หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ชูถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปิดฉากฤดูกาล 2019-20 ที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ จะต้องมีคนหนึ่งแน่ๆเก็บข้าวของออกจากถิ่นแอนฟิลด์ นั่นก็คือ อดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์มากประสบการณ์ เพราะยืดสัญญาชั่วคราวไปถึงจบซีซั่นนี้เท่านั้น
อาจดูว่าเฉยๆ ไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกมากเท่าไหร่ เพราะ ลัลลาน่า เปลี่ยนสถานะจากตัวจริง ตอนที่ย้ายจาก เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อปี 2014 มาเป็นตัวสำรองที่แทบไม่ได้ลงสนาม แต่ลึกๆแล้วนักเตะรายนี้ ก็มีความสำคัญกับ หงส์แดง อยู่ไม่น้อย เพียงแค่อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และ เป็นสิ่งที่ ลิเวอร์พูล จะต้องขาดหายไป
- มืออาชีพที่ไม่เคยปริปากบ่น
โลกของฟุตบอลเนี่ย ไม่มีใครอยากเป็นตัวสำรองหรอกครับ ถ้าเลือกได้ทุกคนก็อยากจะเป็นตัวจริงกันทั้งนั้น บางคนไม่พอใจที่ต้องนั่งก้นด้านนานๆ ก็จะออกมาบ่นนุ้น บ่นนี่ และ เก็บข้าวของออกจากทีมในที่สุด แต่ในเคสของ อดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์จอมขยัน กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ลัลลาน่า ไม่ได้เป็นตัวจริงให้กับ หงส์แดง มานานถึง 3 ซีซั่น หลังเจอโรคเดี้ยงตามเล่นงานไม่หยุดหยุด จากนักเตะที่เคยลงมากกว่า 30 นัด ต่อฤดูกาล กลับมีสถิติลงโม่แข้งบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพียงแค่ 12 นัด / 13 นัด และ 15 นัด ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่มีชื่อลงมาเป็นตัวสำรองทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม ลัลลาน่า ไม่เคยปริปากบ่น ไม่มีเคยมีข่าวเสียๆหายๆเกี่ยวกับเขาออกมา เขายังคงแสดงความเป็นมืออาชีพ ฝึกซ้อมเต็มที่เพื่อรอคอยโอกาสลงสนาม ต่อให้จะเป็นสำรองก็ตาม นับเป็นตัวอย่างที่ดีแก่น้องๆรุ่นหลัง ว่าไม่ควรยอมแพ้ต่อโชคชะตา เพราะความอดทนและความพยายาม จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จ
ด้วยความที่ ลัลลาน่า หายหน้าหายตาจากขุมกำลัง "หงส์แดง" ไปหลายนัด ฉะนั้นเวลาลงสนามก็เลยถูกจับจ้องเป็นพิเศษ ว่าฟอร์มการเล่นพอจะสามารถสอดแทรกเป็นตัวจริงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้หรือไม่ จริงอยู่ที่อาการบาดเจ็บ ได้พลัดพรากฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาไปด้วย ทำให้ผลงานไม่อาจกับเทียบบรรดากองกลางตัวจริง หงส์แดง อาทิ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน / จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม หรือ นาบี เกอิต้า เป็นต้น
แต่จุดเด่นของ ลัลลาน่า ที่เหมือนเรียกพลังแฝงมาทดแทน นั่นคือการ "วิ่งไม่มีหยุด" ประดุจดั่ง 300 แรงม้า โดย "ลั้ลล้า" เคยมีสถิติวิ่ง 26 กิโลเมตร เฉลี่ยแล้ววิ่งต่อนัดมากถึง 13 กิโลเมตร ให้กับ ลิเวอร์พูล เรียกว่าตลอด 90 นาที แทบจะไม่ได้หยุดนิ่งเลยด้วยซ้ำ
