logo-heading

ปัจจุบันนี้มีนักเตะเอเชียฝีเท้าดีมากมาย และแน่นอนว่าเป้าหมายของแข้งเอเชียแทบทุกคนคือการได้ไปค้าแข้งในลีกยุโรป หากเป็น 5 ลีกใหญ่ได้ก็ยิ่งดี เพราะมันจะทำให้มูลค่าราคาค่าตัวของตัวเองพุ่งสูงขึ้น ค่าเหนื่อยก็มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งล่าสุดเว็บ Transfermarkt ก็ได้ทำการประเมินค่าตัว 10 แข้งเอเชียที่แพงที่สุดในปัจจุบันออกมาด้วย จะมีใครบ้างนั้น ไปดูกันเลย

10.อารอน มอย - 8.5 ล้านยูโร

  อดีตกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ไบร์ทตัน ปัจจุบันในวัย 30 ปี พี่แกไปโกยเงินหยวนอยู่ที่ศึก ไชนีส ซูเปอร์ลีก จีน โดยค้าแข้งให้กับสโมสร เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ซึ่งจริงๆ เดิมที แข้งทีมชาติออสเตรเลียรายนี้ มีราคาประเมินที่สูงกว่านี้ ทว่าพอตัดสินใจโบกมือลาเวที  พรีเมียร์ลีก ไปเล่นในแดนมังกร เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว ก็เลยถูกประเมินราคาต่ำลงมาจนหลุดมาอยู่ในอันดับที่ 10 ที่จำนวน 8.5 ล้านยูโร ส่วนผลงานกับ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ก็ไม่ได้แย่อะไร มอย ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันลงไปแล้ว 17 เกม ทำได้ 1 ประตู โอเคล่ะครับว่า ออสเตรเลีย หลายคนจะไม่นับว่าเป็นเอเชีย เพราะว่าเป็นฝรั่ง แต่ว่า ในเมื่อชาติของพวกเขามาเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซน เอเชีย ก็ถือว่าต้องนับพวกเขามาด้วย  

9.ทาคูมิ มินามิโนะ - 10 ล้านยูโร

  ดาวเตะหน้าหล่อขวัญใจแฟนบอลสาวๆ ของ ลิเวอร์พูล รายนี้แม้ผลงานจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างและโดดเด่นเหมือนหน้าตา ทว่าก็ยังติดมาอยู่ในลิสต์ลำดับที่ 9 ด้วยค่าตัวประเมินเบื้องต้นที่ 10 ล้านยูโร ซึ่งก็ถือว่ามากกว่าที่ "หงส์แดง" จ่ายค่าฉีกสัญญากระชากตัว มินามิโนะ มาจาก เร้ด บลูส์ ซัลซ์บวร์ก เมื่อช่วงต้นปี 2020 อยู่ราว 2 ล้านยูโรด้วยกัน แต่จะว่าไปการได้อยู่กับทีมระดับหัวกะทิอย่าง ลิเวอร์พูล รวมถึงมีดีกรีเป็นถึงแชมป์ พรีเมียร์ลีก ดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นรายนี้ ควรจะได้รับการประเมินค่าตัวที่สูงกว่านี้นะ  ทว่าเหตุผลก็อย่างที่เรารู้กันว่าเจ้าตัวโชว์ฟอร์มไม่ออก เป็นได้แค่ตัวสำรองถาวรของทัพ "หงส์แดง" ซึ่งพอได้รับโอกาสลงสนามก็ยังทำได้ไม่ดีพอด้วย ฉะนั้นค่าตัวประเมินเลยอยู่แค่ 10 ล้านยูโรเท่านั้น แต่ถ้าเล่นดี อยู่ทีม แม่เล็กแบบ “หงส์แดง” แล้วล่ะก็ ค่าตัวกระฉูดแน่นอนครับ

8.เมห์ดี ทาริมี่ - 12 ล้านยูโร

  กองหน้าทีมชาติอิหร่านวัย 28 ปี เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังย้ายจาก ริโอ อาฟ มาอยู่กับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เอฟซี ปอร์โต้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว ทว่าช่วงแรกเจ้าตัวก็เป็นได้แค่อะไหล่ ส่วนใหญ่ก็เป็นตัวสำรอง ทว่าไปๆ มาๆ พอได้รับโอกาส ทาริมี่ ก็มักจะทำได้ดี จนในที่สุดก็เริ่มสอดแทรกเป็นตัวจริงได้บ้างแล้ว โดยฤดูกาลนี้ลงเล่นในลีกให้ ปอร์โต้ ไป 15 นัด ซัด 7 ประตู สถิติถือว่าไม่ธรรมดา ไชยามิตรชัย ส่วนผลงานกับทีมชาติอิหร่านก็แจ่มแมวแวววับใช้ได้ ตะบันไป 22 ประตู จาก 46 เกมในการรับใช้ชาติ ซึ่งฟอร์มระดับนี้ หากว่ายังทำแบบนี้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถิติการถล่มประตู บางทีเราอาจะได้เห็นเขาในลีกที่ใหญ่กว่านี้ก็ได้ เพราะว่า ปอร์โต้ เอง ก็ไม่ใช่ทีมที่ปิดกั้นโอกาสนักเตะอยู่แล้ว หากว่าเงินถึงพวกเขาก็พร้อมที่จะขายเช่นเดียวกัน  

