logo-heading

หงส์แดง ปีกหักซ้ำซ้อน หลังจากบุกไปพ่ายต่อ อาร์เซน่อล 1-2 หมดสิทธิ์ทำสถิติเก็บแต้มเกิน 100 คะแนน มากสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงเรียบร้อยแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็สะดุดขาตัวเอง ทำได้เพียงเสมอกับ เบิร์นลี่ย์ 1-1 หยุดสถิติชนะรวดในลีก แห่งถิ่นแอนฟิลด์ 

เกิดอะไรขึ้นกับ หงส์แดง ? ทำไมฟอร์มการเล่นถึงเปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังเท้า ตั้งแต่คว้าแชมป์ลีกมาครอง โดยสิ่งที่จะวิเคราะห์ต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ ลิเวอร์พูล ควรต้องปรับ ถ้าอยากจับแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครอง 2 ปีซ้อน

  1. เกมเยือนเจ้าปัญหา
ตั้งแต่ ลิเวอร์พูล รีสตาร์ทกลับมาลงแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เรียกว่าเป็นคนละทีมกับที่ได้เฉิดฉายตั้งแต่ต้นซีซั่น เรื่อยมาก่อนที่จะเลื่อนจากพิษ โควิด-19 โดยเฉพาะผลงานเกมเยือน เหมือนออกไปเล่นแจกแต้มให้กับทีมอื่นอยู่เรื่อยๆ จากที่เคยลุ้นแชมป์ไร้พ่าย ก็ถูกเปิดซิงด้วยการบุกไปถูก วัตฟอร์ด ถลุงยับ 0-3 ตั้งแต่นั้นมีเสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0, แพ้ แมนเชสเตอร์ เละเทะ 0-4 และ ล่าสุดไปเยือน อาร์เซน่อล ก็ปราชัยกลับมา 1-2 เท่ากับว่า 5 เกมเยือนหลังสุด ชนะได้แค่ 1 เกม เหนือ ไบรท์ตัน 3-1 ที่เหลือแบ่งเป็นเสมอ 1 แพ้ถึง 3 นัด ฉะนั้นในเมื่อผลงานที่แอนฟิลด์ ไม่น่าห่วง เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องปรับวิธีและแท็คติคในการไปบุกถิ่นคู่แข่งให้เนี๊ยบกว่านี้ เพราะถ้าเกมเยือนของ ลิเวอร์พูล ยังลำบากลำบนขนาดนี้ หากไม่ดีขึ้น บอกเลยว่าซีซั่นหน้า งานหนักแน่นอนในการป้องกันแชมป์ 
  1. อะไหล่สำรอง
ลิเวอร์พูล แทบไม่ได้ซื้อผู้เล่นตัวหลักเข้ามาเลยในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จะมีพอตื่นเต้นหน่อยก็คงเป็น ทาคุมิ มินามิโนะ แนวรุกทีมชาติญี่ปุ่น ที่ได้ตัวมาเมื่อช่วงเดือนมกราคม แต่ก็ยังไม่ได้สร้างผลกระทบอะไรมากนัก อย่างไรก็ตาม กองหน้ายังไม่น่าห่วงเท่ากับกองหลัง 5 เรื่องที่ ลิเวอร์พูล ควรต้องปรับ ถ้าอยากจับแชมป์ลีก 2 ปีซ้อน แบ็กซ้ายตัวจริงมีแค่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ส่วนสำรองที่เป็นแบ็กซ้ายอาชีพ ใช้กล้องขยายซูม 10 เท่า ก็หาไม่เจอ ต้องแก้ขัดด้วยการใช้ เจมส์ มิลเนอร์ ซึ่งซีซั่นหน้าถ้าไม่ซื้อลำบากแน่ เพราะโปรแกรมจะถี่มากกว่าเดิม เรื่องสภาพความฟิตจะให้เตะ 3 นัด ต่อสัปดาห์ก็คงใช่เรื่อง ยังมีอีกหลายตำแหน่งที่ ลิเวอร์พูล ควรต้องเสริมออปชั่นเข้ามา ถ้าหากซัมเมอร์นี้ต้องเสียทั้ง อดัม ลัลลาน่า หรือ เซอร์ดาน ชากิรี่ จะอยู่เฉยก็คงไม่ได้ เพราะคู่แข่งไม่ได้หยุดอยู่กับที่ แถมยังเสริมความหน้ากลัวให้เห็นตลอด ฉะนั้นพวกอะไหล่สำรองสำคัญเหลือเกิน ที่จะคอยสับเปลี่ยนกับตัวหลัก ในการฟาดแข้งที่ยาวนานตลอดซีซั่น
  1. คู่ขา ฟาน ไดค์
