logo-heading

ถึงตอนนี้ก็เรียบร้อยแล้ว เมื่อ เมซุต โอซิล ได้กลายร่างเป็นแข้งใหม่ของ เฟเนร์บาห์เช่ ส่วนกับ อาร์เซนอล นั้นเป็นแค่อดีตที่หอมหวานที่ผ่านช่วงเวลาหลากอารมณ์มามากมาย หลังจากที่ เสี่ยโอซิล ตอนนี้หอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่ที่ ตุรกี เรียบร้อย รอแค่ว่าจะลงสนามให้กับทีมใหม่ตอนไหน 

ไหนๆ เมซุต โอซิล ก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแข้งระดับท็อปของ อาร์เซน่อล ทั้งที ดังนั้นเพื่อเป็นการให้เกียรติสำหรับเขาวันนี้ทาง "ขอบสนาม" จะขอพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปดู 10 โมเมนต์อันน่าจดจำของ เมซุต โอซิล กับชีวิต 7 ปีที่ อาร์เซน่อล กัน มาดูกันว่าคุณจำช่วงเวลาเหล่านี้ได้ไหม ? 

เปิดตัวได้สวยหรู

FBL-ENG-PR-SUNDERLAND-ARSENAL อาร์เซน่อล จัดการเซ็นสัญญาคว้าตัว เมซุต โอซิล มาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2013 นับเป็นนักเตะของ อาร์เซน่อล ที่ค่าตัวแพงที่สุด ณ ตอนนั้น เช่นเดียวกับการเป็นนักเตะเยอรมันที่ค่าตัวแพงที่สุดด้วย โดยเจ้าตัวได้ลงสนามประเดิมเกมแรกในสีเสื้อ "ปืนใหญ่" ในวันที่ 13 กันยายน ซึ่งมีคิวบุกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ผลปรากฏว่าเพียงแค่ 11 นาทีเท่านั้น เมซุต โอซิล ก็แผลงฤทธิ์ด้วยการทำแอสซิสต์แรกได้ทันที หลังผ่านบอลให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ยิงประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะ 3-1

เปิดซิงประตูแรก

เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่ อาร์เซน่อล เจอกับ นาโปลี ฟอร์มการเล่นในเกมนั้นมันแสดงให้เห็นว่าทำไม อาร์แซน เวนเกอร์ ถึงอยากได้ตัว เมซุต โอซิล มาร่วมทีมนักหนา ไม่ว่าจะเป็นการเล่นบอลแบบสุขุมเยือกเย็น, การครองบอลและการผ่านบอลที่ยอดเยี่ยม ไหนจะมีวิสัยทัศน์และการสร้างสรรค์เกมที่ดีเยี่ยม โดยในเกมๆ นั้น โอซิล สามารถเปิดซิงประตูแรกได้ในสีเสื้อ อาร์เซน่อล อีกทั้งยังลากบอลเข้าสู่พื้นที่อันตรายของศัตรูและจ่ายให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ซัลโวประตูปิดกล่อง 2-0 อีกด้วย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แฟนๆ "เดอะ กันเนอร์ส" จะหลังรักพี่แกตั้งแต่แรกพบ

โกงความตายจาก ลิเวอร์พูล

หนึ่งในโมเมนต์ที่น่าจดจำมากๆ ของ อาร์เซน่อล และ เมซุต โอซิล ยามเจอกับทีมยักษ์ใหญ่ด้วยกันบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก มันต้องมีเกมที่บิ๊กแมตช์ที่เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เจอกับ ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงธันวาคมปี 2017 แน่นอน เพราะเกมนั้น "ปืนใหญ่" ต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังถึง 0-2 ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง แต่แล้วในระยะเวลาเพียงแค่ 5 นาที อาร์เซน่อล ก็สามารถกลับคืนสู่เกมได้สำเร็จ โดยได้ประตูจาก อเล็กซิส ซานเชซ นาที 53 และ กรานิต ชาก้า นาที 56 ก่อนที่นาที 58 เมซุต โอซิล ได้กระชากพาบอลเข้ากรอบเขตโทษของศัตรูและทำชิ่ง วัน-ทู กับ อเล็กซองเดร ลากาแซตต์ ทั้งที่มีผู้เล่น ลิเวอร์พูล รายล้อมอยู่หลายคน ก่อนจะเข้าไปแปยัดเสาแรกให้ "ไอ้ปืนใหญ่" แซงนำ 3-2 ถึงแม้สุดท้ายเกมจะจบลงที่การเสมอ 3-3 แต่อย่างน้อย อาร์เซน่อล ก็สามารถหลีกเลี่ยงจากการปราชัยคาบ้านได้สำเร็จ เพราะตอนนั้น ลิเวอร์พูล เองก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทีมที่เกมรุกน่ากลัวสุดๆ เหมือนกัน และจังหวะการเข้าทำนั้นของ โอซิล ก็ได้รับคำชมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ฉายแสงในเกมกับ เลสเตอร์

