logo-heading

ปิดฉากอำลาอาชีพค้าแข้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ หนึ่งในสุดยอดกองกลางตัวรับเบอร์ต้นๆ ของวงการลูกหนังโลก โดย อดีตแข้งทีมชาติอาร์เจนติน่า ตัดสินใจรีไทร์ด้วยวัย 36 ปี หลังลงโลดแล่นในอาชีพค้าแข้งมายาวนาน 17 ปีเต็ม คว้แชมป์มาประดับบารมีมากมาย สโมสรสุดท้ายคือ เอสตูเดนเตส ลา ปลาต้า ทีมในลีกบ้านเกิด ว่าแล้ววันนี้เราก็มาหาเรื่องสดุดีความยิ่งใหญ่ของ มาสเคราโน่ กันหน่อยดีกว่า

  เริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง   มาสเคราโน่ เป็นเด็กปั้นของ ริเวอร์เพลท บิ๊กทีมของแดนฟ้า-ขาว ก่อนจะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2003 ทั้งที่อายุแค่ 19 ปี แต่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเป็นสง่า จนได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง จนฟอร์มไปเข้าตา โครินเธียนส์ ทีมดังจาก บราซิล ซิวตัวไปร่วมทีมในปี 2005  ซึ่งแม้ มาสเคราโน่ จะเป็นคนอาร์เจนติน่า ทว่าเขาก็มี โคล้ด มาเกเลเล่ ตำนานกองกลางตัวรับทีมชาติฝรั่งเศส เป็นไอดอล โดยเคยได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า "ผมยึดเอา โคล้ด มาเกเลเล่ เป็นแบบอย่างให้ตัวเองอยู่เสมอ มันอธิบายได้ยากนะว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น เวลาที่ผมดูเขาเล่นน่ะความสำคัญมันไม่ใช่เรื่องที่ว่าผมอยากเล่นให้ได้เหมือนเขา แต่ผมรู้สึกว่าเขาเข้าใจเกมการเล่นแบบเดียวกับผม ผมเคยดวลกับเขามาบ้างด้วย และพูดกันตามตรงนะ เขาดูเป็นนักเตะที่พิเศษมากขึ้นในทุกๆ ครั้งที่ผมได้ดวลกับเขาเลยล่ะ"   เริ่มเป็นที่รู้จัก   การย้ายมาอยู่กับ โครินเธียนส์ ทำให้ มาสเคราโน่ เริ่มมีช่อเสียงและเป็นที่จับตามองมากขึ้น เขาตกเป็นเป้าหมายของ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ทว่าสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ สุดท้ายเขาเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พร้อมกับ คาร์ลอส เตเวซ เพื่อนร่วมทีม โดยมี เคีย ชูรับเชี่ยน เอเย่นต์ตัวแสบอยู่เบื้องหลังดีลดังกล่าว ซึ่งดีลนี้ถือว่าเป็นโคตรบิ๊กดีล และเป็นหนึ่งในดีลที่เซอร์ไพรส์ที่สุดเบอร์ต้นๆ ของวงการลูกหนังอีกด้วย   ย้ายไป ลิเวอร์พูล   แต่แน่นอน ฟอร์มการเล่นในตอนนั้น และผลงานของ มาสเคราโน่ มันดีเกินกว่าจะค้าแข้งให้ทีมเล็กๆ อย่าง เวสต์แฮม อยู่กับทัพ "ขุนค้อน" ได้ไม่ถึงปี ลิเวอร์พูล ก็กระชากตัวเขาเข้ามาร่วมทีม และตอนนั้นนั่นเองที่ทำให้ มาสเค โด่งดังเป็นพลุแตก สไตล์การเล่นชนิดทุ่มเทเกินร้อย เข้าเสียบสกัดแบบหนักแน่น อ่านเกมขาดกระจาย บวกกับความสารพัดประโยชน์ ถอยลงไปยืนเป็นกองหลังได้ มันทำให้ มาสเคราโน่ ขึ้นแท่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับเบอร์ต้นๆ ของโลก ทว่า 4 ปีกว่าที่อยู่กับ ลิเวอร์พูล มาสเคราโน่ ไม่สามารถช่วยให้ทีมคว้าแชมป์อะไรได้เลย จนกระทั่งเขาได้ย้ายไป บาร์เซโลน่า...   