logo-heading

ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบมากมายกับทุกๆ ฝ่ายไม่ว่าจะเป็นสโมสร, ตัวนักเตะ หรือแม้กระทั้งแฟนบอลทั้งทางด้านบวกและด้านลบ

วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบทางด้านลบจากตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ปี 2020 มากที่สุด หรือที่เรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่า ผู้แพ้ นั่นและ จะมีใครติดชาร์ตมาบ้างนั้นไปชมกัน

กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน 

Gylfi Sigurdsson - Iceland | Player Profile | Sky Sports Football เดิมที กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน คือจอมทัพเบอร์ 1 คอยเดินเกมและสร้างสรรค์โอกาสของ เอฟเวอร์ตัน ตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่เมื่อการมาของ ฮาเมส โรดริเกซ ซึ่งเป็นลูกรักของ คาร์โล อันเชล็อตติ มันก็เลยทำให้สถานะของ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน กลายเป็นอะไหล่สำรองไปโดยปริยาย ส่วนเรื่องของผลงานมันก็เห็นกันชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แล้ว ฮาเมส โรดริเกซ มีส่วนสำคัญอย่างมากกับเกมรุกของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ช่วยให้ทีมมีมิติที่หลากหลาย และมีความอันตรายที่มากขึ้น พา เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมเดียวที่เก็บ 12 แต้มเต็มจาก 4 นัด ไหนจะมี ความสด เทคนิคและศักยภาพฝีเท้าที่เหนือกว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน จะสู้ ฮาเมส โรดริเกซ ได้เลย เขาได้ลงสนามไป 4 เกมก็จริงใน พรีเมียร์ลีก แต่พอคิดเวลารวมแล้วมันก็แค่ 151 นาทีเท่านั้น

อคาเดมี่ของ เชลซี

Chelsea: Academy players know the club views them as second-class Blues แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้รับคำชมเยอะมากกับการผลักดันดาวรุ่งจากอคาเดมี่ของ เชลซี ขึ้นมามาแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่เมื่อปีก่อนไม่ว่าจะเป็น แทมมี่ อบราฮัม, เมสัน เมาท์, รีช เจมส์ และ ฟิกาโย่ โทโมรี่ เป็นต้น นับเป็นสิ่งที่จุดประกายให้กับเด็กในศูนย์ฝึกเยาวชนทุกคน แต่ทว่าปีนี้ เชลซี กลับเน้นแคมเปญใช้เงินซื้อความสำเร็จ พวกเขาเสริมทัพได้โหดมาก คว้าตัวแข้งดังๆ มาหลายคนไม่ว่าจะเป็น ติโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเย็ค, ไค ฮาแวร์ตซ์, ติอาโก้ ซิลวา และ เบน ชิลเวลล์ เป็นต้น เรียกได้ว่าหวังล่าและท้าทายความสำเร็จแบบเต็มตัวเลยทีเดียวซึ่งจุดๆ นี้มันส่งผลอย่างมากกับโอกาสของลงเล่นของดาวรุ่งเหล่านี้ ตลอดจนเด็กที่กำลังจะได้ก้าวขึ้นมาจากทีมชุดสำรอง และแน่นอนสิ่งที่ส่งผลมากที่สุดคือการพัฒนาในเรื่องของศักยภาพฝีเท้าและประสบการณ์

นิโกลัส ตายาฟิโก้

5 possible clubs who could sign Nicolas Tagliafico this summer นิโกลัส ตายาฟิโก้ โชว์ฟอร์มได้ดีกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และก็เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่พาทีมไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2019 แต่ปัจจุบันพวกกำลังหลักของทีมชุดนั้นได้ย้ายออกไปแล้วหลายคนซึ่งตัวของ ตายาฟิโก้ เองก็ตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องได้ย้ายไปทีมที่ใหญ่กว่านี้เหมือนกันเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ โดยพี่แกเคยพูดเอาไว้ว่า "ผมมีความสุขดีกับที่นี่ แต่ที่ เอเรดิวิซี่ ยังดูไม่ท้าทายเท่าไหร่ และเดือนสิงหาคมนี้ผมจะอายุ 28 ปีแล้ว มันเป็นเวลาอันดีสำหรับความก้าวหน้าในอาชีพ" แต่สุดท้ายการย้ายทีมของ นิโกลัส ตายาฟิโก้ ก็ไม่เกิดขึ้นทั้งที่ก่อนหน้านี้พี่แกนั้นมีข่าวพัวพันกับหลายทีมดังไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เลสเตอร์ ซิตี้

