logo-heading

การจัดทีม

  เป็นอีกหนึ่งเกมที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จัดทีมได้ค่อนข้างขัดใจสาวก "ปีศาจแดง" ไม่น้อย เพราะเชื่อว่าหลายคนคงคาดหวังว่า เอดินสัน คาวานี่ น่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ฟอร์มฝืดมาสักพักใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่เลยเพราะ น้าโอเล่ ยังมั่นใจในตัว "น้องหมาก" ลูกรัก และพัก คาวานี่ เป็นแค่ตัวสำรองเหมือนเดิม  เท่านั้นไม่พอ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค อีกหนึ่งแข้งใหม่ที่ทุ่มเงิน 40 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาร่วมทีม ก็ต้องนั่งรอโอกาสข้างสนามอีกเช่นเคย นี่ถ้า ลุค ชอว์ ไม่เจ็บ อเล็กซ์ เตลลิส แบ็กซ้ายตัวใหม่อีกตัว ก็คงไม่พ้นต้องนั่งสำรองอีกเหมือนกัน คำถามคือแล้วมึงจะซื้อเค้าเข้ามาเพื่อ??   

ครึ่งแรกเล่นดีแค่ 15 นาที

  ว่าด้วยเรื่องของชื่อชั้นของทีม และคุณภาพนักเตะ ก็ต้องบอกตามตรงว่า แมนฯ ยู นั้นดูเหนือกว่าทุกกระบวนท่า ฉะนั้นมันไม่ควรจะเป็นเกมที่ยากสำหรับทัพ "ปีศาจแดง" ในการเก็บ 3 คะแนนเต็ม ซึ่งพอเริ่มเกมมาได้ไม่นาน ผีแดง ก็โชว์ความเหนือชั้น ต่อบอลทำเกมรุกบุกเข้าใส่ผู้มาเยือนเป็นชุดๆ และมีโอกาสจะขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่จาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ตั้ง 2 หน แต่ก็ไม่คมพอ เลยเปลี่ยนเป็นประตูขึ้นนำไม่ได้ จนกระทั่งผ่านไป 15 นาที ผี ก็เริ่มเพลารุกไปดื้อๆ ซะอย่างงั้น แถมมีปล่อยให้ เวสต์บรอม ขึ้นเกมสวนกลับมาด้วยอีกต่างหาก แต่สุดท้ายจบ 45 นาทีแรกก็ยังเสมอกันอยู่ 0-0 ชนิดที่รูปเกมค่อนข้างอึดอัด ผีแดง เหนือกว่าอยู่เล็กน้อย   

ดราม่า VAR ช่วยผี

  ช่วงต้นครึ่งหลัง แทนที่จะเป็น แมนฯ ยู ที่บุกเข้าใส่กลับเป็น เวสต์บรอม ที่มีโอกาสจะได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่แผงหลัง ผีแดง ปล่อยให้ คอนอร์ ทาวน์เซ่นด์ หลุดเดี่ยวไปล่อเป้า แต่ เด เคอา ยังโชว์ปฏิกริยาอันว่องไวใช้ขาเซฟออกมาได้ จากนั้นถัดมาไม่นาน ผีแดง ก็เกือบจะเสียจุดโทษจากจังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันเดส เข้าไปแย่งบอลจาก คอนอร์ กาลลาเกอร์ส ในเขตโทษ ผู้ตัดสิน เดวิด คู้ท ไม่รอช้าชี้เป็นจุดโทษด้วยความมั่นใจ ทว่าสุดท้ายก็ขอกลับคำตัดสินหลังจากไปดู VAR  แล้วเห็นว่า บรูโน่ จิ้มเข้าไปที่บอลก่อนจะโดนขาของ กาลลาเกอร์ส แมนฯ ยู รอดพ้นจากจุดโทษไปได้ และจากนั้นไม่ถึง 5 นาทีดี ก็เป็น ผีแดง นี่แหละที่มาได้จุดโทษบ้าง แต่คราวนี้ชัดเจนไม่ต้องพึ่ง VAR เลย ฆวน มาต้า เปิดบอลไปโดนมือแนวรับของ เวสต์บรอม แบบเต็มๆ บรูโน่ แฟร์นันเดส มือสังหารเบอร์ 1 ของทีม รับหน้าที่ วิ่งเข้ามายิงไปทางขวามือของตนเอง ซึ่ง แซม จอห์นสโตนส์ ก็เดาทางถูกพุ่งปัดออกหลังไปได้ ทว่าพอมาดูภาพช้า VAR มันก็ฟ้องว่า จอห์นสโตนส์ นั้นก้าวออกมาจากเส้นก่อนที่ บรูโน่ จะถึงบอล ฉะนั้นต้องยิงใหม่อีกหน ซึ่งคราวนี้ บรูโน่ เปลี่ยนมายิงทางซ้ายมือของตัวเอง พร้อมท่าประจำกระโดดยิงด้วย โดยหนนี้ แม้ว่า จอห์นสโตนส์ จะพุ่งถูกทางแต่ก็ไม่สามารถปัดไว้ได้ ทำให้ ผีแดง ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 56 ก่อนที่สุดท้ายจะเป็นประตูชัย และนี่ถือเป็นประตูที่ 14 ของ บรูโน่ ในเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งครึ่งนึง 7 ประตู มาจากจุดโทษ   