บาร์เซโลน่า   24 ล้านยูโร คือเม็ดเงินที่ บาร์เซโลน่า จ่ายให้ ลิเวอร์พูล เพื่อเป็นค่าตัวของ มาสเคราโน่ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2010 พร้อมเซ็นสัญญายาว 4 ปีเต็ม และบทสัมภาษณ์แรกของ มาสเคราโน่ ก็พูดเอาไว้สั้นๆ แต่กินใจว่า "นี่มันเหมือนฝันที่เป็นจริง ผมโคตรมีความสุขเลยที่ได้ย้ายมาอยู่กับ บาร์ซ่า" ตลอดช่วงเวลา 8 ปีที่เขาลงรับใช้ทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" มาสเคราโฯ่ ทำงานอย่างหนัก ลงเล่นรวมไป 334 นัด ยิงได้ 1 ประตูถ้วน โดยเป็นจุดโทษในเกมที่ บาร์ซ่า ถล่ม โอซาซูน่า ไป 7-1 เมื่อปี 2017   ความสำเร็จ   ว่าด้วยเรื่องของถ้วยแชมป์ประดับบารมี หลังจากเหวอๆ กับ 4 ปีที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ถ้วยอะไรมาประดับบารมีเลย ทว่าพอย้ายา บาร์ซ่า พี่แกก็ปวดแขนเมื่อยตัวไปหมดเพราะต้องยกถ้วยแชมป์เยอะเหลือเกิน ตลอด 8 ปี พี่แกคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน กับ โกปา เดล เรย์ ไปถ้วยละ 5 สมัย ซูเปอร์โกปาอีก 3 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ แชมป์สโมสรโลก อีกอย่างละ 2 สมัย   ทีมชาติอาร์เจนติน่า   มาสเคราโน่ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2003 และประกาศอำลาทัพ "ฟ้า-ขาว" ไปในปี 2018 พร้อมกับสถิติลงเล่น 147 นัด ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังอาร์เจนติน่า แต่มันน่าเสียดายตรงที่เจ้าตัว ไม่สามารถช่วยให้ อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์อะไรได้เลย ยกเว้นแค่เหรียญทองโอลิมปิกเกม 2 สมัย ในปี 2004 และ 2008 ส่วนแชมป์โลก ก็เป็นได้แค่พระรองในปี 2014 หลังแพ้ เยอรมัน ในช่วงต่อเวลาพิเศษไป 1-0 ซึ่งในทัวร์นาเม้นท์นี้ มาสเคราโน่ ก็เล่นได้อย่างโดดเด่นเหลือเกิน จนได้รับคำชมล้นหลาม เขาเป็นนักเตะเอาท์ฟิลด์ (ตำแหน่งอื่นนอกจากผู้รักษาประตู) ที่ผ่านบอลระยะไกลเข้าเป้าสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของรายการ ด้วยค่าเฉลี่ย 10.6 ครั้งต่อนัด และเป็นนักเตะที่เข้าสกัดโดนบอลสูงที่สุดเป็นอันดับ 8 ร่วมของทัวร์นาเมนต์ด้วยค่าเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อเกม  

และทั้งหมดนี้คือประวัติและสิ่งที่น่าสนใจคร่าวๆ ของ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ หนึ่งในกองกลางเชิงรับที่ดีและสารพัดประโยชน์ที่สุดคนนึงในโลกลูกหนัง 

 

ชิน ชินพัฒน์

 
logoline