ไม่ได้มีการพลิกโผแต่อย่างใดสำหรับว่าที่ประธานสโมสรคนใหม่หน้าเก่าของ บาร์เซโลน่า นั้นก็คือ โจน ลาปอร์ต้า ที่เข้าวินจากการโหวตลงคะแนนผู้ท้าชิงเก้าอี้ประธานสโมสร ภายหลังมีการประกาศคะแนนอย่างเป็นทางการออกมา
ซึ่งจะว่าไปนี่ถือว่าเป็นชนะแบบถล่มททลายเหนือคู่แข่งมากพอสมควรที่จำนวน 54.28% มากกว่าแคนดิเดตคนอื่นๆ อย่าง วิคตอร์ ฟอนท์ (29.99%) และ โตนี่ เฟรชา ที่ได้ไปเพียง 8.58% ถือว่าเป็นการคัมแบ็คกลับมานั่งเก้าอี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีมากเลยทีเดียว ว่าแล้วเราลองมาดูกันว่ามีสิ่งใดบ้างที่ ลาปอร์ต้า จะกลับมาเข้ามาฟื้นฟูทัพ "อาซูลกราน่า" และมีอะไรอีกที่เขาจะจัดการพาสโมสรแห่งนี้ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งภาพลักษณ์ของสโมสร
ต้องยอมรับว่าช่วงปลายๆ ของ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ในบทบาทประธานสโมสร บาร์เซโลน่า เจ้าตัวสร้างเรื่องงามหน้าไว้ค่อนข้างเยอะ จนชื่อเสียงของสโมสรถูกมองในแง่ลบ ทั้งเรื่องของการคอรัปชั่นได้ผลประโยชน์ทั้งด้านการเงิน และผลประโยชน์อื่นใด จากดีลต่างๆ ที่ทำในนามของสโมสร บาร์เซโลน่า หรือประเด็นที่จ้างบริษัทสร้างเว็บไซต์ภายนอกมาดิสเครดิตเหล่าอดีตกุนซือ, อดีตนักเตะ รวมไปถึงนักเตะในทีมชุดปัจจุบัน จนเรื่องราวบานปลาย ฉะนั้นแล้วนี่คือโจทย์ใหญ่ที่ ลาปอร์ต้ เข้ามา และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แฟนบอลรวดเร็วที่สุด ทำทุกอย่างต้องโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ รวมไปถึงไม่มีเล่นลูกลับหลังคอยแทงข้างหลัง แบ่งพักพวกออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งถ้าเขาสามารถกู้ศรัทธาตรงนี้ให้กลับมาได้ภาพลักษณ์ของสโมสรก็จะเป็นด้านบวกมากขึ้น และมันทำให้นักลงทุนต่างอยากมาสนับสนุนสโมสรแห่งนี้มากขึ้นเช่นกัน
ตำแหน่งตัวกุนซือ
ย้อนกลับไปช่วงที่ ลาปอร์ต้าเดินหน้าหาเสียงหนึ่งในนโยบายที่เขาใช้คือการปรับเปลี่ยนตำแหน่งกุนซือ ซึ่งชื่อที่เขานำมาพูดถึง และสร้างอิมแพ็คต่อแฟนบอลได้มากพอสมควรเลยนั้นก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะนี่คือนายใหญ่ที่พาทีมพุ่งชนกับความสำเร็จได้มากที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์สโมสร และเมื่อมา บวกกับสถานการณ์ของทีมในตอนนี้ทำให้ชื่อของ เป๊ป ได้รับความสนใจทวีคูณเพิ่มมากขึ้น เพราะนี่คือบุคคลที่รู้ถึงซอกมุมของคัมป์ นู เป็นอย่างดี "ผมอยากให้ กวาร์ดิโอล่า กลับมาทำงานกับเรามากๆ แต่ตอนนี้เขาอยู่กับ ซิตี้ และมันเป็นการตัดสินใจที่ เป๊ป ควรจะทำ เขาเป็นมาตรฐานของ บาร์เซโลน่า และคนกาตาลันหลายคนก็อยากให้เขามาคุม บาร์เซโลน่า อีกครั้ง เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมแล้วนั้น ผมก็จะคุยกับคนที่เราคิดว่าควรจะมาเป็นโค้ชของ บาร์ซ่า ในปี 2021" นี่คือถ้อยคำที่ ลาปอร์ต้า เคยหล่นเอาไว้เมื่อครั้งหาเสียงช่วงกลางปี 2020 ถามว่ามีโอกาสเป็นไปได้ไหม? มันก็พอจะมีเปอร์เซ็นที่นายใหญ่รายนี้จะหวนกับมาบ้านหลังเก่าอีกครั้ง เพราะภารกิจที่รออยู่ถือว่าท้าทายความสามารถของเขามากพอสมควรในการช่วยให้ทัพ "อาซูลกราน่า" กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งซึ่งมันไม่ใช่แค่ในประเทศสเปน รวมไปถึงการเป็นเต้ยของวงการลูกหนังยุโรปอีกครั้ง และถามว่าทำไมถ้าเกิด คูมัน พาทีมกลับมาคว้าแชมป์ลาลีกา สเปน ได้ละ เขาก็ควรจะมีความชอบธรรมในการยกมือเรียกร้องความสำเร็จที่ทีมไปยืนบนจุดสูงสุด แต่ทว่าด้วยแนวทางการทำทีม และปรัชญาลูกหนัง โรนัลด์ คูมัน ไม่ได้รับความชื่นชอบจากแฟนบอลมากเท่าไหร่ รวมไปถึงการยอมรับจากบุคคลรอบข้างแทบไม่มีใครสนับสนุนเขาเลย ฉะนั้นนี้น่าจะเป็นเรื่องแรกๆ ที่ ลาปอร์ต้า จะต้องเคลียร์ให้จบเพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่ ซึ่งโอกาสที่ คัมป์ นู จะได้ต้อนรับนายใหญ่คนใหม่ดูแล้วก็มีโอกาสสูงไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว
ความสำเร็จ
โจน ลาปอร์ต้า เคยดำรงตำแหน่งประธานสโมสร บาร์เซโลน่า มานานถึง 7 ปี ตั้งแต่ในช่วงปี 2003-2010 ซึ่งถ้าจะว่าไปเขาคือหัวเรือใหญ่ที่ผลงานดีที่สุดคนหนึ่งของ บาร์เซโลน่า โดยในช่วงยุคสมัยของเขา บาร์เซโลน่า สามารถเถลิงบัลลังก์ ทริปเปิ้ล แชมป์ และได้ แชมป์สโมสรโลก ในปี 2009 ไหนจะมีแชมป์ ลา ลีกา สเปน อีก 4 สมัย เบ็ดเสร็จรวมทุกถ้วย บาร์เซโลน่า ในยุคของ โจน ลาปอร์ต้า คว้าแชมป์ไปทั้งหมด 12 โทรฟี่ ฉะนั้นแล้วการกลับมาครั้งนี้เป้าหมายสำคัญคือการพา บาร์เซโลน่า กลับไปอยู่ในจุดเดิมที่เขาเคยทำได้อีกครั้ง แม้ในสถานการณ์ปัจจุบันมันอาจจะยากไปหน่อยกับการพาทีมยูเทิร์นกลับมายิ่งใหญ่ได้เลย แต่ทว่าด้วยชื่อชั้นของ ลาปอร์ต้า มันก็มีโอกาสมากพอสมควรที่เขาจะทำงานหนัก เพื่อพาสโมสรแห่งนี้ไล่ล่าแชมป์ และทวงบัลลังก์เจ้าแห่งยุโรปอีกครั้งรั้ง เมสซี่ ให้อยู่กับทีม
“ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ เมสซี่ และเขาจะพิจารณาข้อเสนอที่ทำจะให้กับเขา ซึ่งถ้าผมไม่ชนะ ผมมั่นใจเลยว่า เลโอ ก็จะไม่อยู่ที่ บาร์เซโลน่า ส่วน เมสซี่ จะพิจารณาข้อเสนอที่เรายื่นให้กับเขา ผมเชื่อว่าถ้าผู้สมัครคนอื่นชนะ เมสซี่ จะไม่อยู่ที่ บาร์เซโลน่า เขาไม่มีความสุขเลยในช่วงที่ผ่านมา” “แน่นอนว่าเขาไม่ได้ถูกชักจูงด้วยเรื่องของเงิน เขาต้องการให้ทีมที่แข่งขันได้รับชัยชนะ ผมแน่ใจว่าเขาจะรับฟังข้อเสนอของผม เหมือนกับที่ผมมั่นใจว่าถ้าคนอื่นชนะ เขาเองก็จะเดินจากไป” นี่คือถ้อยคำที่ ลาปอร์ต้า หล่นไว้ก่อนที่การเลือกตั้งจะเกิดขึ้น เพราะนี่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ และเรื่องเร่งด่วนที่ประธานคนใหม่ผู้นี้ต้องสะสางให้เรียบร้อย ก่อนที่ม่านฤดูกาลนี้จะปิดลง เพราะนั้นก็เปรียบเสมือนสัญญาของ เมสซี่ กับ บาร์เซโลน่า จะหมดลงด้วยเช่นกัน ฉะนั้นแล้วภารกิจแรกอย่างแท้จริงของ ลาปอร์ต้า คือโน้มน้าวให้ เมสซี่ อยู่ต่อให้ได้ เพราะนี่คือแข้งตัวชูโรงของสโมสรในตอนนี้ และเปรียบเสมือนลมหายใจของ บาร์เซโลน่า ในตอนนี้อย่างแท้จริง- เปา ขอบสนาม -