logo-heading

หลังจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด โชว์ความยอดเยี่ยม พาทีม กลาสโกว์ เรนเจอร์ส กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้าแชมป์ สก็อตติช พรีเมียร์ชิพ มาครอง ปิดฉากแชมป์ผูกขาดจาก กลาสโกว์ เซลติก ได้สำเร็จ ส่งผลให้พวกเขาสร้างสถิติเป็นแชมป์ลีกสูงสุด เยอะที่สุดกว่าทุกสโมสรในลีกทั่วยุโรป

หลายคนอาจมีภาพความทรงจำ อาทิ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ 20 สมัย แซงหน้า ลิเวอร์พูล ไป 1 สมัย แต่ถ้าหากติดตามเรื่องราว ขอบสนาม ท็อป เทน ต่อจากนี้ ท่านจะทราบเลยว่ามันมีอะไรที่เหนือกว่านั้น ว่าแล้วไปดูกันว่า 10 สโมสรไหนบ้าง ที่คว้าแชมป์ลีกมากสุดในลีกยุโรป ไปติดตามกันเลยครับ

10. สปาร์ต้า ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) – 33 สมัย

สปาร์ต้า ปราก ชื่อนี้น่าจะได้ยินกันพอสมควร เพราะเป็นทีมที่คร่ำหวอดบนเวทียุโรปแทบจะซีซั่น ไม่ไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็มีโควต้า ยูโรปา ลีก มารองรับ ซึ่งการได้มาเล่นฟุตบอลถ้วยบ่อยๆ นั่นก็หมายความว่าผลงานในลีกเช็ก เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม การคว้าแชมป์ลีกเช็ก 33 สมัย ของ สปาร์ต้า ปราก เป็นเหมือนการกินบุญเก่ามากกว่า เพราะตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 ที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีก ก็ไม่อาจรักษาบัลลังก์ได้อีกเลย ปล่อยให้ วิคตอเรีย เพลเซ่น หรือไม่ก็ สลาเวีย ปราก ผลัดกันครองแชมป์อยู่ตลอด ฉะนั้น สปาร์ต้า ปราก จำเป็นจะต้องเร่งผลงานขึ้นมา เพื่อไว้ลายเจ้าของสถิติแชมป์ลีกเช็กมากที่สุด แต่ทว่าซีซั่นนี้ ดูเหมือนก็จะต้องปล่อยให้ สลาเวีย ปราก คู่ปรับทีมสำคัญ คว้าแชมป์ลีกไปอีก เนื่องจากพวกเขามีแต้มตามหลังถึง 11 คะแนน ต่อให้รั้งรองจ่าฝูงก็ตาม

9. เรอัล มาดริด (สเปน) – 34 สมัย

ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรให้มากความอีกแล้วครับ สำหรับความยิ่งใหญ่ของ เรอัล มาดริด ราชันชุดขาวแห่ง ลา ลีกา สเปน แน่นอนว่าลีกแดน "กระทิงดุ" การแข่งขัน การขับเคี่ยว มันสูงมาก โดยเฉพาะการต่อสู้ แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับคู่แข่งเบอร์ 1 ตลอดกาล อย่าง บาร์เซโลน่า และ นั่นทำให้การติดตามลีกสเปน เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า ตำแหน่งแชมป์ ลา ลีกา สเปน จะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันอยู่แค่ 2 ทีม ไม่ มาดริด ก็ บาร์ซ่า โดยมี แอตเลติโก มาดริด สอดแทรกมาอยู่ 1 ซีซั่น เมื่อฤดูกาล 2013-14 อย่างไรก็ตาม เรอัล มาดริด มีศักดิ์เป็นแชมป์เก่า หลังจาก ซีเนอดีน ซีดาน พาสโมสรทวงตำแหน่งคืนมาจาก บาร์เซโลน่า ได้สำเร็จ ส่งผลให้ ราชันชุดขาว ครองสถิติเป็นทีมที่คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน ได้มากสุดที่ 34 สมัย ซึ่งซีซั่นนี้พวกเขาก็ยังมีโอกาสที่จะป้องกันแชมป์ได้เหมือนกัน โดยตามหลัง "ตราหมี" อยู่แค่เอื้อม อยู่ที่ว่าจะแซงได้หรือไม่

8. อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์) – 34 สมัย

อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ลือเลื่องในการปั้นเด็กจาก "อะคาเดมี่" มาแต่ไหนแต่ไร หลายๆคนขึ้นไปเป็นตำนาน หลายๆคนก็กำลังโด่งดัง กระจายกันอยู่ตามลีกใหญ่ๆของยุโรป ซึ่งพวกเขาเหล่านั้น ล้วนมีส่วนร่วมในการช่วยให้ อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์ลีกดัตช์มาครอบครอง ทั้งอดีต และ ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปสัก 5-6 ปีก่อน อาแจ็กซ์ เคยเคว้งคว้าง ไม่อาจคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ มาครองได้เลย ปล่อยให้ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นด์ ครองแชมป์ 3 ปี และ เฟเยนูร์ด อีก 1 ซีซั่น แต่ทว่าฤดูกาล 2018-19 อาแจ็กซ์ สร้างชื่อเสียงเกรียงไกรกลับมาอีกครั้ง ด้วยการดันพวกเด็กนรกแตกขึ้นสู่ชุดใหญ่ อาทิ เฟรงกี้ เดอ ยอง, มัทไธส์ เดอ ลิกต์ หรือ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค เป็นต้น ซึ่งพวกเขาได้พา อาแจ็กซ์ กลับมาคั่วแชมป์ลีกอีกครั้งในซีซั่น 2018-19 น่าเสียดายที่ฤดูกาลถัดมาต้องยกเลิก เพราะ โควิด-19 ระบาดหนัก ไม่งั้นมีโอกาสป้องกันแชมป์ไปแล้ว แต่ทว่าปีนี้ ก็มีโอกาสเพิ่มแชมป์เป็นสมัยที่ 35 โดยนำหน้า พีเอสวี อยู่ 11 แต้ม และ ยังแข่งน้อยกว่า 1 นัด

7. อันเดอร์เลชท์ (เบลเยี่ยม) – 34 สมัย

ถ้าพูดถึงลีกเบลเยี่ยม ชื่อเสียงของ อันเดอร์เลชท์ จะโผล่มาเป็นอันดับต้นๆ เพราะนี่คือเจ้าพ่อวงการลูกหนังแห่งดินแดนช็อกโกแลต เพราะสามารถคว้าแชมป์ได้เป็นประจำ และ ผ่านเข้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่บ่อยๆ เผลอๆจะเรียกเป็นขาประจำด้วยซ้ำ แต่ 3 ฤดูกาลหลัง อันเดอร์เลชท์ เริ่มหลุดวงโคจร และ ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าแชมป์เลยสักนิด เสียรังวัดกับเจ้าของสถิติแชมป์ลีกเบลเยี่ยม 34 สมัย ไปเลย โดยตอนนี้กลายเป็น คลับ บรูช ที่กำลังครองความยิ่งใหญ่ และ ฤดูกาล 2020-21 ก็น่าจะเป็นแชมป์อีกสมัย แบบไม่ยากเย็น ปล่อยให้ชื่อเสียงของ อันเดอร์เลชท์ เป็นเพียงแค่ความหลัง และ ไม่รู้เหมือนกันว่า เมื่อไหร่ที่ อันเดอร์เลชท์ จะกลับมาทวงบัลลังค์ของตัวเองได้อีกครั้ง เพราะดูแล้วน่าจะอีกหลายปีกว่าจะกลับมาครองแชมป์ได้อีกครั้ง โดยสถานะตอนนี้ไปแค่ ยูโรปา ลีก ยังต้องลุ้น

6.ยูเวนตุส (อิตาลี) – 36 สมัย

ถึงแม้ว่า กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี จะมีทีม เสือ สิงห์ กระทิง แรด อยู่เต็มไปหมด อาทิ อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, นาโปลี, ลาซิโอ หรือ อตาลันต้า แต่กระนั้น ยูเวนตุส ถือเป็นทีมเป็นขาประจำ ที่ครองตำแหน่งแชมป์ "สคูเด็ตโต้" แบบไม่ยอมแบ่งสมบัติให้ใครเชยชม ยูเวนตุส เคยถูกปรับตกชั้น อีกทั้งเคยถูกริบแชมป์ กัลโช่ ถึง 2 สมัย จากคดี "กัลโช่โปลี" แต่สิ่งเหล่านั้นไม่อาจลบเลือนความยิ่งใหญ่ "ไอ้ม้าลาย" ได้เลย เพราะพอเลื่อนชั้นขึ้นมา ก็ใช้เวลาไม่นาน ในการกลับไปเป็นแชมป์ ขนาดฤดูกาลที่ผ่านมา ผลงานกระท่อนกระแท่น กับการคุมทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ก็ยังอุตส่าห์คว้าแชมป์ "สคูเด็ตโต้" ได้เหมือนเดิม ส่งผลให้ปัจจุบัน "ยูเว่" คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี 9 สมัยติดต่อกัน แบบไม่มีใครขึ้นมาต่อกรจนจบซีซั่นได้เลย นอกจากนี้ยังสร้างสถิติเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์ลีกมากสุด ในบรรดา 5 ลีกใหญ่ยุโรป เหนือทั้ง เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค แต่ทว่าฤดูกาลนี้ สุ่มเสี่ยงที่ "ไอ้ม้าลาย" จะเสียบัลลังค์แชมป์ เพราะ อินเตอร์ มิลาน ฟอร์มร้อนแรงเกินห้ามใจเหลือเกิน

