logo-heading

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งเสียทรงมาสดๆ ร้อนๆ กับการโดน เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมาถล่มคาบ้านแบบเละเทะ 5-2 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถูกตั้งคำถามเยอะมากเรื่องศักยภาพเกมรับ

แต่มันก็ประจวบเหมาะพอดีที่ล่าสุด แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กองหลังตัวใหม่มาร่วมทีมนั่นคือ รูเบน ดิอาส จาก เบนฟิก้า ในค่าตัว 65 ล้านปอนด์ คำถามก็คือการมาของปราการหลังตัวใหม่นี้ศักยภาพของเขานั้นสามารถช่วยอะไร เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้บ้าง ? วันนี้ทาง "ขอบสนาม" จะพาไปวิเคราะห์เจาะลึกกัน

อายุการใช้งาน

แน่นอนว่าถ้าคุณยอมลงทุนใช้เงินไปมากกว่า 60 ล้านปอนด์สิ่งที่คาดหวังมันต้องประกอบไปด้วยคุณสมบัติหลายประการซึ่งเรื่องแรกที่เราพอจะจับต้องได้เลยคือ อายุการใช้งาน เพราะปัจจุบัน รูเบน ดิอาส เพิ่งอายุแค่ 23 ปีเท่านั้น ในแง่ของฝีเท้าเขาสามารถพัฒนาและเก่งกว่านี้ได้อีกเยอะ และสามารถค้าแข้งให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อีกยาวๆ แตะหลัก 10 ปี แต่มันก็มีข้อแม้อยู่ตรงที่ รูเบน ดิอาส ต้องเล่นให้ดี รักษามาตรฐานของตัวเองให้ถึงจะยืนระยะได้ยาวๆ ถ้าเกิดย้ายมาและดันทะลึ่งปรับตัวไม่ได้ขึ้นมา เล่นไม่ได้ตามแท็คติกของโค้ช มีหวังได้กลายเป็นส่วนเกินและโดนเฉดหัวทิ้งให้ท้ายที่สุดแน่ เพราะที่ผ่านมามันก็มีตัวอย่างดีๆ ให้เห็นว่านักเตะค่าตัวแพงไม่ได้การันตีว่าต้องเป็นตัวจริง 

เจอนักเตะเร็วๆ

เชื่อว่าทุกคนทราบดีเรื่องปัญหาเกมรับของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่ามีจุดไหนเป็นช่องโหว่บ้าง หลักๆ ที่เห็นชัดๆ เลยก็คือยามเผชิญหน้ากับนักเตะที่มีความไวจี๊ดจ๊าดและมีความคล่องตัวสูง ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเกมล่าสุดที่เจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ความไวดั่งปีศาจของ เจมี่ วาร์ดี้ รวมถึงแนวรุกอีกหลายๆ คนมันเป็นปัญหามากจริงๆ  เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ส่ง เอริค การ์เซีย ยืนเป็นเซ็นเตอร์คู่กับ นาธาน อาเก้ เพราะ จอห์น สโตนส์ ยังเดี้ยงอยู่ ส่วน อายเมอริค ลาปอร์กต์ ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ โดยในเกมดังกล่าวนี้คนที่เจอปัญหามากที่สุดก็คือ เอริค การ์เซีย เพราะไอ้เด็กนี่เป็นกองหลังที่ยังขาดคุณสมบัติในเรื่องความเร็ว และเมื่อต้องรับผิดชอบยืนคุมพื้นที่ในวงกว้างมันจึงเกิดปัญหาได้ง่าย ส่วน นาธาน อาเก้ จริงอยู่ที่พี่แกพอจะมีความคล่องตัวอยู่บ้าง แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่ ขณะที่ รูเบน ดิอาส เขามีคุณสมบัติพอที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพราะพี่แกเป็นเซ็นเตอร์แบ็กที่มีความรวดเร็วและความคล่องตัวที่ดี ด้วยการทักษะการอ่านเกมที่เป็นเลิศมันก็ทำให้เขาเป็นคนที่เข้าถึงบอลไวมาก ดังนั้นเรื่องจังหวะที่ต้องเป็นตัวดักตัวซ้อน หรือวิ่งไปแย่งบอลกับศัตรูในจังหวะเก็บตก แมนฯ ซิตี้ น่าจะพอหวังผมกับความชัวร์และความแน่นอนได้จากไอ้หมอนี่ อย่าลืมนะว่า รูเบน ดิอาส เองก็ผ่านประสบการณ์ค้าแข้งในลีก โปรตุเกส มาก่อนซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมเหล่าบรรดานักเตะที่มีความเร็ว มีความคล่องตัวสูง มีเทคนิคดีและพรสวรรค์มากมาย

ความเป็นผู้นำ

เหล่าสโมสรยักษ์ใหญ่สมัยนี้มักขาดแคลนผู้เล่นที่มีภาวะความเป็นผู้นำ ถ้าจะถามว่ามันสำคัญมากไหม ? มันสำคัญมากนะ การมีใครสักคนที่สามารถชี้นำ ชักจูง คอยกระตุ้น ปลุกใจ และสร้างอิทธิพลและแรงใจให้กับเพื่อนร่วมทีม มันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่มีอยู่ในตัว รูเบน ดิอาส ไม่งั้นพี่แกคงไม่ได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม เบนฟิก้า ตั้งแต่อายุเท่านี้หรอก การย้ายมาของ รูเบน ดิอาส แน่นอนว่าพี่แกยังไม่การันตีว่าได้เป็นกัปตันทีมแน่นอน เพราะตอนนี้คนที่เป็นกัปตันเบอร์ 1 กับ 2 คือ แฟร์นานดินโญ่ และ เควิน เดอ บรอยน์ แต่ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งที่ 2 คนนี้ไม่อยู่ขึ้นมา รูเบน ดิอาส ก็สามารถขึ้นมารับบทบาทแทนได >>> ใครคือ รูเบน ดิอาส ? ว่าที่ปราการหลังตัวใหม่ของ แมนฯ ซิตี้ !

