logo-heading

ลิเวอร์พูล สามารถล้างแค้น แอสตัน วิลล่า ได้สำเร็จ แต่เลือดตาแทบกระเด็น หลังพลิกแซงเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากการยิงอันเฉียบคมของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เก็บ 3 แต้มอันล้ำค่า รักษาโมเมนตั้มลุ้นท็อปโฟร์ต่อไป

อย่างไรก็ตามเกมนี้ สาวก เดอะ ค็อป หัวร้อนกันเป็นแถว เพราะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ VAR คือของแสลง ปฏิเสธลูกยิงของนักเตะ ลิเวอร์พูล แบบค้านสายตาแฟนบอล ซึ่งนอกจากเรื่องนี้ มีอะไรต้องพูดถึงกันบ้าง ไปติดตามกันได้เลยครับ

ซาลาห์ พลาดโอกาสยิงขึ้นนำ

ตอนต้นเกม ซาลาห์ มีโอกาสได้ง้างเท้าไป 1 ครั้ง แต่ตรงตัว เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ จนกระทั่งผ่านพ้น 10 นาทีของเกม โม ซาลาห์ ได้โอกาสส้มหล่น และ น่าจะยิงประตูให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำด้วยซ้ำ หลังจาก ไทรอน มิงส์ แปะบอลคืนหลังไม่ดี กลายเป็นตั้งให้กับ ซาลาห์ ได้ยืงแบบดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู แต่ ซาลาห์ กลับทำหมูหก เพราะพยายามจะจิ้มให้หนีมือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ แต่กลายเป็นหนีมากไป บอลค่อยๆกลิ้งเฉี่ยวเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย เพราะโอกาสจ่อๆแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ แต่ทว่าดาวยิงเบอร์ 1 ของ ลิเวอร์พูล กลับทำให้มันหลุดลอย พลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างเหลือเชื่อ

วัตกิ้นส์ เจ้าเก่าซัด หงส์แดง

ยังจำแมตช์ที่ ลิเวอร์พูล แพ้ให้กับ แอสตัน วิลล่า 2-7 กันได้ใช่ไหมครับ วันนั้น โอลลี่ วัตกิ้นส์ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ด้วยการซัดแฮตทริคใส่ หงส์แดง ชื่อเสียงโด่งดังกระฉ่อนไปทั่ว และ เกมที่บุกมาเยือน แอนฟิลด์ เขาก็สร้างผลงาน อันเป็นของแสลงให้กับยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทีมนี้อีกครั้ง เพราะหลังจากที่ วิลล่า สร้างโอกาสยิงประตูได้อยู่หลายครั้ง ทำให้ อลิสซอน ต้องออกแรงเซฟเหมือนกัน จนกระทั่งช่วงท้ายครึ่งแรก โอซาน คาบัค สกัดไม่ขาด ไปเข้าทาง ดั๊กลาส ลุยซ์ ก่อนจะแทงมาให้กับ จอห์น แม็คกินน์ เบิ้ลต่อไปที่ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ซึ่งยืนรอตรงช่องว่างระหว่าง แนท ฟิลลิปส์ กับ คาบัค  ก่อนจะตวัดยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งตรงกลาง ด้วยความเร็วและแรง บอลลอดแขน อลิสซอน ที่ล้มตัวลงมาปัดไม่ทัน เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของ สิงห์ผงาด เล่นเอาแฟนบอล ลิเวอร์พูล ช็อคตาตั้ง เนื่องจากบุกตั้งนาน แต่ทำประตูไม่ได้

หงส์แดง เซ็งเป็ด เจอพิษ VAR

เหมือน ลิเวอร์พูล จะใจเสีย เพราะมาโดนยิงช่วงท้ายครึ่งแรก แต่กระนั้นทรงเกมของ หงส์แดง ยังไม่เสียกระบวนมากเท่าไหร่ โดยช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก สาวก เดอะ ค็อป ได้เฮจนได้ เมื่อได้ประตูตีเสมอ จาก โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เก็บตกจากจังหวะสอง ยิงเข้าไป สกอร์ตอนนั้นขึ้น 1-1 น่าจะเรียกขวัญกำลังใจกลับมา แต่ทว่า VAR เจ้ากรรมนายเวรของ ลิเวอร์พูล เช็คดูว่าจังหวะเริ่มแรกก่อนจะได้ประตู ดิโอโก้ โชต้า ล้ำหน้าหรือไม่ เพราะมันก้ำกึ่งกับแนวรับ แอสตัน วิลล่า ซึ่งลูกนี้เป็นช็อตที่ เทรนท์ อาร์โนลด์ วางบอลยาวมาให้กับ โชต้า ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ไหลกลับมาให้ โม ซาลาห์ ก่อนจะป้ายมาให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยิงไปติดบล็อค กระดอนเข้าทาง ฟีร์มิโน่ ยิงหนีบล็อคเข้าไป ซึ่งแฟนบอลนั่งลุ้นกันตัวโก่ง เพราะ VAR เช็คแล้วเช็คอีก ตีเส้นแล้วตีเส้นอีก เพราะ โชต้า กับ กองหลัง วิลล่า มันเหลื่อมกันแค่แขนเสื้อ ปรากฏว่าผู้ตัดสิน VAR ให้เป็นลูกล้ำหน้า ชนิดที่กองเชียร์หัวร้อนกันทั้งบาง เพราะดูจากตาเปล่าในความคิดของสาวก ลิเวอร์พูล ยังไงก็ไม่ล้ำหน้า แต่มันก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ VAR เป็นปรปักษ์กับ หงส์แดง

