logo-heading

สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ได้ลืมตาอ้าปากกับเขาเสียที หลังจากโชว์ฟอร์มดีแบบผิดคาด เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี คู่อริร่วมลอนดอน ไปด้วยสกอร์ 3-1 จากทีมที่ถูกเย้ยหยันว่าเป็นยักษ์หลับ ร่วงไปมีสถานะเป็นทีมหนีตกชั้น กลับกลายเป็นไล่ต้อน "สิงห์บลูส์" แบบอยู่หมัด

เกมนี้มีอะไรหลายอย่างให้พูดถึง นักเตะ ไอ้ปืนใหญ่ ยังสู้เพื่อ มิเกล อาร์เตต้า ประหนึ่งว่ารักกุนซือรายนี้จับใจ ฉะนั้นจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปติดตามประเด็นน่าสนใจกันได้เลย

- อาร์เซน่อล มาดีเกินคาด ใจสู้เพื่อ อาร์เตต้า

หลังจากเริ่มเกมมา 10 นาที เชลซี มีโอกาสฟรีคิกจาก เมสัน เมาท์ ที่ปั่นไปเช็ดเสาเหลี่ยมนอกออกไป แต่หลังจากนั้นกลับกลายเป็นว่า อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นเลยว่าพวกเขายังคงทุ่มเทเต็มเพื่อต่อสู้เพื่อ มิเกล อาร์เตต้า เหมือนเดิม และ เวลาบอลมันเล่นด้วยใจ อะไรดีๆก็ตามมา ลูกทีม อาร์เตต้า เดินหน้าเกมบุกใส่ เชลซี ไม่พัก ส่วนเกมรับ ถือว่ารับมือกับพวก ติโม แวร์เนอร์ หรือ คริสเตียน พูลิซิช ได้ดีมากๆ ไม่ยอมปล่อยให้พริ้วจนทีมต้องเสียประตู ซึ่งโอกาสทองที่ อาร์เซน่อล ควรขึ้นนำ เกิดขึ้นจากการขึ้นเกมทางฝั่ง เอ็คตอร์ เบเยริน แบ็กขวา อาร์เซน่อล ก่อนจะปาดเข้ามาตรงกลางให้กับ สมิธ โรว์ แต่ทว่าเจ้าหนูคนนี้ ชาร์ตไม่โดน พลาดยิงให้ทีมขึ้นนำแบบน่าเสียดายจริงๆ

- ลากาแซ็ตต์ ทำท่าปาดเหงื่อ

การเป็นทีมระดับ อาร์เซน่อล หนึ่งเดียวที่ยังครองสถิติแชมป์ลีกไร้พ่าย และ มีเป้าหมายติดอันดับท็อป 4 แต่กลับกลายเป็นว่าอยู่ในสถานะลุ้นหนีตกชั้น ไม่ชนะใครในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มา 7 นัดติดต่อกัน ? คุณคิดว่า อาร์เตต้า และ ขุนพล "ไอ้ปืนใหญ่" จะแบกรับความกดดันไว้มากแค่ไหน โดยเฉพาะสถานะของ พี่ต้า ที่กำลังจะโดนปลดอยู่ร่อมร่อ แต่เกมนี้มันถูกปลดเปลื้องออกมาให้เห็น โดยเฉพาะหลังจากที่ อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ ซัดจุดโทษให้กับ อาร์เซน่อล ขึ้นนำ เชลซี 1-0 ท่าดีใจของเขา เป็นท่า "ปาดเหงื่อ" แสดงให้เห็นว่าพวกเขาแบกรับความกดดันไว้มากเพียงใด กว่าจะผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ และ ประตูนี้ก็เหมือนเป็นจุดเริ่มโมเมนตั้มของเกม

- ฟรีคิก ชาก้า คมกริบ

กรานิต ชาก้า ก็เหมือนเป็นคนมีประวัติ ทำอะไรก็โดนด่าไปหมด เล่นไม่มีประโยชน์ เข้าฟาวล์โฉ่งฉ่าง จนโดนใบแดงให้เห็นอยู่บ่อยๆ เขามีเรื่องเสีย มากกว่าเรื่องดีเสียอีก เผลอๆเรื่องดี จะนึกกันไม่ออกด้วยซ้ำ แต่ในดำมีขาว และ ในขาวมีดำ ซึ่งในเกมนี้ ชาก้า ทำให้เห็นเหมือนกันว่า ในช่วงเวลาคับขัน เขาก็พร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคไปพร้อมๆกับทีม ซึ่งเจ้าตัวก็โชว์ความยอดเยี่ยม ด้วยการซัดฟรีคิกอย่างเฉียบขาดให้ อาร์เซน่อล ขึ้นนำ 2-0 นับเป็นแข้ง ปืนใหญ่ คนแรก ที่ทำประตูจากลูกฟรีคิก นับตั้งแต่ปี 2019

- บูกาโย้ ซาก้า ตั้งใจยิง หรือ ผิดเหลี่ยม ?

