logo-heading

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ชั่วโมงนี้คือทีมฟอร์มฮอตที่สุดในศึกไทยลีก และเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ ยิ่งมีข่าวว่าจะได้สองกองหน้าระดับพระกาฬเข้ามาเสริมทัพในเลกสอง บอกเลยว่าความโหดจะเพิ่มทวีคูณ อย่างกับว่าปีนี้ข้าต้องเอาแชมป์ให้ได้

ฟุตบอลไทยลีก 2020 ผ่านพ้นไปแล้ว 8 นัดด้วยกัน แต่ดูเหมือนว่าเราจะเริ่มมองเห็นเค้าลางของทีมที่จะเป็นแชมป์กันแล้ว ยิ่งข่าวเรื่องการเสริมทัพในเลกสองชั่วโมงนี้แล้วด้วย ต่างคนต่างบอกว่า แชมป์ไทยลีกฤดูกาลนี้ คงหนีไม่พ้น "บีจี ปทุม ยูไนเต็ด" บีจี ปทุม หรือชื่อเก่าคือ บางกอกกล๊าส เอฟซี คือหนึ่งในสโมสรบิ๊กเนมของเมืองไทย แต่กลับไม่เคยคว้าแชมป์ไทยลีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งสุดท้ายที่เป็นแชมป์ไทยลีก ต้องย้อนกลับไปสมัยเป็นสโมสรธนาคารกรุงไทยนู้น และในทุกๆ ฤดูกาล ทีมบีจี ก็มักจะออกสตาร์ทได้ร้อนแรงแบบนี้ และก็มักจจะจบด้วยการเป็นจ่าฝูงในเลกแรกได้หลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็มักจะไปตกม้าตาย หรือฟอร์มหลุดในเลกสอง และหลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ตลอด แชมป์เมเจอร์รายการสุดท้ายของทีมบีจี หรือ บางกอกกล๊าส ก็คือ แชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาล 2014 ไม่นับการคว้าแชมป์ไทยลีก 2 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว มาถึงฤดูกาล 2020 นี้ ช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ผมเองก็ยังไม่เชื่อว่าบีจี จะเป็นแชมป์ไทยลีก จนกระทั่งมาเกิดโควิด และทำให้ไทยลีกมีการเปิดตลาดรอบพิเศษ และบีจี คือทีมที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า "กูจะเอาแชมป์ปีนี้ให้ได้" ด้วยการคว้าตัว สารัช อยู่เย็น และ อันเดรส ตูเนซ เข้ามาเสริมทัพ เมื่อได้นักเตะระดับพรีเมี่ยมของลีกเข้ามาเสริมในเกมรับ และแดนกลางก็ทำให้บีจี ปึ๊กขึ้นไปอีก ซึ่ง ณ เวลานั้น ก็มี การท่าเรือ เอฟซี อีกทีมที่ก็เสริมแบบบ้าคลั่งเหมือนกันในตลาดช่วงโควิด สองทีมนี้จึงกลายเป็นเต็ง 1-2 กับการไล่ล่าแชมป์ในซีซั่นนี้ แต่พอฟุตบอลไทยลีก กลับมารีสตาร์ท จากที่มีอยู่ 3-4 ทีม บวก ทรู แบงค็อก ช่วงนั้นที่ฟอร์มกำลังแรง รวมทั้งราชบุรีฯ และอาจจะติ่งบุรีรัมย์ ไว้ด้วยอีกทีม แต่ไปๆ มาๆ ตอนนี้ผมคิดว่ามันเหลือแค่ทีมเดียวแล้ว นั่นก็คือ บีจี ปทุม นี่แหละ ถ้าดูที่ขุมกำลัง ตอนนี้ทีมบีจี ปทุม ถือว่ามีขุมกำลังที่พร้อมที่สุด ทุกตำแหน่ง ตั้งแต่หลังถึงหน้า แต่ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวว่า จุดอ่อนเดียวของเดอะแรบบิท