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นตัวหลัก ลิเวอร์พูล ที่ไม่พลาดลงสนามเลยสักวินาทีเดียวในฤดูกาลนี้ ลงครบ 36 นัดเต็ม กินเวลาราวๆ 3,240 นาที ฉะนั้นไม่แปลกหรอกครับที่ "บิ๊กเฟอร์จิล" จะออกอาการล้าชัดเจน เพราะต่อให้มีดีกรีหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลก แต่เขาก็คือมนุษย์ มีความรู้สึก เหมือนผู้คนทั่วๆไป 5 เรื่องที่ ลิเวอร์พูล ควรต้องปรับ ถ้าอยากจับแชมป์ลีก 2 ปีซ้อน ตั้งแต่กลับมา รีสตาร์ท ฟาน ไดค์ ลงเล่น 7 นัด ภายในเวลาแค่ 3 สัปดาห์ คิดดูแล้วว่ากันว่าจะล้าขนาดไหน แต่ครั้นจะให้พักก็ทำไม่ได้ เพราะคู่ขาก็เจ็บยาวๆทั้ง โจเอล มาติป และ เดยัน ลอฟเรน ส่วน โจ โกเมซ ก็โชว์ฟอร์มออกทะเลให้เห็นบ่อยๆ เรียกว่ามีตัวไว้ใจได้คนเดียว เผยจุดอ่อนขนาดนี้ คงต้องซื้อใครเข้ามาเสริม แค่เป็นอะไหล่สำรองคงไม่พอ ต้องทุ่มซื้อตัวหลักให้มันรู้แล้วรู้รอด อย่างน้อยถ้าพัก ฟาน ไดค์ จะได้มีตัวประคอง หากต้องใช้คนอื่นลงมาเล่นแทน คิดไปคิดมาว่าจะเอาใครดี ก็นึกไปถึง คาลิดู คูลิบาลี่ เซ็นเตอร์แบ็ก นาโปลี ที่หลายคนเชียร์ให้มาจับคู่กับ "ฟาน ไดค์" แต่เรื่องค่าตัวอาจจะเป็นปัญหาสำคัญ
  1. ปลุกความกระหายนักเตะ
หลังจากที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 7 นัด อาจส่งผลให้ความหิวกระหายไม่ได้มีเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ประหนึ่งว่าฤดูกาลนี้ได้เสร็จสิ้นภารกิจที่รอคอยมา 30 ปี ส่วนเกมที่เหลือก็ "ช่างหัวมัน" 5 เรื่องที่ ลิเวอร์พูล ควรต้องปรับ ถ้าอยากจับแชมป์ลีก 2 ปีซ้อน หากใครได้เห็นฟอร์มของ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-4 พวกเขาไม่ได้มีความดุดันเหมือนเก่า การเข้าทำดูจะเชื่องช้า ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้ก็ไม่เอา ผิดเพี๊ยนไปจากสมัยเริ่มซีซั่นอย่างเห็นได้ชัด จนแฟนบอลทีมอื่นแซวกันว่าพวกนักเตะ หงส์แดง เมากันหัวราน้ำ กลับมาเล่นบอลเหมือนยังแฮงค์โอเวอร์กันอยู่ตลอด ด้วยความสำเร็จที่เข้ามาหานักเตะ ลิเวอร์พูล ชุดนี้ อย่างรวดเร็ว ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ สโมสรโลก ทำให้ความกระหายมันหมดลงไป ซีซั่่นก่อน 97 แต้ม ไม่ได้แชมป์ เป็นแรงถีบให้ หงส์แดง ทำสำเร็จในซีซั่นนี้ แต่ซีซั่นหน้า เจอร์เก้น คล็อปป์ จะมีจิตวิทยาในการพูดอย่างไร ให้ ลิเวอร์พูล หิวกระหายคว้าแชมป์อีกครั้ง ลบภาพลงเตะไปวันๆหลังจากคว้าแชมป์ แบบทุกวันนี้
  1. รักษาความฟิต
จริงๆเรื่องนี้ คงเป็นสิ่งที่กำหนดกฎเกณฑ์ไม่ได้ เพราะใครจะรู้อนาคตล่ะว่า นักเตะคนไหนจะได้รับบาดเจ็บ แต่กระนั้นมันก็เป็นงานของเหล่าทีมสตาฟฟ์ ที่จะต้องดูและความฟิตและสุขภาพของนักเตะให้ดีที่สุด เพราะฤดูกาล 2020-21 จะได้พักกันแค่ 1 เดือนครึ่ง ก็จะกลับมาฟาดแข้งกันต่อแล้ว 5 เรื่องที่ ลิเวอร์พูล ควรต้องปรับ ถ้าอยากจับแชมป์ลีก 2 ปีซ้อน แน่นอน ฟาน ไดค์ คือคนที่ ลิเวอร์พูล ขาดไม่ได้ และ ปีนี้เขาฟิตพร้อมลงทุกแมตช์ แต่คนอื่นๆที่จะนำพา ลิเวอร์พูล ขับเคลื่อนเพื่อป้องกันแชมป์ พรีเมียร์ลีก จะต้องดูแลประคบประหงมให้ดีๆ โดยเฉพาะ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ลิเวอร์พูล วันไหนที่เขาไม่มีชื่ออยู่ในทีม ผลงานมักจะแพ้ ไม่ก็ลงเอยด้วยเสมอ ยังมี โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ศูนย์หน้าฟอลส์ ไนน์ ที่สำคัญอย่างมากกับแนวรุก ลิเวอร์พูล เป็นเรื่องดีที่ คล็อปป์ ได้พักแข้งเชิงสูงรายนี้ และ ให้โอกาสคนอื่นๆบ้าง อย่างน้อยก็ให้มีความฟิตเต็มสูบพร้อมลงสนาม ถ้าหากตัวหลัก หงส์แดง ไม่บาดเจ็บหนัก บวกกับตัวอื่นๆที่ต้องเสริมเข้ามา จะทำให้พวกเขาลุ้นป้องกันแชมป์ จากเหล่าทีมยักษ์ใหญ่ ที่พร้อมมาโค่นบัลลังค์ลงอยู่แล้ว

- ฮาย ฮาวดี้ -

ติดตามคอนเทนต์ดีๆจากเพจ ขอบสนาม ได้ที่ไลน์แอด

logoline