logo-heading

เรียกได้ว่าเป็นเกมที่มันส์หยดติ๋งสมเป็นคู่ชิงจริงๆ สำหรับนัดชิงศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ระหว่าง อินเตอร์ มิลาน กับ เซบีย่า ซึ่งสุดท้ายก็เป็นเจ้าพ่อบอลถ้วยใบนี้อย่าง เซบีย่า ที่พลิกจากตามหลังก่อนตั้งแต่ต้นเกมกลับมาเอาชนะไปได้ 3-2 ประตู และนี่คือประเด็นเด็ดทั้ง 5 หลังเกมนัดนี้ที่ขอบสนามนำมาฝากกัน 

 

1.การจัดทีม

  ก่อนเกมนี้จะเริ่มต้นขึ้น เซบีย่า ถือว่าได้เปรียบเรื่องสภาพความฟิตของนักเตะอยู่เล็กน้อย เพราะได้พักมากกว่า อินเตอร์ มิลาน 1 วัน แถมไม่มีผู้เล่นในทีมได้รับบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเลยแม้แต่คนเดียว ส่วน อินเตอร์ มิลาน แม้ว่าจะขาด มาติอัส เวชิโน่ ที่ได้รับบาดเจ็บ กับ อเล็กซิส ซานเชซ ที่ไม่ฟิตเต็ม 100 แต่ทั้งคู่ก็ไม่ใช่ตัวจริงที่ถูกส่งลงสนามเป็นประจำอยู่แล้ว นั่นหมายความว่าทั้ง ฆูเลน โลเปเตกี กุนซือ เซบีย่า และ อันโตนิโอ คอนเต้ เฮดโค้ช "งูใหญ่" สามารถจัดหนักจัดเต็มชุดใหญ่ลงเล่นได้ทั้งคู่ ซึ่ง คอนเต้ นั้นตัดสินใจใช้ 11 ผู้เล่นตัวจริงชุดเดิมเป๊ะๆ กับรอบรองชนะเลิศที่ถล่ม ชัคตาร์ โดเน็ตส์ เละเทะ 5-0 ส่วน เซบีย่า นั้นมีการปรับ 1 ตำแหน่งจากเกมแซงชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด โดย ลุค เดอ ยอง ที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับซัดชัยให้ทีมชนะ "ปีศาจแดง" 2-1 ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทน ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบแทนความไว้ใจนี้ด้วยการซัด 2 ประตูซะเลย  

2.เล่นกันมันส์หยดสมเป็นคู่ชิง

  เกมนัดนี้ถือเป็นคู่ชิงที่สนุกสุดมันส์ มีครบรสผลัดกันนำผลัดกันตาม โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่ทั้ง 2 ฝั่งต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับ ดูสนุกเพลินตาดีเหลือเกิน แต่ส่วนนึงก็เป็นเพราะประตูแรกมาเร็วด้วย เกิดขึ้นตั้งแต่นาทีที่ 5 ของเกม จากจังหวะที่ โรเมลู ลูกากู เรียกจุดโทษให้ทีมได้และลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือ แต่แม้จะโดนเร็วทว่าผู้เล่น เซบีย่า สติยังดีฮึดบุกบี้ไล่สู้และก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้ในนาทีที่ 12 จากจังหวะที่ เฆซุส นาบาส เปิดจากด้านขวาเข้าเขตโทษให้ ลุค เดอ ยอง พุ่งเข้ามาโขกตอปิโดบกเข้าประตูไป หลังได้ประตูตีเสมอ เซบีย่า ก็ยิ่งคึก ต่างจากผู้เล่น อินเตอร์ ที่เหมือนจะเสียขวัญไปนิดๆ จนนาทีที่ 33 ก็พลิกแซงขึ้นนำจนได้ จากจังหวะฟรีคิก เอแวร์ บาเนก้า โยนเข้าไปให้ ลุค เดอ ยอง คนเดิมขึ้นเทคตัวโขกเข้าประตูไป ทว่านำได้แค่ 2 นาที อินเตอร์ ก็ถือคติหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ตามตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่คล้ายกันเด๊ะ คือโยนฟรีคิกเข้าไปให้ ดิเอโก้ โกดิน ขึ้นเทคตัวโหม่งเข้าไป จบครึ่งแรกเสมอกันไปแบบสนุกสุดๆ  ครึ่งหลังเกมเอื่อยลงไปหน่อย เพราะนักเตะทั้ง 2 ทีมอาจจะหมดแรง เนื่องจากครึ่งแรกวิ่งไล่บี้กันอย่างกับม้าดีด แต่แม้จะเอื่อยลงแต่ก็ไม่ได้ถึงกับน่าเบื่อ ยังมีจังหวะต่อบอลทำเกมให้ได้ลุ้นให้ได้เสียวกันตลอด แต่โดยรวม เซบีย่า ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย แล้วก็มาได้ประตูชัยจนได้ในนาทีที่ 74 จากลูกจักรยานอากาศของ ดีเอโก้ คาร์ลอส   

