logo-heading

ถึงแม้ว่า "บทละครเรื่องนี้" จะไม่ได้ถูกกำหนดมาอยู่ในรอบชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก แต่มันก็ขีดเขียนขึ้นมาถูกช่วง ถูกเวลา เหลือเกิน เพราะมันจะเป็นการห้ำหั่นกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่า ใครมันจะดีกว่า ระหว่าง อาร์เซน่อล มุมแดงจากลอนดอน กับ บียาร์เรอัล ฝ่ายน้ำเงินแห่ง ลา ลีกา สเปน

ดูจากภายนอกคู่นี้อาจจะไม่เดือดเท่าไหร่ หากเทียบกับแมตช์ชิงในฝัน ที่แฟนบอลอยากให้ "ไอ้ปืนใหญ่" เข้าไปปะทะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่หากพินิจวิเคราะห์ให้ดีๆ การเจอกันระหว่าง อาร์เซน่อล กับ บียาร์เรอัล มันเผ็ดร้อนตรงที่ อูไน เอเมรี่ จะได้กลับมาเยือนถิ่นเก่า บ้านหลังที่เคยมองว่า "เขาคลาสฝีมือไม่ถึง"

ดังนั้นทำไมคู่นี้ ถึงเจอกันถูกช่วง ถูกเวลา จะพานั่งไทม์ แมชชีน เพื่อโหมโรงเป็นการเรียกน้ำจิ้ม ว่า อาร์เซน่อล หรือ อูไน เอเมรี่ จะได้เชิดหน้าชูตามากกว่ากัน

เอเมรี่ ผู้สืบทายาท เวนเกอร์

อูไน เอเมรี่ เป็นผู้ที่ถูกเลือก เข้ามาสานตำแหน่งต่อจาก อาร์แซน เวนเกอร์ เมื่อปี 2018 หลังจากสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผลงานของ "เจ๊" หลุดลอยจากโควต้า ท็อปโฟร์ มานานหลายปี และ ไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปยิ่งใหญ่เหมือนในอดีตได้เลย ส่วน อูไน เข้ามาคุมทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" ด้วยความหวัง เพราะดีกรีของเขาไม่ธรรมดา เคยพา เซบีย่า คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก 3 สมัยซ้อน, ย้ายไปคุมทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อาจจะไม่ถึงเป้าหมายเจ้ายุโรป แต่ก็นำแชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส มาครองไว้ในถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งส์ เหมือนเดิม ด้วยโปรไฟล์เหล่านี้ ทำให้แฟนบอล อาร์เซน่อล รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย เพราะพวกเขามีความหวังว่า เอเมรี่ จะมาปลุกให้สโมสรแห่งนี้ กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เพราะก่อนที่เขาจะเข้ามา เวนเกอร์ พาทีมจบอันดับ 6 ซึ่งเป็นผลงานที่ย่ำแย่ตั้งแต่ซีซั่น 1994-95

ซีซั่นแรกที่น่าผิดหวัง

เมื่อความคาดหวังถาโถม ความกดดันยิ่งมากขึ้น และ การมาคุมทีมต่อจาก อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่ใช่เรื่องง่าย ภาพจำที่เป็นแชมป์ลีกไร้พ่ายเพียงหนึ่งเดียว ยังเป็นตัวกดค้ำให้ เอเมรี่ ต้องมีผลงานดีกว่าที่ผ่านๆมาให้ได้ แต่การเข้ามาของ เอเมรี่ เขาต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง สะตุ้งสตางค์ก็ไม่ได้มีให้เสริมทัพมากมาย เหมือนสมัยคุม "เปแอสเช” .. 3-4 เดือนแรก เอเมรี่ แทบจะไม่มีแผนการเล่นที่ลงตัวเลยด้วยซ้ำ วันนึงอาจจะมาในระบบ 4-4-2 แต่สัปดาห์ถัดมากลับเปลี่ยน 4-3-3 หลายๆครั้งก็เลือก 4-2-3-1 แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอน ฤดูกาลแรกของ เอเมรี่ กับ อาร์เซน่อล จริงๆก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ที่มันน่าผิดหวังก็คือ สาวก "ไอ้ปืนใหญ่" ตั้งเป้าจะกลับไปเล่น ยูซีแอล อีกครั้ง แต่กลับทำได้เพียงแค่จบอันดับ 5 ด้อยกว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คู่อริตลอดกาล ไป 1 แต้ม สาเหตุที่เป็นแบบนั้น เพราะเขาพาทีมแพ้ถึง 10 เกม และ หลุดเสมอไปถึง 7 นัด ซึ่งการพ่ายแพ้ แทบจะปราชัยต่อทีมท็อปซิกซ์เกือบทั้งหมด