ผลผลิตจาก เบนฟิก้า

ถ้าเกิดคุณเป็นกลุ่มสาวกของ "เดอะ ซิตี้ เซนส์" และรู้สึกกังวลใจในเรื่องศักยภาพฝีเท้าของเจ้า รูเบน ดิอาส ว่าจะไปรอดไหมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ? จริงอยู่ที่เราคงห้ามคุณไม่ได้หรอก แต่อย่างน้อยคุณน่าจะเบาใจได้บ้างถ้าเกิดจะบอกว่าไอ้หมอนี่ถือเป็นอีกหนึ่งผลผลิตที่ดีจาก เบนฟิก้า นะ อย่างที่ทราบกันนั่นแหละว่าตลอดช่วงที่ผ่านมา เบนฟิก้า เป็นสโมสรที่ปั้นนักเตะดีๆ แจ้งเกิดขึ้นมามากมายไม่ว่าเป็น เจา เฟลิกซ์, เอแดร์ซอน โมราเอส, อักเซล วิตเซล, แบร์นาโด้ ซิลวา, ยาน โอบลัค, ราอูล ฆิมิเนซ, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, อังเคล ดิ มาเรีย, เนมานย่า มาติช, ดาวิด ลุยซ์, รามิเรส, อังเดร โกเมส และอีกมากมาย ดังนั้นเมื่อดูจากแววที่ฉายได้ดีตลอดช่วงที่ผ่านมาจนหลายทีมใหญ่ต่างก็ได้อยากได้ตัวไปร่วมทีมเชื่อว่าไอ้หมอนี่มันก็ต้องมีอะไรพิเศษๆ บ้างแหละ

ยืนคู่ใครดี ?

ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีผู้เล่นที่สามารถยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กได้ 5 คนซึ่งประกอบไปด้วย รูเบน ดิอาส, อายเมอริค ลาปอร์กต์, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้ และ เอริค การ์เซีย ถ้าจะเอา รูเบน ดิอาส ยืนพื้น คำถามคือไอ้หมอนี่ควรยืนคู่กับใครดี ? รูเบน ดิอาส เป็นกองหลังที่มีความคล่องตัวสูง และมีทักษะการเล่นเกมรุกที่ดีด้วย จ่ายบอลแม่น ชอบเติมขึ้นสูง ดังนั้นคนที่จะมาเป็นดูโอ้ของก็คงต้องเป็นคนที่มีการตัดสินใจที่แน่วแน่และความชัวร์ยามวิ่งเข้าหาบอล ถ้าเป็น จอห์น สโตนส์ นี่เป็นกองหลังที่มีจุดเด่นที่เรื่องพละกำลังทางด้านสรีระ สูงใหญ่เล่นลูกกลางอากาศได้ดี วางบอลยาวแม่นใช้ได้ แต่ข้อเสียคือเรื่องสปีดความเร็วที่คล้ายๆ กับ เอริค การ์เซีย ถ้าเป็น นาธาน อาเก้ เดิมทีไอ้หมอนี่ไม่ใช่เซ็นเตอร์แบ็กธรรมชาติ แต่สามารถประจำการได้ไม่มีปัญหา มีความเร็วและความนิ่ง เทคนิคดี แต่ข้อเสียคือเรื่องส่วนสูงที่ 180 เซนติเมตร จริงๆ ก็ไม่เตี้ยหรอก แต่ยามต้องดวลกับศัตรูที่มีบอดี้ที่ใหญ่กว่าเกรงว่าอาจจะเป็นปัญหาได้โดยเฉพาะจากลูกตั้งเตะ ยิ่งมาจับคู่กับเจ้า รูเบน ดิอาส น่าจะไม่เวิร์ค เพราะไอ้หมอนี่ก็สูงกว่าหน่อยเดียวเอง ดูแล้วคนที่เหมาะเหม็งที่สุดน่าจะเป็น อายเมอริค ลาปอร์กต์ นี่คือกองหลังที่เป็นมากกว่ากองหลัง เขาเป็นนักเตะที่มีบอดี้หนาและสูงใหญ่ถึง 191 เซนติเมตร เรื่องลูกกลางอากาศนี่หายห่วง แข็งแกร่ง พละกำลังเยอะ มีความสด และในขณะเดียวกันพี่แกก็เป็นนักเตะที่มีสปีดความเร็วที่ดี เคยผ่านประสบการณ์การเจอเกมเร็วๆ มาก่อนสมัยอยู่กับ แอธเลติก บิลเบา ใน ลา ลีกา สเปน นอกจากนี้ อายเมอริค ลาปอร์กต์ ยังมีทักษะที่ดีการเล่นเกมรุกด้วย สามารถเซ็ทเกมได้จากแดนหลังตลอดจนการขึ้นไปลุ้นทำประตู ถ้าเกิดมายืนคู่กับเจ้า รูเบน ดิอาส ก็ดูเคมีเข้ากันอยู่ เพราะต่างฝ่ายต่างมีเซนส์บอลที่ดี น่าจะสลับบทบาทและช่วยแบ่งเบาภาระกันได้ดี 

HaMu Dos Santos

ส่วนหนึ่งของข้อมูล : manchestereveningnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline