logo-heading

เริ่มที่การจัดทีมกันก่อนเลยดีกว่า นัดนี้ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือทัพ "ปีศาจแดง" จัด 11 ตัวจริงได้โดนใจสาวก ผีแดง อย่างยิ่ง เพราะตัดสินใจส่ง 3 ผู้เล่นใหม่อย่าง เอดินสัน คาวานี่, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค และ อเล็กซ์ เตลลิส ลงเล่นพร้อมกัน 3 คนเป็นครั้งแรก

  เท่านั้นไม่พอ ปีก 2 ข้างก็ยังเป็น อ็องโตนี่ มาร์ซิยาล กับ ท่านเซอร์ มาร์คัส แรชฟอร์ด เรียกได้ว่าใส่ตัวรุกแบบจัดเต็ม โดยมี บรูโน่ แฟร์นันเดส เป็นเพลย์เมกเกอร์ตอยสร้างสรรค์เกม ส่วนกองกลางตัวตัดเกม ก็ใช้ เฟร็ด จอมขยัน จับคู่กับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ที่จิ๋วแต่แจ๋ว ขยันวิ่งไล่เหมือนกัน แต่จะมีการต่อบอลขึ้นหน้ามาเป็นออปชั่นเสริมเพิ่มเติมด้วย ขณะที่แผงหลังและผู้รักษาประตูก็จัดชุดใหญ่ตามเดิม แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ยืนคู่ ลินเดเลิฟ ขวาเป็น วาน-บิสซาก้า ซ้าย อเล็กซ์ เตลลิส นายด่านก็ใช้ ดาบิด เด เคอา เรียกได้ว่าพอแฟนผีเห็น 11 ตัวจริงเกมนี้ ต้องมีหายง่วง อยากถ่างตารอดูกันบ้างแหละ ส่วนทาง  อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ที่นัดก่อนทำแสบเปิดบ้านเชือด แมนฯ ยู ไป 2-1 ก็นำทัพมาโดย เดมบ้า บา, มาร์ติน สเคอร์เทล, นาเซอร์ ชาดลี่, เบอร์เก ออซคาน และ ราฟาเอล ดา ซิลวา อดีตเด็กเก่า ผีแดง เอาหละมาเข้าสู่การแข่งขันกันดีกว่า แมนฯ ยู ที่ถูกมองว่าเหนือกว่า โดยเฉพาะการจัดทีมเน้นรุกบุกกระหน่ำแบบนี้ ก็ทำได้ดีกว่าจริงๆ และดีกว่าอย่างชัดเจนมากๆ เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที ก็เกือบได้ประตูขึ้นนำจาการกระชากลากเลื้อยเข้าไปยิงในเขตโทษของ มาร์คัส แรชฟอร์ด แต่ยังติดเซฟ จากนั้นก็ยังครองเกมได้เหนือกว่า จนกระทั่งมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ อเล็กซ์ เตลลิส เปิดเตะมุมมา แล้วโดนสกัดทิ้งไปนอกกรอบเขตโทษ บอลลอยมาเข้าทาง บรูโน่ แฟร์นันเดส ซึ่งยืนรออยู่ก่อนจะตัดสินใจตะบันเต็มตีนเตี่ยจังหวะเดียวเข้าประตูไปอย่างโคตรสะเด่าช่วยให้ ผีแดง ขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ไก่โห่ พอนำเร็ว รูปเกมก็เหนือกว่าเยอะ คู่แข่งไม่ได้มีพิษสงอะไร แถมเล่นในบ้านตัวเองอีก ก็ทำให้ แมนฯ ยู ยิ่งได้ใจไม่มีเพลาเกมรุก สาเหตุนึงก็คึงเป็นเพราะผู้เล่นกองกลางกับกองหน้า แต่ละคนที่ส่งลงมานั้นเป็นสายบ้าบุกกันทั้งนั้น จะมีก็แค่ เฟร็ด คนเดียวที่เป็นจอมปัดกวาด ด้วยสาเหตุนี้เองทำให้ ผีแดง บุกกดดันต่อเนื่อง จนกระทั่งนาทีที่ 19 ก็มาได้ประตูทิ้งห่าง 2-0 จากจังหวะเปิดของ อเล็กซ์ เตลลิส คนเดิม โดยนเข้ามาในเขตโทษหวังจะให้ เอดินสัน คาวานี่ แต่บอลเลยไปถึงมือนายด่าน อิสตันบูล แต่ดันรับพลาดบอลเลยลอยมาตกตรงหน้า บรูโน่ แฟร์นันเดส แปลเข้าไปง่ายๆ สบายตีน ซึ่งประตูนี้ทำให้ บรูโน่ มีส่วนร่วมกับประตูถึง 34 ลูกจาก 35 