logo-heading

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมใน 2 นัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการบุกไปชนะ เปแอสเช 2-1 และเปิดบ้านถล่ม อาร์เบ ไลป์ซิก 5-0 เก็บ 6 คะแนนเต็มรั้งจ่าฝูงแบบสบายๆ ซึ่งนัดที่ 3 คือการบุกมาเยือน อิสตันบูล บาร์ซัคเซฮีร์ ซึ่งถือเป็นทีมที่หมูตู้ที่สุดในกลุ่ม ผ่านไป 2 นัดมี 0 คะแนน แถมยังยิงใครไม่ได้เลยด้วย ฉะนั้นหลายฝ่ายก็มองว่านี่ไม่่น่าเป็นเกมที่ยากของ แมนฯ ยู คงจะบุกมาชนะได้เก็บ 3 คะแนนกลับไปแบบไม่ยากเย็น แต่พอเอาเข้าจริงมันไม่ใช่เลย และนี่คือประเด็นหลังเกมนี้ที่เก็บมาฝากกัน

  เริ่มด้วยการจัดทีม 11 ตัวจริงกันก่อนเลย นัดนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือโลกสวยของ แมนฯ ยู จัดทีมมาแบบผสม กึ่งจริงกึ่งสำรอง ให้โอกาส ดีน เฮนเดอร์สัน ได้ลงเฝ้าเสาแทน ดาบิด เด เคอา และก็ให้ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ จับคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ กองกลางใช้ มาติช คู่กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ริมเส้นฝั่งขวาเป็น ฆวน มาต้า ขวาเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด เพลย์เมกเกอร์ยังใช้ บรูโน่ แฟร์นันเดส เป็นเดอะแบก และหน้าเป้าเป็น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แต่พอลงเล่นจริงๆ ก็มีการสลับตำแหน่งกันบ้างตามโอกาส ขณะที่เจ้าถิ่นอย่าง อิสตันบูล มีนักเตะที่เราน่าจะคุ้นชื่อกันดีลงสนาม 3 คนก็คือ มาร์ติน สเคอร์เทล อดีตแนวรับ ลิเวอร์พูล, ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวาเด็กเก่า ผีแดง และ เดมบ้า บา อดีตกองหน้า เชลซี ซึ่งเป็นตัวความหวังของทีมในเกมนี้ ซึ่งพอผู้ตัดสินเป่านกหวีดเริ่มเกม เราก็จะเห็นได้ชัดว่า อิสตันบูล จงใจมาตั้งรับให้แน่นและรอสวนกลับเร็ว ปล่อยให้ แมนฯ ยู ครองบอลทำเกมเข้าใส่ แต่ก็อย่างที่เรารู้กัน แมนฯ ยู ชุดนี้ ไร้ซึ่งจินตนาการ เคาะบอลกันไปกันมาหาประโยชน์ส้นตีนอะไรไม่ได้ และสุดท้ายก็มาทำพลาดกันโง่ๆ ในนาทีที่ 12 ทั้งที่เป็นฝ่ายได้เตะมุมยู่ด้วยซ้ำ แต่ตัดสินใจเล่นส้น เคาะกันไป เคาะกันมา สุดท้ายเปิดไม่ขึ้นติดคู่แข่งดักได้ ก่อนจะโดนวางบอลยาวตั้งแต่หน้าประตู อิสตันบลู มาให้ เดมบ้า บา หลุดเดี่ยวแบบไม่ล้ำหนน้าแน่นอน เพราะออกสตาร์ทวิ่งในแดนตัวเอง แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ หลังบ้าน ผีแดง แม่งหายหัวไปไหนหมด เข้าใจได้ว่า มันเป็นจังหวะเตะมุมที่กองหลังต้องขึ้นไปลุ้นทำประตู แต่มึงไม่คิดจะทิ้งใครไว้ตามประกบ เดมบ้า บา ที่ยืนห้อยหัวโด่ไว้หน่อยเลยหรอ แถมคนที่วิ่งไล่ตามจี้บี้ใส่ เดมบ้า บา ในจังหวะนี้คือ มาติช ที่ช้าชิพหาย สุดท้ายก็โดนยิงเข้าไปไม่เหลือขี้  โดนเร็วแบบนี้แทนที่จะมีลูกฮึดลูกสู้ แต่ แมนฯ ยู ไม่มีเลย ยังคงเล่นกันสะเปะสะปะ เคาะไปมาน่าเบื่อชิพหาย