เล่าเรื่องราว! บีย่า ฉาวตอนแก่ โดนแฉแต๊ะอั๊งหวังล่อเด็กฝึกงาน

ถ้าพูดถึงนักเตะทีมชาติสเปน หรือทัพกระทิงดุ ชื่อของ ดาบิด บีย่า คงต้องขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ เพราะนี่คือดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติสเปน ลงสนามไป 98 นัด ซัด 59 ประตู

  ส่วนชีวิตการค้าแข้งในระดับสโมสรช่วงพีคๆ ก็ดูยิ่งใหญ่เกรียงไกร อยู่กับทั้ง บาเลนเซีย, บาร์เซโลน่า และ แอตเลติโก มาดริด เป็นต้น ก่อนที่ช่วงบั้นปลายอาชีพจะย้ายไปโกยเงินดอลลล่าล์กับ นิวยอร์ค ซิตี้ ใน เมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ส สหรัฐฯ และปิดท้ายอาชีพค้าแข้งก่อนรีไทร์กับ วิสเซล โกเบ แต่ครับแต่ อยู่ๆ เราจะมาเกริ่นถึง บีย่า ทำไมในเมื่อเขารีไทร์ไปแล้ว มันต้องมีเรื่องอะไรให้พูดถึงสิใช่มั้ยครับ? ซึ่งมันก็มีจริงๆ เรียกว่าเป็นเรื่องฉาวโฉ่ซะด้วย! เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า สกายเลอร์ บาดิลโล่ วัย 22 ปี อดีตเด็กฝึกงานของสโมสร นิวยอร์ค ซิตี้ เอฟซี อยู่ๆ ก็ออกมาแฉว่าตอนปี 2018 ที่ได้มาเป็นเด็กฝึกงานที่นี่มันเป็นแบบนี้ "ตอนที่ฉันได้รับตัวเข้าไปฝึกงานที่นี่ ฉันคิดเลยว่านี่เหมือนฝันมันเป็นโอกาสครั้งนึงของชีวิต แต่สิงที่ฉันได้รับก็คือ ดาบิด บีย่า แต๊ะอั๊งฉันแม่งแทบทุกวัน ลูบคลำๆ หนำซ้ำเจ้านายฉันยังมองว่ามันเป็นการแหย่เล่นสนุกๆ อีกต่างหาก" ต่อมาก็ได้มีการเปิดเผยว่า หัวหน้าที่ดูแลเรื่องเด็กฝึกงานชื่อ เควิน คริสเตรน อายุ 38 ปี รองหัวหน้าชื่อ เมลวิน แพมโพลน่า วัย 34 ปี ซึ่งทั้งคู่กำลังตกเป็นจำเลยของสังคมว่าทำไมไม่ดูแลเด็กในสังกัดให้ดีๆ  นอกจากนี้ บาดิลโล่ ยังเล่าต่ออีกว่ามันมีครั้งนึงที่เธอไปหยิบของในล็อคเกอร์ห้องแต่งตัว ก็โดน บีย่า เข้ามา สะเงาะสะแงะล้วงแคะแกะเกา โดยเล่าว่า "ลุงบีย่าเขาดึงแขนหนูไปแล้วบอกกับหนูว่า เขารักหนู เขาทำแบบนี้ประจำ ลุงประยุทธ์ เอ้ย ลุงบีย่าบอกกับคนอื่นด้วยว่าเขารักหนู เขาตะโกนลั่นห้องเลยว่าเขารักหนู แล้วถ้า เมลวิน ผู้ดูแลหนูเนี่ยยืนอยู่เขาก็จะบอกเลยว่าเขารักหนู" "ทั้งๆ ที่บางทีลูกๆ ของเขาก็นั่งอยู่ตรงนั้น แต่ลุงยุทธ์เอ้ยลุงย่า ก็ยังมาบอกว่ารักฉัน ฉันทำงานนั่งตัดเทปกาวหันหลังให้ ดาบิด แต่อยู่ๆ เขาก็ลุกขึ้น แล้วเดินมากอดข้างหลังเอามือไว้ที่สะโพกหนู แล้วก็ดันหนูไปที่มุม จากนั้นเขาก็กระซิบข้างหูหนูด้วยเสี่ยงกระเส่าว่า 'หนูต้องระวังพวกผู้ชายเมืองนิวยอร์ค ไว้ดีๆ นะ อู้ยย ซี๊ดด' หลังพูดเสร็จเขาก็ปล่อยหนู หนูมองหา เควิน หวังว่าหัวหน้าจะช่วยได้ ซึ่ง เควิน ก็เห็นทุกอย่าง แต่ไม่ทำอะไร" เท่านั้นไม่พอ บาดิลโล่ ยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่า ตอนปี 2018 ซึ่งเธออายุแค่ 20 ปี มันเป็นแบบนี้ "ลุงบีย่า มาถามหนูว่าหนูชอบดื่มอะไร ทั้งที่ตอนนั้นหนูอายุแค่ 20 เองนะ กำลังใสๆ หนูก็เลยตอบไปว่า 'หนูไม่ดื่มค่ะ' แต่เขาก็ยังจะบังคับให้หนูกินให้ได้เลย เขาถามต่อว่าแล้วจะให้เขาซื้ออะไรให้ เขาอยากให้หนูไปปาร์ตี้ที่บ้านเขา เขาชวนหนู ซึ่งหนูก็มองไปที่ เมลวิน แล้วบอกว่า 'นี่มันไม่ปกตินะ' ซึ่งหนูหวังว่าเขาจะช่วยหนู แต่ไม่เลย เขากลับบอกว่า บีย่า ก็แค่ถามเฉยๆ เท่านั้นเอง" เอาหละฟังทางฝ่ายหญิงมามากพอแล้ว คิดเห็นอะไรอย่างไร ก็ตามใจคุณผู้ชมเลยนะครับ ไม่มีผิดไม่มีถูก แต่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ว่าแล้วเราก็มาให้ความยุติธรรมมาฟังความทางฝ่ายชายผู้เสียหายอย่าง ดาบิด บีย่า วัย 38 ปี หน่อยละกัน ซึ่งตำนานดาวยิงทัพ กระทิงดุ ก็ได้ให้โฆษกประจำตัวออกมาพูดว่า...  "ตั้งแต่อยู่ในวงการมา ดาบิด ไม่เคยเจอเรื่องอะไรแบบนี้มาก่อนเลย เขาเห็นด้วยนะถ้ามีคนที่จะกล้าออกมาพูดในเรื่องอะไรแบบนี้ ซึ่งตอนที่ ดาบิด ทราบเรื่องนี้เขาก็ออกจากทีมนั้นมานาน 2 ปีละ เขาพร้อมรับการสอบสวน และเขาก็มั่นใจและยืนยันว่าเรื่องและพฤติกรรมทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริง" ขณะที่ทางฝั่งสโมสร นิวยอร์ค ซิตี้ ก็ได้ออกแถลงการณ์เช่นกัน โดยยอมรับว่า สิ่งที่ บาดิลโล่ พูดมานั้นมันมีมูล มีพนักงานในองค์กร ทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และผิดจากกฏของสโมสรจริง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามทางสโมสรก็ไม่ได้บอกว่าคนๆ นั้นคือ ดาบิด บีย่า ฉะนั้นเรื่องนี้ต้องตามกันต่อไปอีกยาวๆ.. .. ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น บีย่า อาจผิดจริง หรือ ผู้หญิงหิวแสง งานนี้เดี๋ยวได้รู้กัน

ชิน ชินพัฒน์