ถือว่าเป็นยุคที่แข้งลูกหนังชาวเอเชียได้รับโอกาสในลีกใหญ่ของยุโรปมากเลยทีเดียว เพราะนอกจากลีกเยอรมันที่ใช้บริการนักเตะจากภูมิถาคนี้เยอะแล้ว ตอนนี้ได้กระจายไปทั่วไม่ว่าจะเป็น ลาลีกา สเปน, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือ กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี
ว่าแล้วเราลองมาดูกันว่า 10 แข้งชาวเอเชียฝีเท้าเยี่ยม ราศีจับมากที่สุดในตอนนี้จะมีใครบ้าง และสังกัดสโมสรไหนอยู่ ไปติดตามกันได้เลย10.) โชยะ นากาจิมะ (ปอร์โต้)
ปีกซ้ายวัย 26 ปี จากประเทศญี่ปุ่น ที่โยกย้ายไปค้าประสบการณ์กับ เอฟซี ปอร์โต้ ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ 2019 โดยค่าตัวเขาเมื่อครั้งย้ายมาที่นี่มีมูลค่ามากถึง 12 ล้านยูโร โดยครั้งหนึ่งเจ้าตัวเคยย้ายมาค้าแข้งในประเทศโปรตุเกสแล้วกับสโมสร ปอร์ติโมเนนเซ่ ช่วงฤดูกาล 2017-18 ซึ่งเพียงปีแรกกับ ปอร์โต้ เจ้าตัวก็สามารถเข้ามายึดเป็นตัวหลักของทีมได้ในทันที ตำแหน่งถนัดของเขานอกจากจะเล่นตัวริมเส้นทางฝั่งซ้ายได้แล้ว ยังสามารถหุบเข้าไปเล่นในบทบาทเพลย์เมคเกอร์ได้อีกด้วย จุดเด่นของเขาอยู่กับการกระชากลากเลื้อย และลูกยิงไกลที่ค่อนข้างหวังผลได้มากเลยทีเดียว9.) เมห์ดี้ ทาเรมี่ (ปอร์โต้)
อีกหนึ่งแข้งเอเชียที่ค้าแข้งอยู่กับ ปอร์โต้ โดย ทาเรมี่ ในวัย 28 ปี เพิ่งย้ายมาสบทบเมื่อช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้เอง ส่วนตำแหน่งถนัดของเจ้าตัวคือการยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนสถิติส่วนตัวของเขาในฤดูกาลนี้ยังไม่ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงเลยสักนัดเดียว ตลอด 8 นัดที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังไม่อาจประเดิมตุงแรกกับทีมได้เลย แต่อย่างไรก็ตามสถิติกับทีมชาติอิหร่านเขายังคงทำได้อย่างยอดเยี่ยมลงสนามไป 38 นัด ซัดไป 15 ประตู และยังคงเป็นแข้งตัวหลักของทีมจวบจนวันนี้
8.) ไดจิ คามาดะ (แฟร้งค์เฟิร์ต)
ดาวรุ่งจากประเทศญี่ปุ่นวัย 24 ปี กำลังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ แฟร้งค์เฟิร์ต โดยในซีซั่นนี้กับบทบาทเพลย์เมคเกอร์นั้นเจ้าตัวได้โอกาสออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงในศึกบุนเดสลีกาทุกนัด โดยทำไปแล้ว 1 ประตู พ่วงด้วยแอสซิสต์อีก 4 ครั้ง โดยชีวิตของ คามาดะ เติบโตมาจากฟุตบอลญี่ปุ่นอย่างแท้จริงกับสโมสร ซากัน โทสุ ก่อนที่จะได้รับโอกาสสำคัญในการถูก แฟร้งค์เฟิร์ต ดึงตัวมาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยค่าตัว 1.6 ล้านยุโร ก่อนปล่อยไปให้ แซงต์-ทรุยด็อง ยืมตัวซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมลงสนามไป 36 นัด ยิง 16 และแอสซิสต์ 9 ครั้ง และด้วยผลงานกับสโมสรในตอนนี้มันน่าสนใจว่าอนาคตของเขาจะสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้มากสักเท่าไหร่7.) ฮวาง ฮี-ชาน (แอลเบ ไลป์ซิก)
แข้งหน้าใหม่ป้ายแดงของ แอลเบ ไลป์ซิก ในฤดูกาลนี้ ภายหลังเจ้าตัวแจ้งเกิดกับฟุตบอลยุโรปอย่างเต็มตัวเมื่อช่วงฤดูกาลที่ผ่านมากับ เร้ดบูลส์ ซัลบวร์ก โดยก่อนหน้านี้เขาเคยแวะเวียนมาค้าแข้งในลีกบุนเดสลีกาแล้วกับ ฮัมบูรก์ แต่ทว่าไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ควร ก่อนที่จะย้ายไปหาความมั่นใจกับลีกออสเตรีย ซึ่งปัจจุบันการย้ายมายัง ไลป์ซิก นั้นมีค่าตัวมากถึง 9 ล้านยูโร พร้อมกับความคาดหวังในการเป็นตัวแทนของ ติโม แวร์เนอร์ แต่ทว่าถึงตอนนี้ผ่านมาแล้ว 6 นัดทุกรายการ เจ้าตัวเพิ่งซัดไปเพียงประตูเดียวเท่านั้น แต่เวลาสำหรับเขานั้นมียังเวลาให้ปรับตัวอีกมากมาย6.) ทาเกฮิโระ โทมิยาซุ (โบโลญญ่า)