มาเร็ค โรดัค

Fulham goalkeeper Marek Rodak on promotion push, tough loan spells and  idolising Petr Cech | London Evening Standard หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อ มาเร็ค โรดัค เท่าไหร่นัก แต่ขอบอกเลยว่าชีวิตของไอ้หมอนี่น่าสงสารสุดๆ เขาเป็นเด็กปั้นที่โตมาจากอคาเดมี่ของ ฟูแล่ม โดยตรงและได้ขึ้นมาเป็นหนึ่งในขุนพลของทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2013 แต่พี่แกก็แทบไม่ได้โอกาสลงเล่นเลย เหมือนกับเป็นคนไม่มีตัวตนอะไรประมาณนั้นซึ่งแต่ละปี มาเร็ค โรดัค ก็จะถูกปล่อยตัวไปทีมโน้นทีมนี้เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จะมีปีที่แล้วนี่แหละที่เจ้าตัวได้ก้าวขึ้นเป็นโกล์เบอร์ 1 ของทีมเป็นครั้งแรก และก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการพา ฟูแล่ม ตีตั๋วเลื่อนชั้นกลับสู่สังเวียน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง ลงเฝ้าเสาไป 36 เกม เก็บได้ 15 คลีนชีท นับเป็นสถิติที่ดีเลยจริงๆ แต่ไปๆ มาๆ สุดท้ายปีนี้ มาเร็ค โรดัค ต้องกลับไปเป็นตัวอะไหล่อีกแล้วหลังจาก ฟูแล่ม คว้าตัว อัลฟงเซ่ อเรโอล่า มาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

จอห์น สโตนส์

Why has John Stones Failed to Step up for Manchester City? - Bitter and Blue จอห์น สโตนส์ กองหลังค่าตัวแพงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผ่านมาชีวิตจัดว่าขากำลังลงสุดๆ เพราะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้าเป็นวิญญาณตามติด อย่างปีก่อนแทบไม่ได้ลงสนามเกือบทั้งซีั่นแหนะ และพอตัดภาพกลับมาตอนนี้สถานการณ์การกู้หน้าเพื่อกลับมาเป็นตัวจริงให้ "เรือใบสีฟ้า" มันก็ดูยากขึ้นไปอีก เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้เซ็นกองหลังโปรไฟล์ดีๆ เพิ่มมาอีก 2 คนนั่นคือ นาธาน อาเก้ กับ รูเบน ดิอาส ไหนจะมี อายเมอริค ลาปอร์กต์ กับ เอริค การ์เซีย อีก เท่ากับว่าตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีผู้เล่นเซ็นเตอร์แบ็กถึง 5 คนซึ่งหมายความว่าการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งมันจะสูงขึ้นมากๆ และถ้าดูจากภาษีตอนนี้ จอห์น สโตนส์ เป็นรองกว่าทุกคน เพราะสภาพร่างกายยังไม่ปกติ ดูแล้วยังไง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็คงคิดใช้งานคนอื่นๆ ก่อนไอ้หมอนี่ ณ ตอนนี้ >>> ตัดเกรดตลาดนักเตะ แมนยูฯ  แข้งใหม่ตอบโจทย์ไหม และสิ่งไหนที่ยังเป็นจุดบอด