ในช่วงที่ อาร์เซน่อล เหนือกว่า เชลซี อยู่หลายขุม พวกเขาพยายามจะยิงประตูเพิ่ม เพื่อฝังคู่แข่งให้จมกองดิน จนกระทั่งมาถึงคิวของ บูกาโย้ ซาก้า ที่ได้รับบอลจากกรอบเขตโทษฝั่งขวา เขาแหงน มองหน้าหาเพื่อนที่ยืนรออยู่เสาไกล แต่ไม่รู้ว่า ซาก้า ตั้งใจ หรือ ยิงผิดเหลี่ยมกันแน่ เพราะบอลมันกลายเป็นว่าไซร้ย้อยข้ามหัวไปชนิดที่แบบ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตู เชลซี งงเป็นไก่ตาแตก ว่าบอลมันย้อยเข้าไปได้อย่างไร แต่มันถือว่าเป็นประตูที่ส่งให้ อาร์เซน่อล ขึ้นนำ 3-0 ก่อนที่จบเกมแล้วเจ้าตัวจะบอกว่า "ผมตั้งใจครับ" หลังจากนั้นบอกเลยว่า ไอ้ปืนใหญ่ มีโอกาสยิงขึ้นนำ 4-0 อยู่หลายครั้งมาก โดยเฉพาะลูกยิงชนคานของ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ และแล้วจากนั้น โมเมนตั้มของเกมก็ดูจะเหมือนเปลี่ยนไป เพราะว่า เชลซี มาได้ประตูตีตื้นไล่มา 1-3 จาก แทมมี่ อับราฮัม และ เหมือนเป็นตัวจุดประกายความหวัง

เปิดหรือยิง? ซาก้า เผยคำตอบประตูซัดใส่ เชลซี ตั้งใจ หรือเปิดผิดเหลี่ยม (คลิกอ่าน)

- เลโน่ เซฟโมเมนตั้ม 3 แต้ม

หลังจากที่ เชลซี ตีไข่แตกไล่ อาร์เซน่อล มาเป็น 1-3 ต้องบอกเลยว่า โมเมนตั้มตอนนั้น กลับมาสู่ทาง สิงห์บลูส์ หมดแล้ว เรียกว่าเดินมาพับสนามบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว และ ในช่วงที่กำลังจะครบ 90 นาที สิ่งที่แฟนบอล "ไอ้ปืนใหญ่" ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็คือ พวกเขามาเสียจุดโทษ แถมตอนนั้นผู้ตัดสินที่ 4 ชูป้ายทดเจ็บ 5 นาที !! ถ้าไล่มา 2-3 บอกเลยว่า อาร์เซน่อล งานเข้าแน่ เพราะตอนนั้น อกสั่นขวัญแขวน ไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์ เชลซี มือวางยิงจุดโทษเบอร์ 1 ของทีม ใช้สเต็ปเดิม กระโดดเพื่อหลอกให้ผู้รักษาประตูเสียจังหวะ ก่อนแปรเลือกมุม แต่ทว่า แบรนด์ เลโน่ ไม่หลงทาง พุ่งปัดแบบเต็มมือ .. ไม่รู้ว่าแฟน สิงห์บลูส์ ยังอยากให้ จอร์จินโญ่ ยิงอีกไหม แต่นั่นคือเซฟสำคัญ ที่ เลโน่ ช่วยให้ โมเมนตั้ม ของ อาร์เซน่อล กลับคืนมา และ เป็นการเซฟ 3 คะแนนให้กับ "ไอ้ปืนใหญ่" ไปเลยก็ว่าได้ ต่อให้ยกป้ายทดเวลาบาดเจ็บอีก 5 นาที เพราะจากนั้น ไอ้ปืนใหญ่ ก็รักษาสกอร์จนจบเกม และ เก็บ 3 คะแนน

ฮาย ฮาวดี้-

logoline