แก้เกมมาดี ลิเวอร์พูล ได้ประตูตีเสมอ

จากที่จะได้ประตูตีเสมอ แต่กลับโดน VAR ริบสกอร์กลับ ก็อาจจะมีบั่นทอนกำลังใจนักเตะ ลิเวอร์พูล อยู่บ้าง แต่ด้วยความที่ยังเหลืออีก 45 นาที พวกเขาลงสนามมาด้วยความคึกคักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ และ หลังจากหาช่อง หาโอกาสอยู่นาน นาที 57 พวกเขาก็สัมฤทธิ์ผลเสียที เป็นจังหวะที่ โชต้า ไหลต่อจังหวะเดียวมาให้กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้กดเต็มตีนซ้าย บอลพุ่งเป็นจรวด แต่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ยังอุตส่าห์ปัดไว้ได้ ทว่าบอลมันยังเป็นใจมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่วิ่งตามเข้ามาซ้ำ ก่อนจะโหม่งจ่อๆเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูตีเสมอ 1-1 แบบเอกฉันท์ ไม่มีล้ำหน้า ไม่มี VAR มาให้กวนใจ เรียกว่ากำลังใจของ ลิเวอร์พูล เพิ่มขึ้นหลายขุม เพราะโอกาสที่จะยิงแซงนำมีมากกว่าครึ่งชั่วโมง

วิลล่า เกือบทำ เดอะ ช็อค 

แทนที่โมเมนตั้มจะมาอยู่ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล หลังจากตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาเกือบจะโดนนำอีกครั้ง เมื่อ วิลล่า ได้ทำเกมบุกขึ้นมา ซึ่งเป็น วัตกิ้นส์ เจ้าเก่าคนเดิมหลุดกับดักล้ำหน้า เข้าในกรอบเขตโทษ ก่อนจะหมุนหนีตัวประกบ เปิดย้อนกลับมาให้ เทรเซเกต์ ดีดด้วยขวาติดไซร้ก้อย ผ่านมือ อลิสซอน ที่ได้แต่ชายตามองไปแล้ว แต่โชคร้ายที่บอลพุ่งไปชนเสา กระดอนไต่เส้นออกมา ซึ่ง เทรเซเกต์ พยายามจะเก็บตกลูกยิงของตัวเอง ด้วยการก้มหัวลงไปโหม่ง แต่ด้วยความที่มุมมันบีบบังคับทำให้คุมทิศทางไม่ได้ บอลออกหลังไปไม่ได้ลุ้น แต่มันก็น่าเสียดายที่ลูกดีดจังหวะแรกของเขาไปชนเสา ..

นึกว่าเสมอ ประตูชัยมาทดเจ็บ

เชื่อว่าสาวก ลิเวอร์พูล คงทำใจรอไว้แล้ว ว่าเกมนี้คงจบลงด้วยผลเสมอ และ อาจจะเป็นอาถรรพ์อีกแมตช์ที่พวกเขาไม่อาจเก็บชัยชนะได่ในถิ่นแอนฟิลด์ เพราะสถิติซีซั่นนี้มันบ่งบอกว่า หงส์แดง แทบจะแซงคู่แข่งชนะไม่ได้เลย ถ้าตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน ยิ่งตอนตีเสมอ 1-1 ไปแล้ว ลิเวอร์พูล ต่อเกมรุกไม่ปะติดปะต่อกันเลย โอกาสยิงขึ้นนำก็แทบจะนับครั้งได้ ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องยอมแลกทุกอย่าง ทิ้งไผ่ทุกใบที่มี ทั้งการส่ง ซาดิโอ มาเน่ กับ เซอร์ดาน ชากิรี่ ลงมา ถึงขั้นเปลี่ยนเอา โอซาน คาบัค ออกจากสนามไปเลย เรียกว่าส่งตัวรุก และ ถอดเกมรับ ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่า ลิเวอร์พูล จะยิงได้ อย่างไรก็ตาม "เกมยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร" ช่วงทดเจ็บนาทีแรก สาวก เดอะ ค็อป กระโดดดีใจกันลั่นบ้าน เมื่อ ชากิรี่ เปิดยัดเข้าในกรอบเขตโทษ ให้กับ ติอาโก้ วิ่งมาซัดเต็มตีน มาร์ติเนซ เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ แต่ผู้เล่น วิลล่า เคลียร์ไม่ขาด มาเข้าทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ยืนรอตรงเส้นกรอบเขตโทษ ก่อนบรรจงแต่งเข้าขวา ยิงผ่านบล็อคเข้าเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม ให้ หงส์แดง พลิกขึ้นนำ 2-1 แบบสะใจ ท้ายเกม ลิเวอร์พูล มีโอกาสฝังเป็น 3-1 ด้วยซ้ำ หลังจาก ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปยิง โดยมี ดิโอโก้ โชต้า วิ่งประคองมาทางเสาสอง ถ้าปาดมาให้ก็ใส่สกอร์รอได้เลย แต่ทว่าสงสัย มาเน่ อยากฉลองวันเกิดครบ 29 ปี เลยเลือกยิงเอง แต่ซัดไปตรงตัว มาร์ติเนซ แบบไม่ได้ลุ้น แต่อย่างน้อย 3 แต้มนี้สำคัญสุด เพราะทำให้พวกเขายังมีความหวังท็อปโฟร์

ฮาย ฮาวดี้

logoline