5.เบนฟิก้า (โปรตุเกส) – 37 สมัย

ในสารบบฟุตบอลโปรตุเกส จะมีแค่ 2 ทีมเท่านั้น ที่ผลัดเปลี่ยนกันคว้าแชมป์ลีก โดยเป็นการฟาดฟันกันระหว่าง เบนฟิก้า กับ เอฟซี ปอร์โต้ เพราะนับตั้งแต่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซิวโทรฟี่ในฤดูกาล 2001-02 ก็ไม่มีทีมไหน ขึ้นมาท้าชิงกับ 2 ทีมนี้ได้อีกเลย อย่างไรก็ตาม เบนฟิก้า ถือว่ามีสถิติข่มกว่า ปอร์โต้ เพราะพวกเขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดน "ฝอยทอง" มาได้ถึง 37 สมัย ขณะที่ ปอร์โต้ 29 สมัย ซึ่งก็ถือว่าห่างกันไม่มาก และ เหลื่อมล้ำกันนิดหน่อยด้วยซ้ำ เพียงแต่ซีซั่นก่อน เหยี่ยวลิสบอน ต้องเสียแชมป์ไปให้กับ ปอร์โต้ เท่านั้น ถึงแม้ว่า ทั้ง 2 ทีมจะขับเคี่ยวลุ้นแชมป์กันอย่างเมามันส์ แต่ซีซั่นนี้กลับมีผู้ท้าชิงทีมใหม่ก้าวขึ้นมา นั่นคือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เมื่อพวกเขานำเป็นจ่าฝูง เหนือ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งลีกโปรตุเกส โดยทิ้งกันประมาณ 10 แต้ม แต่ฤดูกาลยังอีกยาวไกล มาดูกันว่าสุดท้ายแล้วทีมใดจะคว้าแชมป์ไปครอง

4. โอลิมเปียกอส (กรีซ) – 45 สมัย

ถ้าจะพูดถึงทีมยักษ์ใหญ่ แห่งเวที กรีซ ซูเปอร์ลีก ต้องมีชื่อของ โอลิมเปียกอส ผุดเข้ามาอยู่ในหัวของใครหลายๆคนอย่างแน่นอน เพราะนี่คือเจ้าพ่อลีกนี้ตัวจริงเสียงจริง แทบจะแบเบอร์คว้าแชมป์ลีกอยู่เพียงแค่สโมสรเดียว ตั้งแต่ปี 1996 โอลิมเปียกอส คว้าแชมป์ลีกกรีซ แทบจะทุกสมัย มีเพียงแค่ 4 ฤดูกาลเท่านั้น ที่พวกเขาเสียแชมป์ให้กับ 3 สโมสร ประกอบด้วย พานาธิไนกอส, เออีเค เอเธนส์ และ พีเอโอเค ที่เหลือเป็น โอลิมเปียกอส ที่ครอบงำลีกนี้แต่เพียงผู้เดียว ฤดูกาลนี้ ก็เหมือนเดิม โอลิมเปียกอส มีโอกาสป้องกันแชมป์อีกสมัย เพราะนำเป็นจ่าฝูง และ ทำแต้มทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 19 คะแนน ดูแล้วไม่น่าพลาด เพราะไม่มีทีมไหนมาต่อกร ซึ่งหากพวกเขาเข้าป้ายคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้ ก็จะเป็นการเพิ่มสถิติซิวโทรฟี่  กรีซ ซูเปอร์ลีก เป็นสมัยที่ 46

3. กลาสโกว์ เซลติก (สกอตแลนด์) – 51 สมัย

เสือ 2 ตัว อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ คำนี้ต้องมอบให้กับ กลาสโกว์ เซลติก ที่ต้องต่อสู้แย่งแชมป์กับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ทุกๆซีซั่น จริงๆแล้วภาพจำในอดีต ย้อนไปสักประมาณยุค 90 ต้องบอกเลยว่า เซลติค ต้องตกอยู่ภายใต้อาณัติของ เรนเจอร์ส มาโดยตลอด เพราะตั้งแต่ปี 1990 จนถึง ปี 2000 เซลติค คว้าแชมป์ลีกได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่เวลาเปลี่ยน ทุกอย่างก็เปลี่ยน ใครจะอยากเป็นที่ 2 ไปตลอดชีวิต เพราะ เซลติก เริ่มจะโค่นบัลลังค์ เรนเจอร์ส ผงาดขึ้นเป็นแชมป์ลีกได้หลายสมัย เรียกว่าสมบัติผลัดกันชม แชมป์เปลี่ยนมือให้เห็นกันอยู่ตลอด จนกระทั่ง เรนเจอร์ส ประสบปัญหาการเงิน ถูกปรับตกชั้นไปสู่ลีกดิวิชั่น 3 ทำให้ "ม้าลายเขียว-ขาว" ครองความยิ่งใหญ่ แต่เพียงผู้เดียว ไม่มีคู่แข่งขึ้นมาต่อกรได้เลย ตั้งแต่ซีซั่น 2011-12 จนถึง ซีซั่น 2019-20 เซลติค คว้าแชมป์ สก็อตติช พรีเมียร์ชิพ แต่เพียงผู้เดียว ยืนยาว 9 สมัยรวด บวกสถิติเพิ่มเป็น 51 สมัย ในการคว้าแชมป์ลีก เพราะต่อให้ เรนเจอร์ส กลับเลื่อนชั้นขึ้นมาก็ไม่อาจต่อกรความแข็งแกร่งได้ กระทั่งเพิ่งจะมาเสียบัลลังค์ให้กับ เรนเจอร์ส ไปในปีนี้

2. ลินฟิลด์ (ไอร์แลนด์เหนือ) – 53 สมัย

ไม่คุ้นหูกันเลยใช่ไหมครับ สำหรับ ลินฟิลด์ เอฟซี ถ้าไม่ใช่นักสู้สายบอลเล็ก คงจะร้องทีม "อิหยังวะ" แน่นอน ซึ่งสโมสรแห่งนี้อยู่ในลีกไอร์แลนด์เหนือ ก่อตั้งมาแล้ว 135 ปี นับเป็นทีมเก่าแก่ และ ยิ่งใหญ่สำหรับประเทศของเขา แต่ฟนบอลไม่ค่อยได้รู้มากนัก ว่า ลินฟิลด์ คือเจ้าพ่อที่คว้าแชมป์ลีกได้มากสุดเป็นอันดับ 2 ในลีกทั่วยุโรป แต่กระนั้นหากทีมใดเป็นจ่าฝูง ก็จะแค่คว้าโควต้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบแรก เท่านั้น

1. กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สก็อตแลนด์) – 55 สมัย

อย่างที่บอกครับว่า ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นศึกสังเวียน สก็อตติช พรีเมียร์ชิพ มีแค่ 2 มาเฟียเท่านั้น ที่คุณจะนึกถึง ไม่ทางฝั่ง กลาสโกว์ เซลติก ก็ต้องเป็น กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 2 คู่อริ ที่เป็นเหมือนเส้นขนาน ไม่มีวันจะมาบรรจบกันได้ แต่กระนั้นความยิ่งใหญ่ของ เรนเจอร์ส ค่อยๆเลือนลางหายไป เพราะพวกเขาถูกปรับตกชั้นไปอยู่ลีกต่ำสุดในแดนน้ำเมา เมื่อฤดูกาล 2012-13 เพราะประสบปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนัก มีหนี้สินล้นพ้น ต้องใช้เวลาประมาณ 4 ปี กว่าจะเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง แต่ทุกอย่างไม่ง่ายดายเลยสักนิด การขึ้นมาของ เรนเจอร์ส กลับถูกกลับรัศมีโดยศัตรูเบอร์ 1 ซึ่ง เซลติค คว้าแชมป์ลีก 9 สมัยซ้อน ตั้งแต่ซีซั่น 2011-12 กระทั่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นอัศวินขี่ม้าขาว มากอบกู้ความยิ่งใหญ่ของ เรนเจอร์ส กลับคืนมา ชนิดเป็นแชมป์ลีก ที่ยังไร้พ่าย และ ทำแต้มทิ้งห่าง เซลติค ถึง 20 แต้ม พร้อมกับส่งให้ เรนเจอร์ส กลายเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดในแทบยุโรป ด้วยจำนวนมากถึง 55 ครั้ง

ฮาย ฮาวดี้-

 
logoline