logo-heading

บาร์เซโลน่า สามารถกู้หน้าจากการพ่ายแพ้ เคตาเฟ่ 1-0 ในศึก ลา ลีกา สเปน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อย่างแจ่มแจ๋ว หลังจากเปิดบ้านไลุ่ถล่ม เฟเรนซ์วารอส ทีมแชมป์ลีกจากฮังการี ไปได้ 5-1 ประตู ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม แต่สิ่งนึงที่ถูกพูดถึงมากกว่า 3 แต้มในเกมนี้ ก็คือฟอร์มการเล่นของบรรดาเหล่าดาวรุ่งของทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" นั่นเอง

โรนัลด์ คูมัน ถือเป็นหนึ่งในกุนซือที่ขึ้นชื่อเรื่องการปั้นและให้โอกาสเด็ก และแน่นอนการที่เขาได้เข้ามาคุม บาร์ซ่า ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้งานบรรดาเหล่าดาวรุ่ง เพราะ บาร์เซโลน่า ก็ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการผลิตดาวรุ่งมาประดับวงการลูกหนังอยู่แล้ว และมีศูนย์ฝึกเยาวชนที่โด่งดังอย่าง "ลา มาเซีย" "มันเป็นไปได้ที่ผมจะส่งเด็กดาวรุ่งลงสนามพร้อมกันหลายๆ คน เพราะผมเลือกนักเตะลงเล่นจากฟอร์มการเล่น ไม่ใช่อายุ แต่ภายในทีมเราก็มีการแข่งขันสูง ซึ่งผมแฮปปี้นะที่นักเตะจะสู้กันเพื่อแย่งตำแหน่ง บรรดาเหล่าเด็กดาวรุ่ง มักจะมีช่วงเวลาที่ฟอร์มขึ้นและลง เรามีหน้าที่ที่จะต้องช่วยพวกเขาพัฒนาฟอร์มการเล่น ให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ" นี่คือบทสัมภาษณ์ที่ กุนซือชาวดัตซ์ของ บาร์เซโลน่า เคยลั่นวาจาเอาไว้ ฉะนั้นจะเห็นได้ชัดว่า คูมัน พร้อมให้โอกาสดาวรุ่งได้ฉายแสง และมันก็เหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ในเกมที่ถล่ม เฟเร้นซ์วารอส แข้งอายุน้อยอย่าง อันซู ฟาติ, ตรินเกา, เปดรี้ และ อุสมาน เดมเบเล่ ต่างได้รับโอกาสลงสนาม และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับคำชมมากมาย ฟาติ แนวรุกทีมชาติสเปน วัย 17 ปี ยิง 1 จ่าย 1 และกลายเป็นนักเตะที่ทำได้ 2 ประตูในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย หลังจากซีซั่นก่อนยิงในถ้วยนี้ไปได้ 1 ลูก นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็น "แมน ออฟ เดอะ แมตซ์" ประจำเกมนี้ด้วย ซึ่งหลังจบเกมเจ้าตัวก็ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า "โค้ชเป็นคนตัดสินใจว่าจะให้ใครลงเล่น ผมมีหน้าที่แค่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างหนัก มันเป็นชัยชนะที่ยอดเยี่ยม และเป็นการเริ่มต้นที่ดี" ขณะที่ เปดรี้ ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมนี้แทนที่ของ ฟาติ ในนาทีที่ 62 และถือเป็นการเปิดซิงลงเล่นในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของเจ้าตัวด้วย ซึ่งแข้งวัย 17 ปี ก็ตอบแทนความไว้ใจของ คูมัน ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการยิงไป 1 ประตู ในนาทีที่ 82 ช่วยให้ทีมทิ้งห่างเป็น 4-1 "มันเหมือนฝันที่เป็นจริง เราต้องพยายามทำให้โค้ชตัดสินใจอยากว่าจะส่งใครลงเล่นเป็นตัวจริง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลน่า แต่เมื่อผมถูกส่งลงสนาม ผมก็เต็มที่ตลอด และพยายามจินตนาการว่าผมกำลังเตะบอลเล่นแถวบ้านอยู่กับพี่ชาย เพื่อคลายความกดดัน" ส่วน อุสมาน เดมเบเล่ ชื่อนี้เราได้ยินกันมานานแล้ว ดังมานานแล้ว แต่พี่แกก็เพิ่งจะ 23 ขวบเองนะ เพิ่งจะหายจากการเจ็บหนักมาหมาดๆ และเกมนี้ก็ถูกส่งลงสนามมาในนาทีที่ 63 แล้วก็ยิงประตูฝัง 5-1 ได้ในนาทีสุดท้ายของเกม เรื่องความเก่งกาจไม่ต้องสาธยายเยอะ ถ้าไม่เจ็บบ่อย ป่านนี้อาจจะขึ้นแท่นระดับโลกไปแล้วก็เป็นได้ ด้าน ไอ้หนูตรินเกา ตัวรุกชาวโปรตุกีส นี่ก็ได้รับฉายาว่าเป็น "นิว คริสเตียโน่ โรนัลโด้" และเกมนี้ก็ได้รับความไว้ใจให้ลงเล่นเป็นตัวจริง แทนที่ของ อ็องตวน กรีซมันน์ แล้วก็ทำผลงานได้ดี แม้จะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูก็ตามที เชื่อเถอะว่า กรีซมันน์ เห็นฟอร์มไอหนูนี่แล้วต้องมีหนาวๆ ร้อนๆ บ้างแหละ นอกจาก 4 คนนี้ก็ยังมี เฟรงกี้ เดอ ยอง ในตำแหน่งกองกลางที่อายุก็เพิ่งจะ 23 ปี ที่เกมนี้ก็กลับมาคืนฟอร์มเก่ง บัญชาเกมแดนกลางได้ดี โรนัลด์ อเราโจ้ แนวรับชาวอุรุกวัย วัย 21 ปี ก็ได้โอกาสประเดิมสนามในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วหลังลงมาแทน ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ในช่วงครึ่งหลังของเกม ไม่ใช่แค่นี้เพราะอย่างที่บอก บาร์ซ่า มีแหล่งผลิตดาวรุ่งชั้นยอดอย่าง "ลา มาเซีย" แล้วก็มีกุนซือที่พร้อมให้โอกาสดาวรุ่งอย่าง โรนัลด์ คูมัน ฉะนั้นอนาคตของ บาร์เซโลน่า ชุดถ่ายเลือดใหม่น่าติดตามดูชมซะจริงๆ เพราะมีบรรดาแข้งอาบุน้อยที่รอวันเจิดจรัสอยู่เยอะมากๆ หากไม่เสียคน ติดยา ติดหญิง ไร้วินัยกันไปซะก่อน เชื่อเลยว่า บาร์ซ่า จะมีสิทธิ์กลับมาเป็นจ้าวยุโรปอีกครั้ง  

ชิน ชินพัฒน์

logoline