5 เหตุผลที่บ่งบอกว่า อันเดรส ปีร์โล่ (อาจ) เป็นคนที่ไม่ใช่สำหรับ ยูเวนตุส

แม้จะยังไม่ได้เพลี้ยงพล้ําพายแพ้ให้กับทีมไหนในศึกกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ฤดูกาลนี้สำหรับ ยูเวนตุส แต่ทว่าการสะดุดเสมอมากถึง 5 นัด จาก 9 เกม แทบผลงานยังไม่สวยงามแบบนี้ คนที่โดนโจมตีมากที่สุดคงหนีไม่พ้น อันเดรส ปีร์โล่

โดยปัจจุบันทัพ “ม้าลาย” รั้งอันดับที่ 4 ของตารางคะแนน มีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง เอซี มิลาน ถึง 6 คะแนน แม้จะไม่ใช่ช่องว่างที่มากเกินไป แต่ถ้าดูผลงานของพวกเขาในตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่ามันยากเหลือเกินที่จะเบียดป้องกันแชมป์ได้ ซึ่งเมื่อผลงานออกมาไม่ได้คนที่โดนพูดถึงมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น อันเดรส ปีร์โล่ กุนซือหน้าใหม่ของทีมที่ยังคงหาฟอร์มเก่งไม่เจอ ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม เราเลยจะพาไปเจาะหา 5 เหตุผลที่บ่งบอกว่า ปีร์โล่ อาจจะไม่ใช่กุนซือที่ใช่สำหรับ ยูเวนตุส จะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย

รูปแบบการเล่นที่ยังไม่ลงตัว

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ อันเดรส ปีร์โล่ ถูกแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นนายใหญ่ของ ยูเวนตุส เจ้าตัวเคยได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะทำการพลิกโฉมการเล่นของทีม นำรูปแบบการเล่นใหม่ๆ เข้ามา โดยเน้นไปที่เปิดเกมบุกรุกเข้าใส่คู่แข่ง "ผมชื่อนชอบระบบ 4-3-3 ที่เน้นเปิดเกมรุก เน้นไปที่การครองบอล แต่อย่างไรก็ตามคุณต้องดูว่าลูกทีมตอบสนองกับแผนได้ดีมากขนาดไหน คุณต้องปรับ และใช้งานพวกเขาในระบบที่แตกต่างออกไป ไม่ได่ยึดมั่นในระบบมากจนเกินไป" แต่ทว่าเมื่อถึงสถานการณ์จริงดูเหมือนความคิดของ ปีร์โล่ ในวันแรกกับวันนี้จะแตกต่างกัน จะเนื่องด้วยปัญหานักเตะบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่สิ่งหนึ่งที่เขายังหาไม่ได้เลยคือความลงตัวของทีม และรูปแบบการเล่น ช่วงแรกๆ ของซีซั่นเจ้าตัวเน้นไปที่การใช้ปราการหลัง 3 คน ก่อนที่ใน 2 เกมล่าสุดจะปรับมายืนหลัง 4 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการได้ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ กลับมาจากอาการบาดเจ็บ อีกอย่างคือเรื่องของเกมรุกที่ยังหาความลงตัวไม่เจอเสียที วนสลับปรับเปลี่ยนผู้เล่นในหลายๆ เกม ไม่ว่าจะเป็น อัลบาโร่ โมราต้า, เปาโล ดีบาล่า หรือ ตัวริมเส้นอย่าง เดยัน คูลูเซฟสกี้ กับ เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่ทั้งหมดยังหาจุดกึ่งกลางไม่ได้ และที่สำคัญยังหาจุดลงตัวของทีมไม่ได้ยามที่ขาด คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ยังหาทีมที่ลงตัวไม่ได้

สืบเนื่องมาจากจากสาเหตุข้อที่แล้วนั้นก็คือการหาความลงตัวในเรื่องของ 11 ผู้เล่นตัวจริงให้ได้ เพราะการโรเตชั่นทีมไปเรื่อยๆ ปรับเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นของผู้เล่นไปเรื่อยๆ มันไม่ส่งผลดีต่อผลงานของทีมอย่างแน่นอน อย่างเช่น อาร์ตูร์ เมโล่ ที่ทีมไปได้ตัวจาก ยูเวนตุส นับจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อาจเค้นฟอร์มเก่งของตัวเองออกมาได้ หรือ เปาโล ดีบาล่า ที่ยังหาฟอร์มเก่งในฤดูกาลนี้ยังไม่เจอ จนเพิ่งทำประตูได้เพียงลูกเดียวเท่านั้น โอเคล่ะว่าถ้าจะหาข้อที่มาหักล้างกันก็คือในเรื่องของโปรแกรมการแข่งขันที่ไม่มีเวลาให้ ปีร์โล่ ได้โอกาสลองทีมในช่วงปรี-ซีซั่น แต่การลงสนามไปแล้ว 12 นัด ก็น่าจะพอทำให้นายใหญ่ผู้นี้ได้เรียนรู้ และหาทีมที่ลงตัวของตัวเองได้แล้ส แต่ทว่าสิ่งดังกล่าวมันค่อนข้างตรงกันข้าม ยกตัวเองสัปดาห์ก่อนทีมเปิดบ้านเอาชนะ กายารี่ 2-0 แตทว่าในสัปดาห์นี้ที่ต้องยกทัพออกไปเยือน เบเนเวนโต้ ทางด้าน ปีร์โล่ เลือกที่จะเปลี่ยนทีมมากถึง 6 คน ซึ่งตรงนี้แหละมันเลยทำให้ความสม่ำเสมอของทีมมันขาดหายไป