วิลฟรีด ซาฮา

Players to star in 2019/20: Wilfried Zaha การได้ค้าแข้งกับสโมสรยักษ์ใหญ่และได้สัมผัสกับประสบการณ์ในเวทีที่ยิ่งใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นับเป็นความฝันของนักฟุตบอลทุกคน เช่นเดียวกับตัวของ วิลฟรีด ซาฮา เขาโชว์ฟอร์มได้ดีมากๆ กับ คริสตัล พาเลซ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เล่นดีมากๆ จนทุกคนเชียร์ว่าควรย้ายไปทีมใหญ่ได้แล้ว จนถึงตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่มันอิ่มตัวแล้วสำหรับเขา วิลฟรีด ซาฮา เคยออกมาพูดและแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า "ผมต้องการย้ายออกจาก คริสตัล พาเลซ เพื่อความท้าทายครั้งใหม่ในอาชีพ" ที่ผ่านมาพี่แกมีข่าวเชื่อมโยงกับสโมสรชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็น อาร์เซน่อล, เอฟเวอร์ตัน, โมนาโก, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ โบรุสเซีย ดอร์ทุมนด์ และตลาดซื้อขายซัมเมอร์ 2020 ที่ผ่านมาก็เป็นอีกหนึ่งช่วงที่ดีลการย้ายทีมของ วิลฟรีด ซาฮา ไม่เกิดขึ้น ส่วนเหตุผลหลักๆ นั่นก็คงเป็นเพราะ คริสตัล พาเลซ ตั้งค่าตัวไว้สูงเกินไปที่ราวๆ 80 ล้านปอนด์ 

เดวิด ว้ากเนอร์

David Wagner: Former Huddersfield boss เดวิด ว้ากเนอร์ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชีวิตตกระกำลำบากสุดๆ เขาย้ายมารับงานกุนซือคุมทีม ชาลเก้ 04 เมื่อฤดูกาล 2019-20 แต่ก็ทำผลงานไม่ได้ดีอะไรนักหรอก แกโดนวิจารณ์หนักมากเพราะไม่สามารถพาทีมเก็บชัยชนะได้เลยตลอด 16 เกมสุดท้ายของฤดูกาล ก่อนที่ฟางเส้นสุดท้ายจะมาโดนตัดขาดจากเกมที่โดน บาเยิร์น มิวนิค ถลุงยับ 8-0 นั่นทำให้ เดวิด ว้ากเนอร์ ตกงานทันที จริงๆ ก็น่าเห็นใจนะ เพราะอย่างปีก่อน ชาลเก้ ต้องเสียตัวหลักๆ อย่าง บรีล เอ็มโบโล่ และ เยฟเฮน โคโนปลีอันก้า ให้กับทีมอื่น แต่ก็ยังดีเสริมทัพตัวทดแทนมาบ้าง แต่ในตลาดซื้อขายปี 2020 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ชาลเก้ ต้องเสียตัวหลักๆ อย่าง ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, อเล็กซานเดอร์ นูเบล, เวสตัน แม็คเคนนี่ และ มาร์คัส ชูแบร์ต  โดยที่เสริมมาได้ไม่กี่คน อย่าง เวดัด อิบิซิวิช แก่แล้วอายุ 36 ได้มาฟรี ส่วน คิเลียน ลุดวิก และ เฟรเดริค รอนโนว์ ก็เป็นของเหลือจากทีมอื่น นอกจากนั้นก็เป็นพวกหมดสัญญายืมตัวกลับมาจากทีมอื่น ดูแล้วไม่มีใครสามรารถทดแทนตัวที่เสียๆ ไปได้เลย จะมี กอนซาโล่ ปาซิเอนเซีย จาก ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ที่โปรไฟล์ดีสุด ยิงไป 10 ประตูเมื่อปีก่อน

แม็กซ์ อารอนส์

Max Aarons: In Focus - News - Norwich City ถ้าคุณเป็นผู้เล่นในลีก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ และมีข่าวว่าโคตรทีมอย่าง บาร์เซโลน่า อยากได้ คุณจะรู้สึกดีใจขนาดไหนกันล่ะ ? ช่วงที่ บาร์เซโลน่า กำลังจะขาย เนลสัน เซเมโด้ มันมีชื่อแบ็กขวาตัวแทนหลายคนปรากฏตัวขึ้นมาซึ่งหนึ่งในนั้นคือ แม็กซ์ อารอนส์ ของ นอริช ซิตี้ ถึงแม้จะอยู่กับทีมที่ตกต้องชั้น แต่ผลงานส่วนตัวถือว่าดีใช้ได้เลย โดยซีซั่นก่อนพี่แกลงเล่น 36 เกมในวัยแค่ 20 ปี มีค่าเฉลี่ยการเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ 1.3 ต่อเกม และเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุดในพื้นที่อันตรายของคู่แข่ง อย่างไรก็ตามมันมีช่วงที่ นอริช และ บาร์เซโลน่า ถกเถียงกันเรื่องเงื่อนไขการย้ายทีม หลังจากตกลงสัญญาส่วนตัวนักเตะได้แล้ว โดยทาง นอริช ก็อยากจะขายขาดให้เลย ส่วนทาง บาร์เซโลน่า เหมือนจะอยากยืมมาใช้งานก่อนมากกว่า ไปๆ มาๆ สุดท้ายดีลดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น เพราะ บาร์เซโลน่า เลือกปิดดีลสอย แซร์จินโญ่ เดสต์ มาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่โปรไฟล์ดูดีกว่าไปร่วมทีมแทน เล่นทำเอาฝันของ แม็กซ์ อารอนส์ สลายลงไปในพริบตา

ตัวสำรองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

Solskjaer tries ในขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนวิจารณ์หนักใช้ได้เรื่องการทำงานในตลาดซื้อขายรอบที่ผ่านมาเพราะมีข่าวกับตัวดังๆ หลายคนไม่ว่าจะเป็น จาดอน ซานโช่, แกเร็ธ เบล หรือ คาลิดู คูลิบาลี่ แต่ก็กระชากใครมาไม่ได้เลย แต่ยังดีหน่อยตรงที่ยังได้ตัวชื่อชั้นดีๆ อย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค, อเล็กซ์ เตลลิส และ เอดินสัน คาวานี่ มาปลอบใจแฟนๆ ถ้าจะถามถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากตลาดนักเตะรอบที่ผ่านมาก็คงเป็นเหล่าบรรดาผู้เล่นตัวสำรองของทีมนี่แหละ เพราะในเมื่อทีมมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น แต่ขายใครออกไปไม่ได้ เท่ากับว่าโอกาสการลงสนามสำหรับพวกส่วนเกินก็จะยากขึ้นไปอีก พวก ฟิล โจนส์, ฆวน มาต้า, เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์กอส โรโฮ และอีกหลายๆ คน มันช่างน่าเห็นใจยิ่งนักเพราะพวกเขาเหล่านี้จะต้องทนนั่งดูเพื่อนๆ เตะฟุตบอลจนก้นด้านกันต่อไป

โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว

Open letter from Josep Maria Bartomeu: หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วเรื่องสภาพและแนวทางการบริหารงานของบอร์ด บาร์เซโลน่า ในยุคของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ว่ามันเป็นยังไง ? จริงอยู่ที่ปีนี้คือวาระสุดท้ายของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ในฐานะประธานสโมสร บาร์เซโลน่า จริงๆ ชีวิตแกคงจะดีกว่านี้ถ้าก้าวลงจากตำแหน่งไปตามธรรมเนียมโดยไม่ได้ยินเสียงโห่มากนัก แต่นี่เจ้าตัวและคณะบอร์ดบริหารเล่นไปมีปัญหากับขาใหญ่อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ จนออกมาขึ้นบัญชีขอย้ายทีมจนเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก ตลอดจนการโพสต์แฉและแซะการทำงานของบอร์ดบริหาร บาร์ซ่า จากเคสการปฏิบัติแบบไม่เป็นธรรมในการเฉดหัว หลุยส์ ซัวเรซ ที่เป็นเพื่อนรักออกจากทีม ก่อนที่ตอนนี้จะย้ายไปอยู่กับคู่แข่งแย่งแชมป์อย่าง บาร์เซโลน่า ตอนนี้มันลามไปถึงการล่าเสียงโหวตไม่ไว้วางใจ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว จากสมาชิก บาร์เซโลน่า แล้ว ล่าสุดเสียงโหวตจากสมา่ชิก บาร์ซ่า ตอนนี้ตัวเลขอยู่ที่ 20,687 คะแนน โดยตามกฏที่ตั้งไว้นั้นถ้าหากเสียงโหวตไม่ไว้วางใจในตัว โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว มากเป็น 2 ใน 3 หรือ 66 เปอร์เซนต์จากจำนวนสมาชิกทั้งหมดเจ้าตัวจะถูกสั่งปลดออกจากตำแหน่งทันที และตอนนี้คะแนนทุกเสียงกำลังถูกตรวจสอบอยู่ และคาดว่าน่าจะเสร็จภายในวันเสาร์นี้ (10 ตุลาคม) จากนั้นทาง บาร์เซโลน่า จะต้องจัดการลงประชามติภายใน 10-20 วัน

HaMu Dos Santos

ส่วนหนึ่งของข้อมูล : youtube ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline