุกซีซั่น แต่ทุกอย่างสิ้นสุดการรอคอบ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่พวกเขาตามหา จบลงเสียที เมื่อ เชลซี เป็นปัจจัยเร่ง ให้สาวก หงส์แดง ฉลองแชมป์ไวกว่าเดิม หลังเปิดบ้านเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1

หลากหลายเหตุผลที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ก้าวไปคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ใช่เป็นมีมที่เคยถูกล้อว่าเป็นแชมป์ลีก "จีนแดง" อีกแล้ว ซึ่งปัจจัยที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้แหละครับ เป็นตัวถีบ หงส์แดง ปิดฉาดแชมป์ลีกที่รอคอย มา 30 ปี

  1. ต่อยอดความสำเร็จ

ไม่มีใครอยากเป็นพระรองไปตลอดชีวิต ถูกไหมครับ ? ใครๆก็อยากเป็นเบอร์ 1 กันทั้งนั้นแหละ แต่กับ ลิเวอร์พูล ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า เมฆหมอกปกคลุมไปทั่ว ฟ้าฝนตกลงมาอาจกลบน้ำตาที่เอ่อล้น เพราะ ลีก คัพ, ยูโรปา ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ถูกจดจำว่าเป็นแค่ผู้เข้าชิงเท่านั้น ไม่เคยสัมผัสโทรฟี่เสียที ความผิดหวังอาจจะกัดกินความหวัง หากแต่ถูกแปรเปลี่ยนสภาพเป็น "ความมุ่งมั่น" ลิเวอร์พูล สานฝันคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ด้วยการเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0 มาครอง แลกกับการที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน จากนั้น ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ แชมป์สโมสร ก็หลั่งไหลตามกันมา ประดับบารมีไว้ที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล, หงส์แดง เหลืออีกแค่ความฝันเดียวที่ หงส์แดง ตามหามานาน 30 ปี พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คือบัลลังค์ที่พร้อมขึ้นไปปีนป่าย ด้วยขุมกำลังที่อาจไม่ได้ใครมาเสริม แต่ก็ไม่เสียตัวหลักออกไปเลย ทำให้ทุกอย่างมันหลอมรวม
  1. 97 แต้ม คือแรงผลักดัน

ปกติแล้วถ้าทำแต้มขึ้นแตะหลัก 90 คะแนน ก็แทบจะแบเบอร์คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปครอง ขนาดสถิติที่ถูกบันทึกไว้ว่าทีมที่เป็นแชมป์ด้วยคะแนนต่ำสุดคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อซีซั่น 1996-97 ได้เพียงแค่ 75 คะแนน ฉะนั้นการได้ 97 แต้ม ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรมาให้กวนใจ อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล คือทีมที่เหมือนอับจนหนทาง เหมือนว่าโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะกลายเป็นเส้นขนานกับพวกเขาไปแล้ว เพราะฤดูกาล 2018-19 ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด เก็บได้ถึง 97 แต้ม แต่เชื่อไหมว่ามันไม่เพียงพอ เพราะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดินหน้าเร่งเครื่อง เข้าป้ายคว้าแชมป์ แซงหน้าไป 1 แต้ม 5 ปัจจัยสำคัญถีบ หงส์แดง สู่ แชมป์ พรีเมียร์ลีก 30 ปี ที่รอคอย บางคนเคยบอกว่า ลิเวอร์พูล คงไม่อาจกลับมาทำผลงานได้ดีแบบนั้นไปแล้ว เพราะผลพวงจากการอกหักอาจเป็น อาฟเตอร์ช็อค ให้เครื่องจักรสีแดง พังลง แต่หารู้ไม่ ความผิดหวัง เป็นเหมือนแรงผลักดันให้ทุกคนของ "หงส์แดง" ถีบตัวเอง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย และ คำตอบก็เห็นแล้วว่าพวกเขาทำงานหนักเพียงใด วิ่งไม่เคยหมด ถ้านกหวีด 90 นาที ไม่ดัง เป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่ต้องนับถือใจจริงๆ
  1. อาการบาดเจ็บ

ตัวแปรสำคัญที่ไม่อาจคาดเดา ไม่มีใครล่วงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต และ หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือเรื่อง "อาการบาดเจ็บ" เกริ่นมาแบบนี้ ใช่ว่าตัวหลัก ลิเวอร์พูล จะไม่เจ็บนะครับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เดี้ยงไปตั้งแต่ต้นซีซั่น ซาดิโอ มาเน่ หรือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็พลาดลงสนามช่วยทีมมาแล้วทั้งนั้น 5 ปัจจัยสำคัญถีบ หงส์แดง สู่ แชมป์ พรีเมียร์ลีก 30 ปี ที่รอคอย แต่กระนั้นฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ไม่เคยเสียผู้เล่นตัวหลักไปพร้อมๆกัน เพราะเมื่อใดที่มีคนหนึ่งเจ็บ จะมีอีกคนพร้อมช่วยทีมอยู่เสมอ และ คนที่ลงมาทดแทน ก็สามารถทดแทนได้อย่างไม่เคอะเขิน ผิดกับคู่แข่งทีมอื่นๆ ที่เจอปัญหาเดี้ยงเช่นกันก็จริง แต่ล้วนเป็นตำแหน่งสำคัญทั้งนั้น ยกตัวอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แนวรับควงแขนกันนอนโรงพยาบาล ถึงขั้นต้องถอย แฟร์นานดินโญ่ ลงมายืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กจำเป็น ส่วน ลิเวอร์พูล เหมือนสตาฟความฟิต เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เอาไว้ หลายคนๆมองว่าถ้า "บิ๊กเฟอร์จิล" มีปัญหาเดี้ยง จะส่งผลร้ายแรงอย่างแน่นอน แต่กลายเป็นว่า ฟาน ไดค์ ลงครบ 31 นัด ไม่มีเจ็บ ไม่มีป่วย และ ไม่มีถูกเปลี่ยนตัวออก ลงเล่นครบทุกนาทีในสนาม ซึ่งเนี่ยแหละเรื่องอาการบาดเจ็บ อาจจะเป็นปัจจัยรอง ทว่ามันช่วยให้ "หงส์แดง" ก้าวไปเถลิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ 30 ปี ที่รอคอยลงเสียที
  1. สาวก "เดอะ ค็อป"

"นรกของทีมเยือน" เรามักจะได้ยิน ได้เห็นวลีนี้เป็นประจำ เมื่อทีมรักต้องไปเยือนสังเวียนโหดๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นต้องขอยกให้กับ แอนฟิลด์ รังเหย้า ลิเวอร์พูล ถึงแม้ว่าสังเวียนแห่งนี้อาจไม่ได้มีความจุเยอะที่สุด แต่ราวๆ 54,000 คน สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับคู่แข่งมากเหลือเกิน ตลอด 90 นาที สาวก "เดอะ ค็อป" ไม่เคยหยุดส่งเสียงแม้แต่วินาทีเดียว บรรยากาศปลุกเร้าตั้งแต่ก่อนเกม หากยิงไม่ได้จะคอยกระตุ้นเรื่อยๆ หากขึ้นนำพวกเขาจะข่มขวัญให้คู่แข่งขาสั่นไปไม่เป็น เหมือนอย่างที่ บาร์เซโลน่า เคยแพ้แบบเละเทะ 0-4 เป็นแมตช์พลิกนรกแห่งประวัติศาสตร์สำหรับ ลิเวอร์พูล จริงๆ หงส์แดง ไม่แพ้ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่แอนฟิลด์ มาแล้ว 2 ปี ยิ่งฤดูกาลนี้ชนะ 16 นัดรวด ไม่มีแพ้ ไม่มีเสมอ ต่อให้เป็นช่วง โควิด-19 แรงใจจากทั่วทุกมุมโลก ส่งมาถึงนักเตะ ลิเวอร์พูล แบบล้นหลาม ซึ่งพวกเขาก็ทราบดี ถึงสิ่งที่แฟนบอลรอคอย ซึ่งปัจจัยนี้สำคัญมากต่อการผลักดัน เร้ด แมชชีน ไปสู่แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะถ้าไม่มีผู้เล่นคนที่ 12 ก็ไม่รู้ว่าจะหากำลังใจได้จากไหน
  1. เจอร์เก้น คล็อปป์

คุณเคยเห็นพระเอกหนังสักเรื่อง ที่ล้มลุกคลุกคลาน สะบักสะบอม ประหนึ่งโดนยิงเข้าหน้าอก แต่ไม่ทะลุถึงหัวใจไหมครับ ? เปรียบเสมือน ลิเวอร์พูล เป็นตัวเอกเรื่องนั้น โดยมีหนังชีวิตที่ชื่อว่า "พรีเมียร์ลีก อังกฤษ" 30 ปีที่ผ่านมา หงส์แดง เหมือนเจออาถรรพ์ ที่ไม่สามารถล้างคำสาปได้เสียที 5 ปัจจัยสำคัญถีบ หงส์แดง สู่ แชมป์ พรีเมียร์ลีก 30 ปี ที่รอคอย ไม่ว่าเลือกฉากไหน จะเจอแต่ซีนความทรงจำร้ายๆ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลื่นล้ม, 97 แต้ม ยังไม่ได้แชมป์, ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปกลับ แต่ทะลึ่งสะดุดขาตัวเอง เมื่อปี 2009 ลิเวอร์พูล กำลังนอนหายใจโรยริน หมอบอกว่าคงไม่มีปาฏิหาริย์อีกแล้ววว แต่คงเหมือนฉากในหนัง ที่ฝันถึงใครสักคน ในภาพจินตนาการ ช่วงที่เรากำลังนอนหลับไหล และ เรียกเราให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ คนนั้นคือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้ปลุกวิญญาณเครื่องจักรสีแดง ปั้มหัวใจขึ้นมาให้กลับมาต่อสู้ เขาเปลี่ยนแปลง ลิเวอร์พูล ให้เข้ากับสไตล์ตัวเอง ประคบประหงมดูแลในแบบของเขา คนอาจจะมองว่าบ้า แต่ก็บ้าในทางของตัวเอง เขาไม่เคยปล่อยให้ลูกทีมต้องเดินเดียวดายสักครั้ง หากใครมาแตะต้องคำว่า ลิเวอร์พูล หรือ โดนด่าเรื่องทำผิดพลาด หงส์แดง ที่เคยเกือบตาย จากความสิ้นหวัง กลายเป็นทีมวิ่งไม่เคยหยุด เล่นตามคำสั่งโค้ชทุกระเบียดนิ้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็ผลิดอกออกผล เข้าป้ายสู่การคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองได้สำเร็จ

ติดตามคอนเทนต์ดีๆจากเพจ ขอบสนาม ได้ที่ไลน์แอด

logoline