https://www.youtube.com/watch?v=TyE3cP27VoY&feature=emb_title ย้อนเวลากลับไปช่วงเดือนตุลาคมปี 2018 เกมที่ อาร์เซน่อล เปิดบ้านเจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ นั่นถือเป็นเกมที่ เมซุต โอซิล เล่นได้ท็อปฟอร์มสุดๆ เกมหนึ่งเลยในสีเสื้อของ อาร์เซน่อล เขาคือคนตีเสมอให้ทีมไล่ "จิ้งจอกสยาม" มาเป็น 1-1 ตามด้วยการจ่ายคิลเลอร์พาสจากครึ่งสนามให้ เอคตอร์ เบเยริน ป้อนต่อให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง เข้าชาร์จจ่อ ๆ  ก่อนจะปิดท้ายด้วยการสร้างจังหวะและจ่ายถวายพานให้ โอบาเมอยอง ซัดจ่อๆ พา อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายพลิกกลับมาชนะได้ 3-1 ส่วนสถิติเด่นๆ ของ โอซิล ในเกมดังกล่าวมีดังนี้ ผ่านบอลสำเร็จ : 91.2% ดวล 1-1 กับศัตรู : ชนะ 6 จาก 7 ครั้ง จ่ายบอลสำคัญ : 5 ครั้ง เลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ : 2 ครั้ง สร้างโอกาสทอง : 2 ครั้ง ครอสส์บอลสำเร็จ : 100% วางบอลยาวสำเร็จ : 100% ยิงได้ : 1 ประตู แอสซิสต์ : 1 ครั้ง

ลูกยิงที่สวยที่สุดในชีวิต

เมื่อคุณได้ชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลอาชีพไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นในตำแหน่งไหนก็ตามแน่นอนว่าคุณต้องมีประตูหรือลูกยิงที่คุณชอบมากที่สุดอยู่แล้วซึ่งสำหรับ เมซุต โอซิล ประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุดเกิดขึ้นในฤดูกาล 2016-17 เป็นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มที่เจอกับ ลูโดโกเร็ตส์ มันเป็นจังหวะที่ อาร์เซน่อล ตัดบอลได้ตรงกลางสนามจากนั้น โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ก็สาดโด่งขึ้นหน้าให้กับ เมซุต โอซิล โซโล่ลุยเดี่ยว ก่อนจะกระดกบอลข้ามหัวผู้รักษาประตู มิลาน บอร์ยาน 1 จังหวะและล็อคหลบเล่นงานคู่แข่ง 2 คนจนหงายเก๋ง ก่อนจะแต่งเข้าซ้ายเข้าไปยิงโล่งๆ พร้อมกับเป็นประตูชัยพา อาร์เซน่อล เข้าวินไปด้วยสกอร์ 3-2 และแน่นอนว่าวันนั้น เมซุต โอซิล คือ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ด้วย

แอสซิสต์มากที่สุดใน 1 ซีซั่น

สมแล้วที่ เมซุต โอซิล ได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์คนหนึ่งที่ดีที่สุดในยุคนี้ หากดูจากสถิติการสร้างสรรค์เกมและจำนวนการทำแอสซิสต์ตลอดช่วงที่ผ่านมา ย้อนเวลากลับไปในซีซั่น 2015-16 เมซุต โอซิล ได้สร้างสถิติเป็นผู้เล่นที่แอสซิสต์มากที่สุดที่ 19 ครั้งต่อ 1 ซีซั่นใน พรีเมียร์ลีก เกือบทำสถิติเทียบเท่ากับยอดตำนานอย่าง เธียร์รี่ อองรี ที่เคยทำไว้ที่ 20 ครั้งต่อซีซั่นในฤดูกาล 2002-03