7.อี คัง-อิน - 15 ล้านยูโร

  แม้จะลืมตาดูโลกที่เมือง อินชอน ประเทศเกาหลีใต้ แต่ อี คัง-อิน ก็ถูก บาเลนเซีย ดึงตัวมาฝึกปรือวิชาลูกหนังตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าไต่เต้าขึ้นมาติดทีมชุดยู-19 ขึ้นมาติดทีมชุดสำรอง ก่อนจะได้รับโอกาสให้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของทัพ "ไอ้ค้างคาว" ครั้งแรกเมื่อปี 2018 ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งจะอายุแค่ 17 ปีเท่านั้น โดยหลังจากนั้นก็ได้รับโอกาสให้ลงเล่นเรื่อยๆ และทำผลงานดีขึ้นตามลำดับในฐานะมิดฟิลด์ตัวรุกที่สามารถถ่างออกไปเล่นด้านข้างได้ ปัจจุบันในวัย 19 ปี คัง-อิน ลงเล่นให้ บาเลนเซีย ไปแล้วมากถึง 50 นัด ซัดไป 3 ประตู ฉะนั้นก็ไม่น่าแปลกใจที่จะถูกประเมินค่าตัวเอาไว้ที่ 15 ล้านยูโร ซึ่งมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กับการได้เป็นนักเตะของ บาเลนเซีย ใน ลา ลีกา สเปน ยังไงดีกรีก็ไม่ธรรมดาแน่นอน  

6.ฮวาง ฮี-ชาน - 15 ล้านยูโร

  อีกหนึ่งแข้งผลผลิตจากแดนกิมจิ ฮวาง ฮี-ชาน โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับ เร้ดบลูส์ ซัลซ์บวร์ก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยได้ลงเล่นไป 40 นัด ยิงได้ 16 ประตู ทำให้สโมสรแม่ที่มีเจ้าของเป็นกลุ่มเดียวกันอย่าง อาร์เบ ไลป์ซิก กระชากตัวไปร่วมทีม ทว่ามันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของทั้ง ไลป์ซิก และ ฮี-ชาน เพราะ ดาวยิงวัย 25 ปี แทบไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้ ไลป์ซิก เลย โดยได้ลงเล่นใน บุนเดสลีกา ไป 7 นัด ซึ่งทั้ง 7 นัดคือการลงเล่นเป็นตัวสำรองทั้งหมด และยังยิงไม่ได้เลยสักประตูเดียว อย่างไรก็ตามก็ยังได้รับการประเมินค่าตัวอยู่ที่ 15 ล้านยูโร เท่ากับ อี คัง-อิน รุ่นน้องร่วมทีมชาติเกาหลีใต้ ซึ่งบางทีเขาอาจจะต้องย้ายออกมา หากว่าไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งในทีมได้ ไม่อย่างนั้น มีแต่จะมูลค่าตกมากกว่านี้   

5.ไดจิ คามาดะ - 16 ล้านยูโร

  ย้อนกลับไปในปี 2017 ไอทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ควักกระเป๋า 2.5 ล้านยูโร คว้าตัว คามาดะ มาจาก สากัน โทสุ ซึ่งตอนนั้น คามาดะ เพิ่งจะอายุแค่ 20 ขวบ ซึ่งแน่นอนว่าซื้อมาเพื่ออนาคตไม่ได้หวังให้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงทันทีทันใด ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ กองกลางทีมชาติญี่ปุ่นได้ลงเล่นแค่ 4 นัดทั้งฤดูกาล จากนั้นในซีซั่น 2018/19 แฟรงค์เฟิร์ต ก็ปล่อยให้ แซงต์-ทรุยดอง ในลีกเบลเยี่ยม ยืมตัวไปใช้งาน และที่นี่นี่เองที่เวลของ คามาดะ อัพขึ้นอย่างชัดเจน เขาได้ลงเล่นต่อเนื่องและทำผลงานได้อย่างโดดเด่น กดไป 16 ประตู กับ 9 แอสซิสต์ จาก 36 นัด ซึ่งถือว่ามากโขสำหรับนักเตะในตำแหน่งกองกลาง จากนั้นฤดูกาลถัดมาก็กลับมากลายเป็นแข้งตัวหลักของ แฟรงค์เฟิร์ต จวบจนถึงปัจจุบันวันนี้ และกลายเป็นหนึ่งในแข้งที่น่าจับตามองมากที่สุดของทีมเลยทีเดียว  

4.ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ - 18 ล้านยูโร

  แนวรับทีมชาติญี่ปุ่นได้ย้ายไปโลดแล่นในยุโรปตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยเป็น แซงต์-ทรุยดอง ในลีกเบลเยี่ยม ที่พรากตัว โทมิยาสุ ไปจาก อวิสปา ฟูกูโอกะ เมื่อปี 2017 ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีกับ แซงต์-ทรุยดอง จนฟอร์มการเล่นไปเข้าตา โบโลญญ่า ทีมใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ควักกระเป๋า 9 ล้านยูโรคว้าตัวเขาเข้ามาร่วมทีม เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2019 และใช้เวลาไม่นานก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ ที่สำคัญคือนอกจากจะเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟแล้ว โทมิยาสุ ยังสามารถถ่างออกไปเล่นเป็นฟลูแบ็กได้อีกด้วย ทำให้ในฤดูกาลนี้ แข้งวัย 22 ปี ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ โบโลญญ่า ใน เซเรีย อา ทุกนัด และเป็นตัวจริงทั้งหมด แถมไม่เคยโดนเปลี่ยนออกเลยแม้แต่เกมเดียว! 

3.ทาเคฟูซะ คุโบะ - 20 ล้านยูโร

  อดีตเด็กปั้นของศูนย์ฝึกเยาวชนระดับโลกอย่าง ลา มาเซีย ของ บาร์เซโลน่า ที่ทุกวันนี้ชีวิตพลิกผันได้ย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด แทนซะอย่างงั้น เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า คุโบะ เป็น 1 ใน 9 นักเตะที่ "เจ้าบุญทุ่ม" เซ็นสัญญามาแบบผิดกฎ ทำให้ลงเล่นไม่ได้ ได้แค่ซ้อมเท่านั้น ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจโบกมือลาขอกลับบ้านเกิดไปอยู่กับ เอฟซี โตเกียว เมื่อปี 2016 แต่กลับบ้านไปได้แค่ 3 ปี โชคชะตาก็มีอันให้กลับมาแดนกระทิงดุอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ย้ายฟากมาอยู่กับ เรอัล มาดริด ซึ่งแม้ตอนนี้จะยังไม่ได้เปิดซิงลงเล่นให้ทัพ "ราชันชุดขาว" แต่การถูกปล่อยให้ มาร์ยอก้า, บียาร์เรอัล และล่าสุดคือ เกตาเฟ่ ปีกวัย 19 ปีรายนี้ก็ทำผลงานได้ดีพอตัว ดูแล้วน่าจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ หากไม่หลงแสงสีเสียคนไปซะก่อน  

2.ซาดาร์ อัซมูน - 23 ล้านยูโร

  หัวหอกวัย 25 ปี เจ้าของฉายา "เมสซี่ อิหร่าน" กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย โดยฤดูกาลที่แล้วกดไป 11 ประตู จาก 15 นัดในลีก ซึ่งจริงๆ ก็ต้องบอกว่า อัซมูน เล่นได้ดีมาตลอดนับตั้งแต่ย้ายจาก รูบิน คาซาน มาอยู่กับ เซนิต เมื่อช่วงต้นปี 2018 ด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร เพราะรวมแล้วเจ้าตัวซัดไปมากถึง 44 ประตู จาก 72 นัด กลายเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมไปแบบไร้คู่แข่ง ส่วนในนาทีมชาตินั้นก็กดไป 33 ประตูจาก 51 เกม ค่าตัวประเมิน 23 ล้านยูโร เผลอๆ จะถูกไปด้วยซ้ำกับผลงานระดับนี้ ซึ่งถ้าหากจะบอกว่า อัซมูน คือนักเตะอิหร่านที่ดีที่สุดของยุคนี้ก็คงไม่ใช่คำยกย่องที่เกินเลยไป เพราะว่าฝีเท้าของเขาคือของจริง ซึ่งก็อยู่ที่เวลาเท่านั้นว่าจะมีทีมจากลีกใหญ่ทีมไหนที่พรากเขาออกจากลีกรัสเซียได้ เพราะบอกเลยว่าไม่ง่ายอย่างแน่นอน  

1.ซน ฮึง-มิน - 90 ล้านยูโร

  ไม่ต้องลุ้นอะไรให้มันวุ่นวาย อันดับที่ 1 ของลิสต์นี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "ตี๋ซน" โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานในฤดูกาลนี้ที่ต้องบอกเลยว่า โหดสัสรัสเซีย เพราะเฮียแกเล่นคู่สอดประสานร่วมงานกับ แฮร์รี่ เคน ได้อย่างสะเด็ดสะเด่าเร้าใจ ตะบันไปแล้ว 12 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์ จาก 20 เกม จนถูกยกให้เป็นนักเตะเอเชียที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์โลกลูกหนัง ซึ่งค่าตัวประเมินของ ตี๋ซน ในวัย 28 ปี ก็อยู่ที่ 90 ล้านยูโร แต่เรียนตามตรง ราคานี้เผลอๆ สเปอร์ส จะไม่ยอมขายด้วยซ้ำ! เพราะถ้าจะปล่อยจริง ๆ คงจะมีทะลุ 100 ล้านอย่างแน่นอนครับผม  

ชิน ชินพัฒน์

logoline