แซม จอห์นสโตนส์

  เอาจริงๆ แม้รูปเกมของ แมนฯ ยู ในนัดนี้มันจะดูไม่ได้ดีมากนัก แต่ก็หาจังหวะจบสกอร์ได้อยู่เรื่อยๆ นะ ทว่าไม่รู้เป็นอะไรเวลาที่ อดีตนายด่านผีแดง กลับมาเจอทีมเก่า ผีชอบเข้าเซฟอุตลุดตลอดเลย ว่ากันว่าหากเกมนี้ จอห์นสโตนส์ ไม่ท้อปฟอร์มช่วยเซฟเอาไว้ แมนฯ ยู น่าจะชนะ 4-0 ไปแล้วด้วยซ้ำ ซึ่งตามสถิติหลังเกมระบุว่า นัดนี้ แมนฯ ยู ยิงตรงกรอบไป 7 ครั้ง ได้มา 1 ประตูจากจุดโทษ นอกนั้นติดเซฟ จอห์นสโตนส์ หมดเลย และเป็นซูเปอร์เซฟถึง 4 ดอกด้วยกัน. .. ใช่ครับ แซม จอห์นสโตนส์ คนนี้คือคนเดียวกับที่ก่อนหน้านี้ลงเฝ้าเสาให้ เวสต์บรอมฯ ใน พรีเมียร์ลีก ไป 8 นัด โดนซัดไป 17 ประตู เฉลี่ยนนัดละเกิน 2 เม็ด บอกแล้วว่าเกมนี้พี่แกผีเข้า เซฟชิพหาย!  

อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

  เชื่อว่าแฟนผีที่อยู่ดูเกมนี้จนจบ คงตั้งคำถามในใจเหมือนกันว่า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล มันมีประโยชน์อะไร ทำไมถึงได้อยู่ในสนามจนจบเกม? ซึ่งบอกตามตรงผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา น้าแกกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะว่ากันตามตรงตอนนี้สภาพจิตใจของ น้องหมาก อยู่ในเกณฑ์ที่ย่ำแย่สุดๆ ยังยิงใน พรีเมียร์ลีก ไม่ได้ แถมก่อนหน้านี้ก็ทำตัวโง่พลาดท่าโดนใบแดงจนโดนแบนไป 3 เกม ไปเล่นกับทีมชาติฝรั่งเศส ก็ฟอร์มไม่ดี ตอนนี้ก็ตกเป็นเป้าโจมตีของแฟนผี  เราจะเห็นได้ชัดเลยว่า ระยะหลัง มาร์กซิยาล เล่นบอลติดแอ็กอาร์ทมากไปหน่อย เล่นเยอะจังหวะ แล้วก็ดูจะไม่เข้ากับเพื่อนร่วมทีมสักเท่าไหร่ หนำซ้ำเวลาทำบอลเสียแล้วก็ไม่ชอบวิ่งไล่ด้วย เรียนตามตรง มันเล่นเหมือนคนหมดใจ อยากจะย้ายออกไปยังไงยังงั้น ก็ไม่รู้ตอนนี้ในใจน้องหมากคิดอะไรอยู่ แต่ในใจแฟนผีส่วนใหญ่ คงอยากให้แกไปพักก่อน สภาพนี้ไม่ควรลงตัวจริงเลยด้วยซ้ำ บอกตามตรงตอนนี้เห็นแฟนผีเห็น ลินการ์ด ลงเล่น อาจจะดีใจกว่าเห็น มาร์กซิยาล ลงสนามก็เป็นได้ ... . แล้วก็ไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกันที่ แข้งวัย 24 ปีรายนี้จะเรียกฟอร์มเก่ง และทวงคืนความมั่นใจกลับมาได้ หรืออาจไม่มีวันแล้วก็เป็นได้  

ชิน ชินพัฒน์

 
logoline