เซ็นเตอร์ฮาร์ฟดาวรุ่งวัย 21 ปี จากประเทศญี่ปุ่นที่ได้โอกาสย้ายไปค้าแข้งในลีกยุโรปได้อย่างรวดเร็ว โดยเจ้าตัวแจ้งเกิดในวงการลูกหนังกับทีมบ้านเกิดอย่าง อวิสปา ฟูกูโอกะ ช่วงปี 2015 ก่อนที่ในอีก 2 ให้หลัง แซงต์-ทรุยด็อง ทีมจากเบลเยี่ยมที่คว้าตัวไปครอง และปลุกปั้นขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนกระทั่งช่วงซัมเมอร์ปี 2019 โทมิยาซุ ได้รับข้อเสนอจาก โบโลญญ่า ในการคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 9 ล้านยูโร ซึ่งในขวบปีแรกเขาถูกถ่างออกไปเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาจำเป็นซึ่งก็ถือว่าโชว์ผลงานได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนที่ในซีซั่นนี้จะถูกหุบเข้ามาเล่นปราการหลังตัวกลางตำแหน่งที่คุ้นเคย โดยสถิติในซีซั่นนี้ในศึกเซเรีย อา 6 นัด เจ้าตัวลงสนามครบทุกนัด และอยู่ครบ 90 นาทีมาโดยตลอด
5.) อี คัง อิน (บาเลนเซีย)
แข้งวัย 19 ปี ชาวเกาหลีใต้ แต่มาเติบโตกับสโมสร บาเลนเซีย ตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะใช้เวลาฝึกปรือลูกหนังต่อสู้กับระบบอครเดมี่ของของทัพ "ค้างคาว" ไต่เต้ามาตั้งแต่รุ่น ยู-19 ปี ขึ้นมาชุด B ก่อนได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่เมื่อช่วงฤดูกาล 2018-19 โดยตำแหน่งถนัดของเจ้าตัวคือกองหน้าตัวเป้า แต่ก็สามารถขยับออกมาเล่นตัวด้านข้างได้อย่างดีเยี่ยม โดยสถิตินับจนถึงตอนนี้กับทีมชุดใหญ่ของ บาเลนเซีย อยู่ที่การลงสนาม 42 นัด ซัดไป 2 ประตู พร้อมทำอีก 3 แอสซิสต์ ซึ่งแอสซิสต์ทั้ง 3 ครั้ง เพิ่งเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้เอง4.) ซาร์ดาร์ อัซมูน (เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก)
ดาวเตะวัย 25 ปี จากอิหร่านกับการเป็นหัวหอกตัวหลักของ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในตอนนี้ โดยย้อนกลับไป อัซมูน ได้โอกาสย้ายมายังลีกประเทศรัสเซียตั้งแต่ช่วงปี 2012 ซึ่งเป็นการอยู่กับทีมเยาวชนของ รูบิน คาซาน ก่อนที่จะได้โยกย้ายอยู่ในลีกแดนหมีขาวกับ รอสตอฟ ซึ่งชีวิตลูกหนังส่วนใหญ่ของเขาก็วนเวียนอยู่กับ 2 ทีมนี้ ก่อนที่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 เซนิต จะยื่นข้อเสนอ 12 ล้านยูโร คว้าตัวไปครอง และเป็นกำลังสำคัญของทีมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยในฤดูกาลนี้ อัซมูน ซัดไปแล้ว 6 ประตู จากการลงสนาม 11 นัด ส่วนในนามทีมชาติเจ้าตัวติดทีมชาติอิหร่านตั้งแต่ปี 2014 ด้วยอายุเพียง 19 ปี และยึดโยงเป็นตัวหลักของทีมมาจนถึงตอนนี้3.) ทาเคฟุสะ คุโบะ (บียาร์เรอัล)
ดาวเตะที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมาก จนถูกขนานนามว่าเป็น 'นิว เมสซี่' เพราะเขาได้รับโอกาสเข้าสู่ศูนย์ฝึก ลามาเซีย ตั้งแต่ปี 2010 แต่ทว่าด้วยปัญหาที่ทางฟีฟ่ามีคำสั่งว่าทีม “เจ้าบุญทุ่ม” นั้นทำผิดกฎการซื้อขายนักเตะเยาวชน ซึ่ง คุโบะ คือหนึ่งใน 9 นักเตะที่ถูกเซ็นสัญญามาแบบผิดกฎ ทำให้เขาได้เพียงแค่ลงซ้อมกับทีมเท่านั้น และเจ้าตัวก็มองว่าถ้าอยู่ต่อไปโดยไม่ได้ลงเล่น สุดท้ายจึงตัดใจเลือกย้ายกลับประเทศญี่ปุ่น และได้เซ็นสัญญากับทีมในบ้านเกิดอย่าง เอฟซี โตเกียว แทน ก่อนที่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 เรอัล มาดริด ที่มองเห็นแววเจ้าหนูคนนี้ก็ได้กระโดดเข้ามาคว้าตัวไปครองเพื่อหวังที่จะปลุกปั้นให้ขึ้นมาเป็นอนาคตของทีม ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวถูกปล่อยตัวไปให้ เรอัล มาร์ยอก้า และ บียาร์เรอัล ยืมตัว ส่วนอนาคตต่อจากนี้น่าสนใจว่าฝีเท้าระดับเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทัพ "ราชันชุดขาว" ได้หรือไม่