เกมที่ลงเล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แบ่งเป็น 21 ประตู กับ 13 แอสซิสต์ บอกได้คำเดียวว่า แม่งคุ้มสัสๆ แม้จะนำห่าง 2-0 แล้ว แต่อย่างที่บอกไปครับ แมนฯ ยู ชุดนี้ไม่มีการเพลาเกมรุกอะไรทั้งนั้นบุกเข้าใส่อย่างเดียว ซึ่งจริงๆ ทางฝั่ง อิสตันบูล เองก็มีจังหวะสวนหาโอกาสยิงได้บ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้อันตรายอะไรมากมาย และในนาทีที่ 34 ผีแดง ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ แรชฟอร์ด หลุดกับดักล้ำหน้า ลากจี้เข้าไปในเขตโทษก่อนโดนกระแทกล้ม ผู้ตัดสินไม่รอช้า เป่าเป็นจุดโทษทันที ซึ่ง บรูโน่ แฟร์นันเดส มือสังหารเบอร์ 1 ที่กำลังลุ้นแฮตทริก ก็โชว์แมนด้วยการปล่อยให้ แรชฟอร์ด ยิงเรียกความมั่นใจ ไม่เอาแฮตทริก ซึ่ง แรชฟอร์ด ก็ไม่ทำให้ผิดหวังซัดเข้าไปไม่เหลือ จบครึ่งแรก ผีนำสบายตัว 3-0 พูลสวัสดิ์  ซึ่งพอนำสบายขนาดนี้ ครึ่งหลัง แมนฯ ยู ก็ผ่อนเกมลงไปอย่างเห็นได้ชัด บวกกับเปลี่ยนเอาตัวหลักออกไปพักด้วย ทั้ง วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, บรูโน่ แฟร์นันเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อารอน วาน-บิสซาก้า และ อ็องงโตนี่ มาร์กซิยาล ด้วยเหตุนี้เองทำให้ครึ่งหลัง โอกาสยิงแบบจะๆ แจ้งๆ ของ แมนฯ ยู ก็มีน้อยลง แต่ก็ยังไม่ได้เพลี่ยงพล้ำอะไรให้ อิสตันบูล จนกระทั่งนาทีที่ 75 แมนฯ ยู มาเสียฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษระยะอันตราย เดนิซ ตูรุช ปั่นข้ามกำแพงไปโดน ดาบิด เด เคอา ปัดออกมา ทว่าโกลไลน์มันฟ้องว่าบอลข้ามเส้นไปแล้ว ทำให้ทีมเยือนนไล่มาได้สำเร็จเป็น 3-1 ประตู มีลุ้นเก็บแต้มกลับออกไป ส่วน แมนฯ ยู จะผ่อนเกมมากเกินไปเหมือนเดิมก็ไม่ได้แล้ว ต้องมีครองบอลบุกใส่คืนบ้าง ซึ่งเวลาที่เหลือ อิสตันบูล ก็พยายามแล้วแหละที่จะไล่ขึ้นมาอีกสักลูกเพื่อหวังถึงตีเสมอแต่ก็ไม่สำเร็จ มีจังหวะซัดชนคานไปทีนึง ซึ่งพอทำไม่ได้ช่วงทดเจ็บดันขึ้นสูงก็โดนสวนกลับ คาวานี่ ส่งให้ ฟาน เดอ เบค ก่อนจะแทงยาวให้ เมสัน กรีนวู้ด หลุดไปทางขวา จากนั้นก็ปาดเข้ากลางให้ ดาเนียล เจมส์ เข้าฮอร์สแปลหนีมือผู้รักษาประตูเข้าไป ฝังเป็น 4-1 จบเกม ผีแดง เก็บ 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ รั้งจ่าฝูงไว้ได้สำเร็จด้วยการมี 9 แต้ม จาก 4 นัด ส่วนอันดับ 2-3 เป็น เปแอสเช กับ อาร์เบ ไลป์ซิก ที่มี 6 คะแนนเท่ากัน ท้ายสุดก่อนจะจากกันไป เชื่อว่าแฟนผีคงจะมีความสุขกับฟอร์มการเล่นของทีมในเกมนี้ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรก และก็คงหวังในใจลึกๆ ว่า โซลชา อาจจะตาสว่างจัดระบบนี้ลองลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ดูบ้าง แต่สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับ น้าโอเล่ แล้วหละ ว่าน้าแกได้บทเรียนหรือมองเห็นอะไรจากแท็คติคและการจัดทีมรวมถึงนักเตะที่ส่งลงเล่นในเกมนี้บ้าง

ชิน ชินพัฒน์

 
logoline