สาเหตุที่ ลัลลาน่า วิ่งคึกขนาดนั้น เขาไม่ได้ดื่มน้ำต้มจากพืชใบสีเขียว แต่เขาเคยเปิดเผยเคล็ดลับไว้ว่า กินอาหารมากถึง 8 มื้อต่อวัน !! ตั้งแต่ตื่นเช้า จนถึงก่อนนอน ไม่ว่าจะเป็นไข่ต้ม, พาสต้า ,กล้วยหอม ,ไก่ ,แซนด์วิช หรือ เบค่อน บางทีการกินอาหารเยอะไม่คุมน้ำหนัก อาจส่งผลเสียต่อรูปร่างของนักฟุตบอล แต่เขามองว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยให้วิ่งในสนามแบบไม่มีหมด
มันจึงทำให้ ลัลลาน่า เปรียบเสมือนตัวสำรอง ที่มีความสำคัญในเกมที่ต้องวิ่งสู้ฟัด ไล่แย่งบอลจากคู่แข่ง อาจไม่ได้ช่วยเกมรุกมากนัก แต่ก็ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้บอลกลับคืนมา เพื่อสร้างสรรค์เกมรุกต่อไป ซึ่งนักเตะประเภทนี้หายากมากจริงๆ
ณ ชั่วโมงนี้ ถ้าพูดถึงนักเตะตัวความหวังในการทำประตูของ ลิเวอร์พูล ก็คงไม่พ้น 3 ประสานแดนหน้า โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ส่วนคนอื่นๆก็คงจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาซัลโวบ้าง เพื่อแบ่งเบาภาระบรรดาพวกตัวรุก
และจะมีใครคิดถึง ลัลลาน่า ในการลงมาทำประตูบ้างไหมครับ ? แฟนบอลอาจจะคิดแค่ว่าเขาถูกส่งลงมาเพื่อช่วยไล่บอล, บีบพื้นที่ ตามสไตล์ "เกเก้นเพรสซิ่ง" เนื่องด้วย ลัลลาน่า ไม่สามารถทำประตูให้กับ หงส์แดง บนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เลย ในซีซั่น 2017-18 กับ 2018-19
แต่ฤดูกาลนี้ แต้มสำคัญที่ ลัลลาน่า หยิบกลับมาให้ หงส์แดง คือแมตช์ที่สาวก ลิเวอร์พูล ประกาศไว้ว่า จะแพ้ใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด .. แมตช์นั้น ลัลลาน่า ถูกส่งลงมาเป็นสำรอง อยู่ในสนาม 25 นาที ..
คล็อปป์ กำชับว่าพยายามลงไปเปลี่ยนเกมให้มากที่สุด และ ความพยายามของเขาก็สัมฤทธิ์พล เมื่อดาวเตะมาดนายแบบรายนี้ เป็นคนยิงประตูตีเสมอให้ หงส์แดง บุกไปเสมอ ปีศาจแดง อย่างดราม่า 1-1 ฉะนั้นเมื่อ ลัลลาน่า จาก ลิเวอร์พูล ไปแล้ว ลูกสำคัญแบบนี้ อาจจะขาดหายไป ต่อให้แค่ 1 ลูก แต่มันมีความหมายมากมายเหลือเกิน
- ดาวเตะรุ่นน้อง หมดผู้นำที่ดีไปหนึ่งคน
หากว่ากันตามอายุ วัดความเป็นอาวุโสของเหล่าขุมกำลังหลัก "หงส์แดง" ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง ลัลลาน่า วัย 32 ปี ถือเป็นพี่ใหญ่อันดับ 3 ของทีม รองจาก เจมส์ มิลเนอร์ (34 ปี) และ อาเดรียน (33 ปี) ฉะนั้นคำพูดของ ลัลลาน่า มีอิทธิพลมากเหมือนกันในห้องแต่งตัว ซึ่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เคยกล่าวความสำคัญจุดนี้ของนักเตะ
เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยความเป็นพี่ มีประสบการณ์มากกว่าคนอื่นๆ เขายังคอยช่วยพร่ำสอนบรรดาเด็กดาวรุ่ง คอยรับฟังปัญหา และ บอกการพัฒนากับน้องๆอยู่เสมอ โดย เนโก้ วิลเลี่ยมส์ แบ็กขวาดาวรุ่ง หงส์แดง เคยกล่าวยกย่อง ลัลลาน่า เอาไว้ว่า
"ลัลลาน่า เป็นหนึ่งในคนที่ยืนหยัดเพื่อผม ทุกฤดูกาลเขาจะพยายามช่วยเหลือผม ถามถึงสิ่งต่างๆ และ รับฟังสิ่งที่ผมพูด หากคุณทำไม่ดีเขาจะปรี่มาพูดกับคุณทันที แต่ถ้าคุณทำดีเขาจะชื่นชมเสมอ มันยอดเยี่ยมเหลือเกินที่มีคนแบบนี้อยู่ที่เมลวู้ด เพราะมันช่วยพัฒนาผมได้ในฐานะนักฟุตบอลมากจริงๆ"
เมื่อ ลัลลาน่า เก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ ไปแล้ว ถึงแม้จะมีสถานะเป็นแค่ตัวสำรอง ไม่ได้อยู่ในสายตาแฟนบอลแบบเมื่อแรกเริ่ม แต่ความสำคัญสิ่งเหล่านี้แหละครับที่ ลิเวอร์พูล จะต้องขาดหายไป
ติดตามคอนเทนต์ดีๆจากเพจ ขอบสนาม ได้ที่ไลน์แอด