เวลาอันแสนสั้นในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

18 เดือน คือระยะเวลาที่ อูไน เอเมรี่ ได้เข้ามาคุมทีม อาร์เซน่อล นับเป็นเวลาอันแสนสั้น หากเทียบกับการสานงานต่อจาก อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งดำรงตำแหน่งมายาวนานมากกว่า 20 ปี เพราะว่าฤดูกาลแรก เขายังมีการ์ดป้องกันเรื่องให้เวลาปรับตัว แต่ทว่าหลังจากเริ่มซีซั่น 2019-20 ไอ้ปืนใหญ่ กลายเป็นทีมระดับกลางตาราง หน้าที่การงานของ เอเมรี่ สั่นคลอนมาตั้งแต่ เสมอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ พ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล จริงอยู่ที่แฟนบอลยังพอรับได้ เพราะเจอทีมใหญ่ แต่การเสมอกับทีมเล็กๆอย่าง วัตฟอร์ด 2-2 ทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก ถึงแม้หลังจากนั้นผลงานจะดีขึ้นมา แต่การปราชัยต่อ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-1 คือจุดเริ่มต้นความพินาศ จากนั้นชัยชนะกลายเป็นของหายาก ส่วนใหญ่ไม่พบกับความพ่ายแพ้ ก็เสมอ สถานการณ์ของ เอเมรี่ ย่ำแย่ถึงขั้นขีดสุด เพราะไม่ใช่แค่ผลงาน แต่เขากลายเป็นปรกปักษ์ต่อแฟนบอล อาร์เซน่อล ก่อนที่เขาจะถูกปลอดออกจากตำแหน่งกุนซือในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2019 เนื่องจากบอร์ดบริหารก็ทนไม่ไหว กับฟอร์มที่มันสาละวันเตี้ยลง โดยมีสถิติออกมาแฉว่า อูไน เอเมรี่ คุมทีม อาร์เซน่อล 50 นัดแรก ได้เพียงแค่ 87 แต้ม น้อยกว่า เวนเกอร์ ที่คุมทีม 50 นัดสุดท้าย เสียอีก