แชมป์ เอฟเอ คัพ

FBL-ENG-FACUP-ARSENAL-CHELSEA ถึงแม้ เมซุต โอซิล จะไม่สามารถพา อาร์เซน่อล สัมผัสกับถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้เลยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นการบันทึกแชมป์ เอฟเอ คัพ ถึง 3 สมัยมันจึงมีความหมายมากๆ สำหรับเขา โดยแชมป์ เอฟเอ คัพ 2 สมัยแรก เมซุต โอซิล ได้ลงเล่นรวมกันไป 10 นัด ยิงได้ 2 ประตู และทำได้ 4 แอสซิสต์ ส่วนสมัยที่ 3 ในฤดูกาล 2016-17 ถึงแม้ เมซุต โอซิล จะได้ลงเล่นไปแค่ 3 นัดเท่านั้น แต่เขาก็มีส่วนสำคัญที่พา อาร์เซน่อล เป็นแชมป์จากการทำได้ 1 แอสซิสต์สำคัญในรอบชิงชนะเลิศที่เจอกับ เชลซี 

กันเนอร์ซอรัส

Gunnersaurus ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 แน่นอนว่ามันส่งผลหนักมากกับเรื่องเศรษฐกิจโลก เหล่าบรรดาสโมสรยักษ์ต่างก็หาวิธีเอาตัวรอดทั้งนั้นในการประหยัดรายจ่ายซึ่งทาง อาร์เซน่อล ได้ตัดสินใจสั่งปลด เจอร์รี่ คาย ผู้ที่สวมมาสค็อต "กันเนอร์ซอรัส" ออกจากตำแหน่ง ทั้งที่ภักดีและถือเป็นส่วนสำคัญของทีมมายาวนานถึง 27 ปี เพราะทางสโมสรมองว่าการไม่มีแฟนบอลเข้าชมเกมในสนามมันก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้งานเจ้า "กันเนอร์ซอรัส" อีกต่อไป แต่แล้วท้ายที่สุด เมซุต โอซิล ที่รับค่าเหนื่อยกับ อาร์เซน่อล สูงถึง 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ได้เสนอตัวอาสาขอจ่ายค่าแรงให้เจ้า "กันเนอร์ซอรัส" เอง เพื่อให้เจ้าตัวนี้ได้อยู่เคียงข้างกับสโมสรต่อไป เล่นหักหน้าเหล่าบรรดาบอร์ดบริหารจนดูกลายเป็นผู้ร้ายไปเลย

ใจหล่อมาก

Inside Arsenal star Ozil นอกจากจะยื่นมือเข้าไปช่วยบุคลากรคนสำคัญของ อาร์เซน่อล อย่าง “กันเนอร์ซอรัส” แล้ว หารู้ไม่ว่าตัวของ เมซุต โอซิล เองยังใช้เงินของตัวเองช่วยเหลือผู้คนอีกมากด้วย ไม่ว่าจะเป็นการควักเงินบริจาคค่าอาหารช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้จำนวน 1,400 มื้อต่อวันให้กับ 11 โรงเรียนที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอังกฤษในช่วงวิกฤต โควิด-19 ตลอดจนการช่วยเหลือเพื่อนชาวมุสลิมด้วยกันในช่วงระหว่างเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอด ด้วยการซื้ออาหารแจกให้กับชาวมุสลิม 16,000 ปอนด์ (ราว 608,000 บาท) และอีก 2,000 ชุดมอบให้กับครอบครัวชาวตุรกี และซีเรีย นอกจากนี้ในงานวิวาห์ของเจ้าตัวกับแฟนสาว อามีน กุลเซ่ นางแบบสาวดีกรีมิสตุรกีปี 2014 เมซุต โอซิล ได้ประกาศเลยว่าพี่แกนั้นไม่ต้องการของขวัญหรืออะไรก็ตามที่เป็นการแสดงความยินดี แต่ขอเปลี่ยนเป็นการให้แขกที่มาในงานบริจาคเงินให้กับโครงการ Big Shoe แทนซึ่งเป็นแคมเปญที่ โอซิล ร่วมสนับสนุนมาเป็นเวลานานกว่า 6-7 ปีแล้ว โดยโครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อนำเงินบริจาคไปใช้เพื่อรักษาให้กับเด็กในประเทศที่กำลังพัฒนาหรือที่ต้องการได้รับการรักษาจากโรคต่างๆ 