เล่นเหมือนไม่ได้ซ้อมเกมรุกกันมา บรูโน่ แฟร์นันเดส ก็พยายามแล้วพยายามอีกที่จะป้อนบอลให้เพื่อน แต่ก็เหมือนไม่รู้กัน นั่นทำให้เขาเล่นต่ำกว่ามาตรฐานลงไปด้วย รูปเกมอึดอัดกันไปกันมา จนกระทั่งนาทีที่ 40 ฆวน มาต้า ก็มาพลาดท่าเสียบอลในแดนตัวเอง โดนกระแทกตัวปลิว จากนั้นก็โดนจ่ายตัดเข้ากลาง มีตัวข้ามหลอก 1 คน จน แม็คไกวร์ กองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก เหวอแดกหลังหัก สุดท้ายบอลก็ไปเข้าทาง เอดิน วิสก้า กองกลางของ อิสตันบูล ที่จับก่อน 1 ที ก่อนจะตะบันหายเข้าไป ซึ่งไอจังหวะที่จับแต่งเนี่ย มาต้า ก็พยายามจะวิ่งเข้ามาบล็อคลูกจากเส้นเพื่อแก้ตัวี่ทำเสียบอล แต่ดันมาโดนเพื่อนร่วมทีมอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลก ย้ำนะครับว่าค่าตัวแพงที่สุดในโลก วิ่งมาบังทางกันเองซะอย่างงั้น ไอสัส งงชิพหาย พวกมึงเล่นเชี่ยอะไรกันครับ !!  อย่างไรก็ตามโดนนำได้ไม่ถึง 3 นาที แฟนผี ที่กำลังหมดหวังก็ถูกปลุกให้มีหวังอีกครั้ง เมื่อ ลุค ชอว์ ที่ร้อยวันพันปีเปิดบอลไม่เคยจะแม่น โชว์โยนจากริมเส้นเข้าเต็มหัวของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โขกวะบัดเข้าไป ทำให้ไล่มาเป็น 2-1 และเป็นการยิงตรงกรอบครั้งแรกในเกมนี้ของ ผีแดง อีกด้วย. ... คิดดูละกันว่าเล่นทุเรศแค่ไหน กว่าจะยิงตรงกรอบครั้งแรกต้องรอนาทีที่ 43! ช่วงต้นครึ่งหลัง แมนฯ ยู ทำได้ดีขึ้นกว่าครึ่งแรก ส่วนนึงก็เป็นเพราะ อิสตันบูล เลือกที่จะถอยไปเน้นรับลึก และแทบจะไม่หาจังหวะสวนกลับสักเท่าไหร่ อีกอย่างคือส่ง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ลงมาแพ็คเกมแดนกลางอีกคน เกมของ แมนฯ ยู กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ที่ครึ่งแรกเงียบๆ ก็ยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ เล่นง่าย ขยันหาช่อง ทำให้เกมไหลลื่นขึ้น แต่ก็ยังหาจังหวะจบสกอร์สวยๆ ไม่ได้มาก จนกระทั่งนาทีที่ 61 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็โชว์กึ๋นการแก้เกมด้วยการถอด ฟาน เดอ เบค ที่กำลังทำได้ดีออก แล้วส่ง ปอล ป็อกบา ลงมาเล่นแทน รวมถึงส่ง เอดินสัน คาวานี่ ลงแทน มาต้า ซึ่งนับตั้งแต่นั้นจนจบ 90 นาที เกมรุกของ แมนฯ ยู ที่กำลังดูมีมิติก็ดับสนิทไปเลย คาวานี่ กลายร่างเป็นแค่ผู้เล่นดาดๆ คนนึง เพราะไม่มีเพื่อนป้อนบอลให้ ส่วน ปอล ป็อกบา กำลังอยู่ในช่วงที่สูญเสียความมั่นใจแบบสุดๆ หลังต้องตกเป็นตัวสำรอง แถมเกมที่แล้วก็ทำเสียจุดโทษ จนทำให้ทีมแพ้ อาร์เซน่อล ด้วย นัดนี้ลงมาแล้วทำตัวน่าผิดหวังสุดๆ จ่ายบอลไม่ตรงเพื่อน เสียบอลง่าย ยึกๆ ยักๆ จนสุดท้าย ผีแดง ของ โซลชา ก็สะดุดนัดแรกใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้จนได้ และเป็นชัยชนะเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรกในประวัติศาสตร์สโมสร อิสตันบูล ซะด้วย  

ชิน ชินพัฒน์

logoline