ทำไมแฟนบอลต่อต้าน เอเมรี่

ว่ากันตามตรง เอาแค่ผลงานของ เอเมรี่ ก็มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้แฟนบอลไม่ปลื้มเขาเอามากๆ โดยถึงขั้นมีแคมเปญ "อูไน เอาท์" มาตั้งแต่ช่วงซีซั่นที่ 2 กับทีม ซึ่งข้อความอันแสนเจ็บปวด หากเขามองขึ้นไปบนอัฒจันทร์ มีทั้งประโยคสะเทือนใจว่า "อูไน ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆ แต่มันถึงเวลาต้องบอกลาแล้ว" รวมถึงการจ้างเครื่องบินที่มีข้อความแปะท้ายไว้ว่า "เอเมรี่ ออกไป หมายถึงเอ็งอ่ะออกจากตำแหน่งไปซะ" อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องผลงานเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์กับนักเตะในทีม ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้แฟนบอลไม่ชอบใจไปด้วย ทั้งเรื่องการไม่ให้โอกาสกับกองหน้าอยาง อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ หรือว่า การที่ไม่สามารถควบคุมนักเตะได้เลย โดยเฉพาะคดีสุดฉาว ที่ กรานิต ชาก้า โดนแฟนบอลทีมตัวเอง โห่ขับไล่ช่วงเปลี่ยนตัวออก ก่อนที่กัปตันทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ตอบโต้ด้วยการแสดงท่าทียั่วยุคืนด้วยการป้องหู และ มีสบถคำหยาบ พร้อมถอดเสื้อ อาร์เซน่อล ออกขณะอยู่ข้างสนาม ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงบารมีที่ไม่สามารถควบคุมนักเตะได้อีกแล้ว จากคดีนั้นมีแฟนบอล ออกมาเรียกร้องให้ไล่ ชาก้า และ เอเมรี่ ออกไปพร้อมๆกัน ไม่เพียงแค่คดี ชาก้า, ลากาแซ็ตต์ เท่านั้น ยังมีประเด็นกับ เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ชาวเยอรมัน อีกด้วย ที่ไปบอกว่า โอซิล ทุ่มเทไม่มากพอ และ มีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถึงขั้นที่ทั้งคู่เคยฟาดปากกันมาแล้วช่วงที่โดนเปลี่ยนตัวออกจากสนาม สมัยเล่นในศึก ยูโรปา ลีก เรียกง่ายๆว่าตลอด 18 เดือน ที่ เอเมรี่ เข้ามากุมบังเหียน "ไอ้ปืนใหญ่" แทบจะไม่มีความทรงจำดีๆหลงเหลืออยู่เลย ความดีความชอบเพียงไม่กี่อย่าง คงจะเป็นการพา อาร์เซน่อล ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก แต่ก็พ่ายให้กับ เชลซี ไม่ใช่แค่แฟนบอลต่อต้าน แต่เหล่าตำนานสโมสร ไอ้ปืนใหญ่ ก็ออกมาวิจารณ์ เอเมรี่ อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้ อาร์เซน่อล สูญเสียตัวตน เนื่องจากกุนซือรายนี้ ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับวัตนธรรมของทีมมากนัก หลังจากนั้นชีวิตของ เอเมรี่ ก็ไม่ได้มาเฉียดแถว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกเลย เขาย้ายกลับไปยังบ้านเกิด สถานที่อันเป็นที่รัก, คุ้นเคยวัฒนธรรม และ เข้าใจภาษามากกว่า ซึ่ง บียาร์เรอัล คือสถานีที่เขาเลือก หลังจากถูก อาร์เซน่อล ไล่ออก เชื่อว่า เอเมรี่ ยังคงสุมไฟแค้นไม่จางหาย เพราะสิ่งที่เขาประสบพบเจอ ไม่มีใครอยากสัมผัสมันในชีวิตแน่นอน เพราะมีแต่เรื่องแย่ๆ หลายๆครั้งโดนนำมาล้อเลียนกันสนุกปากเสียด้วยซ้ำ ฉะนั้นการที่ บียาร์เรอัล ได้มาเจอกับ อาร์เซนอล ช่วงนี้ มันช่วงประจวบเหมาะแบบที่บอกไว้จริงๆครับ เพราะ เอเมรี่ จะได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือให้แฟนบอล "ไอ้ปืนใหญ่" เห็นว่า พวกเขาคิดผิดที่ไม่ให้โอกาส และ มีแต่ความทรงจำแย่ๆอยู่ในหัว ทว่าในอีกฟากฝั่งของสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ก็อยากจะตอกย้ำ เอเมรี่ เหมือนกัน ว่าการเปลี่ยนแปลงมาใช้ มิเกล อาร์เตต้า มันดียิ่งกว่า และ ต้องการทำให้ เอเมรี่ ยอมรับเรื่องที่ไม่ดีพอกับการรับตำแหน่งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ถึงแม้ ยูโรปา ลีก จะเป็นถ้วยเล็กของยุโรป แต่เกมระหว่าง อาร์เซน่อล กับ บียาร์เรอัล คุณจะพลาดไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่แค่ผลการแข่งขัน แต่มันเดิมพันด้วยศักดิ์ศรีว่าใครกันแน่ที่คิดผิด

ฮาย ฮาวดี้

logoline