หวังพึ่งพา โรนัลโด้ มากเกินไป

แน่นอนว่าการที่คุณมีแข้งระดับเบอร์ต้นของโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในทีมก็ต้องหวังพึ่งพาใช้ประโยชน์จากเขาแบบมากที่สุด แต่ทว่าก็ต้องอย่าลืมว่าถ้าเกิดวันใดทีมไม่มี CR7 ในทีมละคุณจะแก้สถานการณ์อย่างไร? มองไปที่สถิติของ ยูเวสตุส ในฤดูกาลนี้ในเกมที่ไม่มี โรนัลโด้ ลงสนาม 5 นัด พวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวเท่านั้นที่เหลือแบ่งเป็นเสมอ 3 และแพ้ 1 แน่นอนตัวเลขแบบนี้มันไม่ดีเอาเสียเลย ฉะนั้นแล้วสิ่งที ปีร์โล่ ควรทำมากที่สุดก็คือการเค้นฟอร์มแนวรุกคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อัลบาโร่ โมราต้า (3 ประตูในลีก),  เปาโล ดีบาล่า (0 ประตูในลีก), เดยัน คูลูเซฟสกี้ (2 ประตูในลีก) หรือ เฟเดริโก้ เคียซ่า (1 ประตูในลีก) ให้มีความคมในการจบสกอร์ให้มากกว่านี้ ไม่ใช่การหวังเพิ่งการกระทุ้งตาข่ายจากนักเตะเพียงแค่คนเดียว

ไร้จุดแข็ง มองเห็นแต่จุดอ่อน

ถ้ามองย้อนกลับไป ยูเวนตุส เมื่อครั้งอดีตพวกเขาขึ้นชื่อเรื่องของเกมรับอยู่แล้ว ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จกวาดแชมป์เป็นว่าเล่น แต่กับในยุคปัจจุบันภาพเหล่านั้นเราแทบลบมันออกไปจากหัวได้เลย โอเคละว่าถ้ามองกันที่ประตูที่เสียไปในเกมลีกเพียง 7 ประตู แต่หลายครั้งพวกเขาเสียมันง่ายเหลือเกิน และพร้อมที่จะเสียในทุกๆ เกม อีกอย่างคือการไร้ซึ่งจินตนาการในการพาบอลขึ้นไปกดดันคู่แข่ง และทำประตู สังเกตุเห็นได้เลยคือจังหวะสุดท้ายความแม่นยำที่หวังพึ่งพาไม่ค่อยได้ และเมื่อจุดด้อยมันมีมากกว่าจุดเด่นมันเลยเริ่มส่งกระทบออกมาได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญมันทำให้ทีมทำแต้มหล่นหายไปหายคะแนนแล้ว ซึ่งจุดนี้แหละที่มันอาจจะทำให้พวกเขาพลาดแชมป์ลีกในบั้นปลายได้

ขาดประสบการณ์การคุมทีม

การที่บอร์ดบริหารของ ยูเวนตุส เลือกที่จะใช้บริการของ อันเดรส ปีร์โล่ แน่นอนว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่ากุนซือผู้นี้ยังไม่มีประสบการณ์คุมทีมในระดับสูงเลย ซึ่งมันเป็นการเสี่ยงโชคที่ไม่รู้ว่าจะออกมาหน้าไหนเพราะมันไม่ได้มีบัญญัติไตรยางค์งว่าการเป็นนักเตะที่เก่งจะเป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยมได้ และแน่นอนผลงานที่ออก ณ ตอนนี้มันสามารถระบุได้เลยว่ามือของเขามันยังไม่ถึง กึ๋นในการคุมทีมของเขายังต้องเรียนรู้ และหาประสบการณ์อีกพอสมควรเพื่อที่จะให้เหมาะสมกับการแข่งขันในตอนนี้ และด้วยความที่เป็น ยูเวนตุส ทีมที่กระหายความสำเร็จทั้งใน และนอกประเทศแบบนี้ มันควรเป็นกุนซือที่ระดับต้นๆ ของวงการ หรือประสบความสำเร็จ มีโทรฟี่แชมป์การันตีหรือไม่กับบทบาทตรงนี้ ฉะนั้นแล้วนี้จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่กำลังเข้ามากดดัน  ปีร์โล่ แบบถาโถมไม่ให้ทันได้ตั้งตัว