logo-heading

เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่ทีมอย่าง ทรู แบงค็อก ต้องมือเปล่าอีกครั้ง หลังพวกเขากระเด็นตกรอบตัดเชือกฟุตบอลเอฟเอ คัพ ไปเมื่อวานนี้ (7 เม.ย.64) ทำให้ตลอดเวลา 13 ปีที่ผ่านมาในชื่อ แบงค็อก ยูไนเต็ด พวกเขายังไม่เคยสัมผัสกับคำว่าแชมป์เลยแม้แต่ครั้งเดียว

สารภาพตามตรงว่าผมแอบเอาใจช่วย และเชียร์ให้ทีม "แข้งเทพ" หรือ ทรู แบงค็อก เป็นแชมป์ฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ ในฤดูกาลนี้ ไม่ใช่เพราะว่าผมเชียร์แบงค็อก หรือเป็นแฟนทีมบียู แต่อย่างใด แต่แค่อยากเห็นทีมนี้เป็นแชมป์กับเขาบ้างเสียที อีกอย่างก็อยากเห็นแชมป์หน้าใหม่ด้วย แชมป์รายการสุดท้ายที่สโมสรนี้เคยได้ก็คือแชมป์ไทยลีก เมื่อฤดูกาล 2006 ในชื่อสโมสรมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในยุคของกุนซือที่ชื่อ สมชาย ทรัพย์เพิ่ม ซึ่งจะว่าไปจริงๆ แล้วมันแทบจะเป็นคนละทีมด้วยซ้ำ เพราะชื่อสโมสรก็เปลี่ยนไป ทีมงานผู้บริหาร และอะไรต่างๆ มันก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับทีม ม.กรุงเทพ แล้ว เพียงแต่สิทธิ์เดิมมันก็ยังคงเป็นทีมเดียวกันเท่านั้น หลังจากที่ทีมเมืองหลวงเปลี่ยนผู้บริหารและมาใช้ชื่อ แบงค็อก ยูไนเต็ด ตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งตอนนั้นยังถือเป็นทีมระดับกลางๆ ถึงขั้นเป็นทีมท้ายตารางด้วยซ้ำ ด้วยขนาดทีมและนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ไม่ได้มีมากนัก จนกระทั่งการเข้ามาของนายขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรคนปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2013 ก็ทำให้ทีมแบงค็อก เริ่มจะพัฒนาตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นสโมสรชั้นนำของไทยลีก แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถที่จะก้าวข้ามคำว่าแค่ทีมใหญ่ กลายมาเป็นทีมแชมป์ได้สักที ที่ใกล้เคียงที่สุดก็คือการเป็นรองแชมป์ไทยลีก 2016 และ 2018 ซึ่งถือว่าใกล้มากๆ ที่พวกเขาจะคว้าแชมป์ลีก แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝัน ขณะที่ในรายการเอฟเอคัพ พวกเขาเคยหลุดเข้าไปชิงชะเลิศได้หนึ่งครั้ง ในฤดูกาล 2017 แต่ก็ไปแพ้ให้กับเชียงราย 4-2 ได้แค่รองแชมป์เท่านั้น มาถึงในฤดูกาล 2020 ทีมบียู ในยุคของ มาโน่ โพลกิ้ง ถือว่าออกสตาร์ทฤดูกาลได้สวยหรูมาก ชนะ 5 เกมติดต่อกันด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม จนหลายคนบอกว่าปีนี้แหละ น่าจะถึงเวลาของทีมแบงค็อก แต่สุดท้ายก็ฟอร์มตกไปดื้อๆ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัวกุนซือ ทีมบียู ได้ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน เข้ามาสานงานต่อจากมาโน่ โพลกิ้ง ซึ่งผลงานของทีมก็ดีขึ้นมาแต่มันไม่ทันเวลากับการที่จะถีบตัวเองขึ้นไปลุ้นแชมป์หรือแม้กระทั่งโควต้า ACL พวกเขาก็ไปไม่ถึง ทำให้ต้องมาตั้งเป้ากับถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ ซึ่งเมื่อพวกเขาหลุดเข้ามาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย ก็ถือว่ามีโอกาสมากๆ กับการจะเข้าชิงและไปลุ้นแชมป์ เหลือเพียงแค่สองด่านเท่านั้น ซึ่งการจับสลากมาเจอกับเชียงราย ก็ถือว่าได้ลุ้น และเมื่อเทียบผลงานที่เจอกันในไทยลีก 2 นัด แบงค็อก ก็ทำได้ดีกว่า บวกกับฟอร์มช่วงหลังนั้นทีมแข้งเทพนั้นร้อนแรงมากๆ ก็คิดว่าน่าจะผ่านเชียงรายได้ไม่ยาก แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องมาตกม้าตายในรอบรองชนะเลิศเหมือนเดิม เพราะสู้ความเก๋าของทีมกว่างโซ้งไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นอาถรรพ์อะไรหรือเปล่าสำหรับทีมทรู แบงค็อก ที่ไปไม่ถึงฝันสักที ถ้าดูจากศักยภาพของทีม ก็ถือว่าเป็นทีมเงินถึงเงินถังไม่แพ้ทีมอื่นๆ ในไทยลีก นักเตะก็มีทีมชาติและตัวต่างชาติระดับเกรดเอในทีม โค้ชก็เป็นระดับโปรไลเซนส์ที่เคยคว้าแชมป์ไทยลีกมาแล้ว คือถ้าดูจากองค์ประกอบที่ได้กล่าวไป ทีมอย่างบียู ก็ควรที่จะประสบความสำเร็จในฐานะแชมป์กับเขาเสียที อย่างไรก็ดีฤดูกาล 2020 ของทรู แบงค็อก จบไปแล้ว ในไทยลีกพวกเขาจบอันดับที่ 5 ส่วนในเอฟเอ คัพ เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ โดยรวมก็ไม่ได้เสียหายนัก ก็ค่อยไปว่ากันใหม่ในฤดูกาล 2021 ที่กำลังจพมาถึง ซึ่งบางทีในฤดูกาลใหม่นี้ ทรู แบงค็อก ในมือของ "โค้ชแบน" ที่จะได้ทำทีมแบบเต็มๆ ตั้งแต่ต้นฤดูกาล ได้เลือกนักเตะด้วยตัวเองใหม่ทั้งหมด ก็อาจจะล้างอาถรรพ์นี้ก็เป็นได้  ไว้เรามารอดูในช่วงปีหน้ากันอีกที ว่าบียู จะมีแชมป์อะไรติดมือหรือไม่ 
logoline