ก็คือกองหน้าตัวจบสกอร์นี่แหละ ที่ยังไม่มีกองหน้าที่ไว้ใจได้ ทั้งๆ ที่เวลานี้ในทีมีกองหน้าเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สุรชาติ สารีพิมพ์, เจนรบ สำเภาดี, นอร์ชาห์รุล อิดลาน, สิโรจน์ ฉัตรทอง และ มิตซึรุ มารุโอกะ แต่ละคนถือว่ามีชื่อ แต่ยังไม่ใช่ตัวที่จะฝากผีฝากไข้ได้ ทำให้ตอนนี้ทีมบริหารของบีจี จึงพยายามที่จะไล่ล่ากองหน้าระดับท็อปเข้ามาสู่ทีมเพื่อให้ขุมกำลังมันเพอร์เฟ็กต์ และตอนนี้ทุกอย่างมันก็เริ่มจะชัดเจนมากขึ้น จากที่เหมือนความฝันมันกำลังจะเกิดขึ้นจริง นั่นคือการดึงตัว ดิโอโก้ หลุย ซานโต นักเตะที่เก่งที่สุดที่ไทยลีกเคยมีมา กลับมาค้าแข้งในเมืองไทย ตอนแรกก็แค่ลือ แต่ตอนนี้มันกำลังจะเป็นจริง เช่นเดียวกับในรายของ "ธีรศิลป์ แดงดา" ที่มีข่าวลือตอนแรก ก็ไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นจริงไปได้ ว่ามุ้ยจะกลับมาเมืองไทย ที่ไม่ใช่เอสซีจี เมืองทองฯ ทั้งสองดีลที่บอกไป มันไกลความเป็นจริงมากที่จะเกิดขึ้นได้ และถ้ามันไม่เกิดโควิดขึ้นมา บอกเลยว่ายากมากที่มันจะเป็นจริง ตั้งแต่การได้ทั้ง สารัช และ ตูเนซ มาแล้ว มันก็คงไม่เกิดขึ้น สำหรับดรลของ ดิโอโก้ และ ธีรศิลป์ ใครที่ตามข่าวอย่างใกล้ชิดก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าทุกอย่างเรียบร้อย รอแค่เวลาเท่านั้น ที่ทั้งสองคนจะเสร็จสิ้นภารกิจกับสโมสรเก่า ดิโอโก้ ก็ยังมีโปรแกรมลงเตะเอเอฟซี ชปล. นัดตกค้างกับยะโฮร์ฯ มุ้ย เอง ก็ยังมีโปรแกรมที่ต้องลงเล่นเจลีกจนจบฤดูกาลในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งสองคนจะย้ายมาสวมเครื่องแบบบีจี ปทุม น่าจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้ามันไม่เกิดฟ้าถล่ม แผ่นดินทลายลงไปเสียก่อน ถามว่าทำไมบีจี ถึงต้องทุ่มขนาดนั้น ทั้งเรื่องค่าตัว และค่าจ้างมหาศาลของสองตัวนี้ นั่นก็เพราะคำว่าแชมป์ไทยลีกนั่นเอง คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี เทคโอเวอร์สโมสรกรุงไทยมาเป็นบีจี ก็สิบกว่าปีแล้ว เป้าหมายสูงสุดก็คือแชมป์ไทยลีกที่ยังไม่เคยได้นี่แหละ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสที่มันจะไปถึงจุดนั้นได้ ทำไมจะไม่ทำละ นี่จึงกลายเป็นอภิมหาโปรเจกต์ของทีมบีจี ที่ทุ่มสุดตัวแบบเอาตาย เพื่อทำให้บีจี ปทุม เป็นแชมป์ไทยลีก ฤดูกาลนี้ให้ได้ และบอกเลยว่าไม่ต้องห่วงเรื่องการปรับตัว หรือการเล่นให้เข้าระบบ ทั้ง ดิโอโก้ และ มุ้ย เข้ามา ก็ลงเล่นได้เลย นักเตะระดับนี้ และบีจีก้จะกลายเป็นกระต่ายติดปีก ที่ทีมไหนก็หยุดไม่อยู่ และผมก็มั่นใจว่าปีนี้พวกเขาจะเป็นอชมป์ไทยลีกแน่อน 
logoline