3.การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน

  ประเด็นการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ประเด็นนี้มันคงจะไม่ถูกนำมาพูดถึงหาก อินเตอร์ มิลาน เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ เพราะนัดนี้มันมีจังหวะที่ แดนนี่ มัคเคไลน์ เชิ๊ตดำชาวดัตซ์ เป่าไม่เป็นใจให้ "ไอ้งูใหญ่" สักเท่าไหร่ จังหวะนึงที่ชัดเจนเลยคือ ตอนเสมอกัน 1-1 อินเตอร์ ได้ยิงแล้วบอลมันไปโดนแขนของ ดิเอโก้ คาร์ลอส ในกรอบเขตโทษ ผู้เล่นอินเตอร์ พยายามฟ้อง แต่ผู้ตัดสินทำเฉย จากนั้น VAR ก็ทำงาน ซึ่งถ้าดูจากภาพช้าจะเห็นได้ว่าโดนมือเต็มๆ แถมมือก็กางออกไม่ได้แนบลำตัวด้วย ทว่าสุดท้าย มัคเคไลน์ ปล่อยผ่านบอกว่าไม่เป็นจุดโทษ งานนี้เล่นเอา อันโตนิโอ คอนเต้ หัวร้อนสุดๆ โวยแหลกอยู่ข้างสนาม จนผู้ตัดสินต้องมาควักใบเหลืองให้สงบสติอารมณ์ นอกจากนี้หากมองดีๆ มันมีหลายจังหวะที่ผู้ตัดสินยืนอยู่ผิดที่ผิดทางขวางผู้เล่น อินเตอร์ อยู่บ่อยครั้งด้วย   

4.ดีเอโก้ คาร์ลอส จากซีโร่ทูฮีโร่

  งานนี้บอกได้เลยว่าถ้า เซบีย่า ไม่ได้แชมป์ ไม่ต้องไปมองหาแพะที่ไหนไกลเลยเพราะ ดีเอโก้ คาร์ลอส เหมาะจะรับตำแหน่งแพะมากๆ เนื่องจากพี่แกเข้าโฉ่งฉ่างใส่ ลูกากู ตั้งแต่หัววันจนเสียจุดโทษและใบเหลือง จากนั้นก็ปล่อยบอลไปโดนมือในเขตโทษ แต่โชคดีที่รอดตัวมาได้ ไม่โดนเหลืองที่ 2 และเสียจุดโทษลูกที่ 2 ทว่าไม่ใช่แค่นั้นไอลูกที่โดนตีเสมอ 2-2 ก็เป็นพี่แกอีกนั่นแหละที่ไปทำฟาล์ว ลูกากู จนเสียฟรีคิกและเป็นที่มาของการโดน โกดิน โขกเข้าไป แถมการเล่นเกมรับนัดนี้ก็ดูรั่วๆ ยังไงก็ไม่รู้ จนแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่านักเตะคนนี้น่ะหรอที่กำลังมีข่าวว่า ลิเวอร์พูล สนใจ อย่างที่บอกหละครับ ถ้าเซบีย่า ไม่ได้แชมป์ คาร์ลอส คงต้องรับไปเต็มๆ ทว่าจากที่ตัวเองกำลังจะกลายเป็นซีโร่ กำลังจะกลายเป็นแพะ แต่อยู่ๆ ก็ผันตัวเองเป็นฮีโร่ได้ซะงั้น เพราะพี่แกมาแก้ตัวด้วยการกระโดดตีลังกาจักรยานอากาศบอลลอยไปแฉลบ ลูกากู พุ่งเข้าประตูไป ซึ่งแม้ภาพช้าจะเห็นว่าวิถีบอลไม่น่าจะตรงกรอบหากไม่โดน ลูกากู แหย่ขาสกัด แต่ตอนนี้ระหว่างที่ผมเขียนเว็บ ยูฟ่า ยังขึ้นให้ว่าเครดิตประตูนี้เป็นของ ดีเอโก้ คาร์ลอส อยู่นะครับ แต่เอาเหอะไม่ว่าจะเป็นเครดิตของ คาร์ลอส หรือการทำเข้าประตูตัวเองของ ลูกากู สุดท้ายยังไง คาร์ลอส ก็กลายเป็นฮีโร่ของแฟนบอลเซบีย่าไปเรียบร้อยแล้ว    

5.เซบีย่า เจ้าพ่อถ้วย ยูโรปา

  ประเด็นสุดท้ายนี้ต้องขอแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการกับ เซบีย่า ด้วย ดวงทีมนี้สมพงษ์กับถ้วย ยูโรปา จริงๆ เหมือนอะไรๆ ก็เข้าทางพี่แกไปซะตลอด ทีมบ้าอะไรเข้าชิง 6 ครั้ง คว้าแชมป์ได้ทุกครั้ง!! ทำให้ตอนนี้ก็ขึ้นไปนำโด่งเป็นแชมป์ 6 สมัย ส่วน อินเตอร์, ยูเวนตุส, ลิเวอร์พูล และ แอตเลติโก มาดริด ตามมาเป็นอันดับ 2 อยู่ห่างๆ ที่ 3 สมัย นอกจากนี้นี่ยังเป็นแชมป์ระดับสโมสรถ้วยแรกในอาชีพกุนซือของ ฆูเลน โลเปเตกี อีกด้วย เพราะก่อนหน้านี้เคยแค่พา สเปนชุดเล็กคว้าแชมป์ยูโร ซึ่งหลังผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกมเจ้าตัวก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว ปล่อยโฮด้วยความดีใจแบบไม่อายใครเลย  

ชิน ชินพัฒน์ 

logoline