ความเป็นมืออาชีพ

Wright noticed something “นี่คือข้อความที่ยากลำบากในการส่งถึงแฟนๆ อาร์เซน่อล ซึ่งตัวผมนั้นได้ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล มานานหลายปี มันเป็นความรู้สึกที่ผิดหวังสุดๆ ที่ความเป็นจริงตอนนี้ผมไม่มีชื่อลงแข่งในศึก พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ตอนผมเซ็นสัญญาตอนปี 2018 ผมให้คำมั่นสัญญาว่าผมจะซื่อสัตย์และจงรักภักดีกับสโมสรที่ผมรักนั่นก็คือ อาร์เซน่อล และมันก็ทำให้ผมเจ็บปวดสุดๆ ที่เรื่องนี้มันไม่ได้รับการตอบสนองเลย ผมเพิ่งจะมาค้นพบว่าทุกวันนี้ความจงรักภักดีมันหาได้ยากมากจริงๆ” “ก่อนจะถึงช่วงพักเบรกโควิด ผมมีความสุขมากกับพัฒนาการของเราภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เราเดินมาถูกทางแล้ว และผมก็อยากบอกว่าฟอร์มการเล่นของผมก็อยู่ในระดับที่ดีเช่นกัน แต่จากนั้นหลายๆ สิ่งก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง และผมก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เล่นฟุตบอลกับ อาร์เซน่อล อีกแล้ว” “ผมจะพูดอะไรได้อีกล่ะ ? ลอนดอน ยังคงเหมือนเป็นบ้าน ผมยังมีเพื่อนอีกหลายคนในทีม และก็ยังรู้สึกได้ดีถึงคอนเน็คชั่นที่แข็งแกร่งจากแฟนบอล ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ผมจะสู้ต่อไปเพื่อโอกาสของตัวผมเอง และจะไม่ปล่อยให้ฤดูกาลที่ 8 ของผมกับ อาร์เซน่อล ต้องลงเอยแบบนี้ ผมสามารถให้สัญญากับคุณได้ว่าการตัดสินใจที่ยากลำบากนี้มันจะไม่เปลี่ยนอะไรในความคิดของผม ผมจะฝึกซ้อมต่อไปให้ดีที่สุดเท่านี่ผมสามารถทำได้ และไม่ว่าจะยังไงก็ช่างผมใช้เสียงของผมต่อต้านความไร้มนุษยธรรม เพื่อความยุติธรรม” นี่คือข้อความที่ เมซุต โอซิล ได้ระบายออกมาจากหลัง มิเกล อาร์เตต้า ได้ตัดชื่อเขาทิ้งจากทีม อาร์เซน่อล ชุดลุยศึก พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ถึงแม้พี่แกจะคิดว่ามันเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ โอซิล ก็ยังคงพยายามและมุ่งมั่นซ้อมหนักในทุกๆ วันเพื่อรอวันที่จะได้กลับไปช่วยทีมอีกครั้ง ถึงสถานะภายใยทีม เมซุต โอซิล จะกลายเป็นส่วนเกินหรือนักเตะที่ถูกลืม แต่ในใจและความคิดของกลุ่มสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" มันไม่ได้เป็นแบบนั้นตามไปด้วยเลย เพราะตัวของ โอซิล ได้ทำในสิ่งที่ใครๆ ต่างก็ชื่นชมนั่นก็คือสปิริตและการเฝ้าให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอผ่านทางโซเชี่ยล ยกตัวอย่างเช่น เกมที่ อาร์เซน่อล หญิง ต้องเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมหญิง พี่แกโพสต์ข้อความว่า "ขอให้โชคดีนะสาว ๆ ของเรา สำหรับเกมใหญ่ในวันนี้" ตามด้วยเกมที่ แมนฯ ซิตี้ เจอกับ ลิเวอร์พูล ทาง โอซิล ก็ได้โพสต์ต่อว่า "เอาล่ะ… เลิกพูดเรื่อง แมนฯ ซิตี้-ลิเวอร์พูล มาโฟกัสกันที่ของจริงวันนี้ #COYG" รวมถึงเกมที่ อาร์เซน่อล เจอกับ แอสตัน วิลล่า พี่แกก็โพสต์ข้อความว่า "ทวิต ทายผล : 2-1 สำหรับ อาร์เซน่อล กับทีมที่มีผู้รักษาประตูที่แข็งแกร่ง และกัปตันทีมที่เทคนิคน่าทึ่ง! ผู้ทำประตู : ลากาแซตต์กับ โอบาเมยอง & กรีลิช … พวกคุณล่ะคิดยังไง ?" ท้ายที่สุดแล้ว เมซุต โอซิล ก็ไม่สามารถเปลี่ยนชะตากรรมของตัวเองได้ เขาไม่สามารถเอาชนะใจ มิเกล อาร์เตต้า และกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของ อาร์เซน่อล ได้ แต่เชื่อได้เลยว่าทุกเรื่องราวดีๆ และทุกการกระทำทั้งหมดของพี่แกที่สร้างไว้ตลอด 7 ปีจะอยู่ในใจของแฟนๆ "เดอะ กันเนอร์ส" ตลอดไปอย่างแน่นอน 

HaMu Dos Santos

ส่วนหนึ่งของข้อมูล : 90min ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline