logo-heading

ถ้าพูดถึงแคมเปญใหญ่สักหนึ่งอย่างที่วงการฟุตบอลใส่ใจ และยกขึ้นมาให้เป็นประเด็นสำคัญระดับต้นๆ เลยก็คือเรื่องของการเหยียดสีผิว หรือการเหยียดเชื้อชาติ ที่คนในแวดวงลูกหนังโดยเฉพาะนักฟุตบอลมักจะเป็นเป้าหมายโดนโจมตีอยู่เป็นประจำ

ซึ่งจะว่าไปสังคมยุคปัจจุบันมันล้ำสมัยเกินว่าที่จิตใจคนที่จะมัวแต่มาแบ่งแยกเรื่องสีผิว แบ่งชั้นว่ากูเป็นคนผิวขาว และรังเกียจคนผิวดำแบบมึง หรือคอยมาชี้หน้าด่าประณาม พ่นความคิดแบบทุเรศแบบนั้นออกมาทางโซเชียลได้แล้ว โดยเฉพาะในโลกแห่งวงการกีฬาเมื่อคุณไม่พอใจนักกีฬาฝ่ายที่ตัวเองเชียร์ยิ่งไม่ควรที่จะแสดงความคิดแบบนั้นออกมาเลย อย่างเช่นในกรณีล่าสุดที่ รีซ เจมส์ แข้งดาวรุ่งของ เชลซี ต้องโดนกับตัวเองที่มักโดนแฟนบอลมาคอมเม้นท์ในอินสตราแกรมส่วนตัวที่มีผู้ติดตามราว 1 ล้านคน  แน่นอนว่าด้วยจำนวนคนที่มากดโฟลโล่วเขามันเยอะเกินกว่าที่จะมามั่วคอยนั่งคัดกรอง บวกกับการเป็นบุคคลสาธารณะเขาเลยไม่ได้มีการตั้งเป็นส่วนตัว และได้เปิดบัญชีเป็นสาธารณะมันเลยทำให้กลุ่มแฟนบอลที่ไม่หวังดีเข้าไปกล่าวคำโจมตีต่างๆ ในวันที่เขาฟอร์มแย่ และมันลามปามไปจนถึงขั้นการเหยียดเรื่องของสีผิว ซึ่งนั้นคือเรื่องละเอียดอ่อนเกินกว่ามนุษย์คนนึงจะรับมันได้  Chelsea จากเหตุการณ์ในวันนั้นทางต้นสังกัดอย่าง เชลซี ก้ได้ออกมาปกป้อง รีซ เจมส์ พร้อมกับกล่าวประณามการกระทำของแฟนบอลกลุ่มดังกล่าวว่า  "สโมสรแห่งนี้ ไม่ยอมรับการเหยียดผิว และการแบ่งแยกทุกรูปแบบ และเราขอประณามการกระทำเหล่านั้นอย่างรุนแรง" "ในวงการฟุตบอล เช่นเดียวกับสังคมโดยรวม เราต้องสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีในโลกโซเชียล ซึ่งเป็นที่ที่ความเกลียดชังและการแบ่งแยกต่าง ๆ ไม่เป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกับในสังคมทั่วไป เราขอเป็นอีกหนึ่งเสียงเรียกร้องถึงผู้ใช้สื่อโซเชียล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการเร่งด่วนอย่างเข้มงวดและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม เพื่อต่อต้านการกระทำที่น่ารังเกียจนี้ บางอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง และควรเปลี่ยนทันทีตั้งแต่ตอนนี้เลย" ซึ่งจากเหตุการณ์วันนั้นที่เกิดขึ้นราวปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้ล่าสุด เจมส์ ได้ตัดสินใจปิดบัญชีอินสตราแกรมส่วนตัวของตัวเองอย่างเป็นทางการ เพราะเนื่องจากเหตุผลดังกล่าวที่มีบุคคลน่ารังเกียจ และไม่ประสงค์ออกมานามมาคอยด่า คอยเหยียดเกี่ยวกับผิวพรรณของเขาอยู่เรื่อยๆ เช่นนั้นแล้วการหายตัวไปจากแพลตฟอร์มดังกล่าวของ รีซ เจมส์ จึงเกิดขึ้นในวันที่เขาเองก็คงไม่ได้อยากจะปิดแอคเคาน์นั้นเช่นกัน รวมไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ 2 แข้งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่โดนกระทำค่อนข้างรุนแรงเช่นกัน จนทางตันสังกัด และเพื่อนลูกหนังได้ออกมาปกป้องเพื่อนมนุษย์ในครั้งนี้ อย่างที่ได้บอกไปในข้างต้นครับนี่คือเรื่องที่คนทั้งโลกกำลังให้ความสนใจ และรณรงค์กันอย่างสุดความสามารถที่จะกำจัดไอ้พวกคนใจอำมหิตเหล่านี้ให้มันหายไปจากโลกใบนี้เสียที อย่างวงการลูกหนังพวกเขาได้มีทั้งแคมเปญ No to racism และ  Black lives matter ออกมา แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้จิตใต้สำนึกของพวกผีห่าซาตานนี้มันรับรู้ถึงความเลวร้ายในสิ่งที่มันทำเลยสักนิดเดียว Premier League Teams Wear Black Lives Matter Uniforms | PEOPLE.com โอเคแหละครับว่าการที่คุณจะด่า หรือวิจารณ์นักฟุตบอลคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ผิด และเชื่อว่าแฟนบอลหลายคนก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน เพราะในฐานะผู้สนับสนุน หรือซัพพอร์ตเตอร์ของทีมคุณสามารถว่ากล่าวได้อย่างเต็มที่ในวันที่ทีมรักไม่ได้ผลการแข่งขันอย่างที่ใจหวัง หรือนักฟุตบอลคนนั้นผลงานมันห่วยแตกแบบรับไม่ได้  แต่ทุกอย่างมันต้องมีขีดจำกัด คำวิจารณ์เหล่านั้นควรเป็นเรื่องของผลงานล้วนๆ ไม่ว่าจะเล่นแย่ เล่นห่วย ไม่ขยัน หรือมึงพลาดง่ายๆ คุณสามารถพ่นคำวิจารณ์ออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่เพียงแค่ว่าอย่าได้ไปเอาปัจจัยภายนอกมาลามปาม และทำเกิดพฤติกรรมการ "บลูลี่" เข้ามายุ่งเกี่ยวเท่านั้นเอง การเหยียดหยามคนอื่น ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนทั้งเรื่องรูปร่าง, หน้าตา, สีผิว หรือชาติกำเนิด มันคือสิ่งที่น่ารังเกียจสุดๆ คุณไม่อาจไปประเมินค่า หรือลากเชื้อชาติของเขามาเป็นด่าเสียๆ หายๆ แบบนี้ได้เป็นอันขาด เพราะการกระทำแบบนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ตัวคุณเองดูสูงส่งขึ้นเลยแม้แต่น้อย แถมยังเป็นบุคคลที่ขยะแขยงอีกต่างหาก ทุกคนเขาก็รักชีวิตของตัวเองกันทั้งหมดแหละครับ นักฟุตบอลที่แม้เขาจะกินเงินสัปดาห์ละหลายแสนปอนด์ ใช้ชีวิตแบบสุขสบาย เขาก็มีหัวใจ เขาก็มีเรื่องบางอย่างที่ไม่อยากให้มากระทบกระทั่งจิตใจ เรื่องบางอย่างมันบอบบางเกินกว่าที่เราจะพยายามทำความเข้าใจ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นคนที่เหยียดมันไม่มีทางเข้าใจหัวอกผู้ถูกกระทำอย่างแน่นอน เพราะมัวแต่คิดเอาอารมณ์ส่วนตัว และคิดเพียงอยากสนุกเท่านั้น สุดท้ายไม่มีใครสามารถตอบคำถามได้ว่าไอ้พวกคนสถุนแบบนั้นจะจางหายไปได้เมื่อไหร่  ณ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือการรณรงค์เรื่องราวทั้งหมด และช่วยกันกำจัดเห็บหมัดร้ายๆ ให้มันจางหายไปให้หมดโดยเร็วที่สุด และก็ได้แต่ภาวนาว่าเรื่องราวแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกไม่ว่าจะเป็นกับใครบนโลกใบนี้ก็ตาม

- เปา ขอบสนาม- 

logoline