background-defaultbackground-default
logo-pwa

เพิ่ม Khobsanam

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด

ประเด็นร้อนต่อเนื่องจาก ซูเปอร์ ลีก คงหนีไม่พ้นการที่แฟนบอลเริ่มออกมาขับไล่เจ้าของทีม ที่หนักหน่วงที่สุดคงหนีไม่พ้น ลิเวอร์พูล แฟนบอลต่างไม่พอใจและออกมากดดันให้ จอห์น เฮนรี่ และ เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป หรือ FSG ขายสโมสรทิ้ง เนื่องจากแฟนบอลมองว่าสิ่งที่ FSG ทำนั้นเป็นการไม่ซื่อสัตย์ต่อแฟนบอลอย่างยิ่ง

เมื่อ FSG เป็นผู้ร้ายในสายตาของแฟนบอล ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล เป็น 1 ใน 6 ทีมจากพรีเมียร์ลีกผุ้ร่วมก่อตั้งรายการ ซูเปอร์ ลีก จนเกิดความวุ่นวายก่อเป็นจุดแตกหักระหว่าง แฟนบอลกับ เจ้าของทีมนำมาซึ่งการประท้วงอย่างหนักในอังกฤษ รวมถึงแฟนบอลชาวไทยเอง ต่างไม่เห็นด้วยกับเกมธุรกิจของบรรดาบอร์ดบริหารในครั้งนี้ แฟนบอลที่ออกมาประท้วงไม่เห็นด้วยกับ ซูเปอร์ ลีก ในครั้งนี้ เพราะเขามองว่า นี่คือเกมการเมือง เกมทางธุรกิจที่บอร์ดบริหารเอาสโมสรและแฟนบอลเป็นเครื่องมือในการต่อกรกับ สหพันธ์ลูกหนังยุโรป หรือ ยูฟ่า และมองว่าหากเข้าร่วม ซูเปอร์ ลีก แม้จะการันตีรายได้ที่มาก แต่มันไม่ถูกต้องหากมองในมุมของฟุตบอล อนาคตสิ่งที่แฟนบอลต้องเผชิญคงเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น หรือสโมสรอันเป็นที่รักของเขาจะตกเป็นของกลุ่มนายทุนแบบเต็มรูปแบบโดยไม่เห็นค่าของแฟนบอล บรรดานักเตะเองต่างก็ไม่เห็นด้วยเพราะส่งผลกระทบต่อเหล่าบรรดานักเตะทีมชาติรวมถึถงนักเตะมองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความเป็นฟุตบอลที่เขารัก กัปตันอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นแกนกัปตันทีมเรียกประชุมเหล่ากัปตันเพื่อต่อต้าน ซูเปอร์ ลีก รวมถึงเป็นแกนนำโพสต์ข้อความบนโซเชี่ยลมีเดียของตัวเอง ต่อต้าน ซูเปอร์ ลีก และอยู่เคียงข้างแฟนบอล ก่อนที่นักเตะ ลิเวอร์พูล เกือบทั้งทีมจะทยอยโพสต์ข้อความดังกล่าวลงบนโซเชี่ยลมีเดียของตัวเองตาม [caption id="attachment_144458" align="aligncenter" width="840"] เมื่อ FSG เป็นผู้ร้ายในสายตาของแฟนบอล ลิเวอร์พูล  [/caption] ท้ายที่สุดความวุ่นวายทุกอย่างสงบลงหลังจาก ทั้ง 6 สโมสรในพรีเมียร์ลีก ถอนตัวจาก ซูเปอร์ ลีก และต้องออกมาออกจดหมายอย่างเป็นทางการขอโทษแฟนบอลของตัวเอง ในส่วนของ ลิเวอร์พูล จอห์น เฮนรี่ ทำการอัดคลิปขอโทษด้วยตัวเองแทนการส่งจดหมายเป็นอักษรให้เห็นความจิงใจของ ผู้บริหารที่อาจจะก้าวพลาดไปในเกมครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเรื่องวุ่นไม่ได้จบเพียงแค่นั้น ผลกระทบที่ตามมาคือ แฟนบอลบางกลุ่มต้องการให้ FSG ขายสโมสรนี้ให้กับกลุ่มนายทุนอื่นที่พร้อมจะรักในฟุตบอลเข้ามาบริหารมากกว่า ก่อเกิดเป็นการประท้วง โดยมีแกนนำหลักเป็นนักวิจารณ์ฝีปากกล้า อดีตตำนานนักเตะอย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่ยืนอยู่ข้างเดียวกับแฟนบอลในการผลักดันให้ FSG ขายสโมสรในครั้งนี้ ขณะที่เหล่าตำนานนักเตะบางส่วนก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำได้คืบเอาศอกดังกล่าวของแฟนบอล อย่าง จอห์น บาร์นส์ ตำนานปีกของ ลิเวอร์พูล ได้ออกมาเตือนแฟนบอลว่าอย่าเสียเวลาไปกับการมโนกันเองว่าเจ้าของคนใหม่จะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรแทน FSG เพราะทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด หรือต่อให้ FSG ขายหุ้นให้กับเหล่าแฟนบอลเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม วันหวานชื่นแบบนั้นก็ไม่มีจริง เพราะคงไม่มีแฟนบอลคนไหนมีศักยภาพพอในการซื้อหุ้น ลิเวอร์พูล ในสถานการณ์ที่ต้องรัดเข็มขัดเช่นนี้ สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็คือเกมทางธุรกิจและผลประโยชน์ แฟนบอลไม่ได้รับชัยชนะ แต่มันคือชัยชนะของใครก็ตามที่ดึงเอาแฟนบอลมาเป็นเครื่องมือ สุดท้ายแล้วมันอาจจะลงเอยแบบนิทานอีสปกบเลือกนาย ส่วนทางด้าน เจมี่ เร้ดแนปป์ ก็ออกโรงด้วยเช่นกันด้วยการบอกให้แฟนบอลคิดทบทวนให้ดี และใจเย็น FSG อาจจะเดินหมากผิดพลาดเพราะเขาไม่ได้เชียร์ ลิเวอร์พูล มาแต่เกิด และอาจจะไม่ได้เข้าใจในความเป็นฟุตบอลมากนัก มันเป็นเรื่องของอำนาจเงิน และควรระวังกับความต้องการเหล่านั้นมากขึ้น แต่ใครก็ผิดพลาดกันได้ FSG เองก็ทำผิดพลาดแต่พวกเขายอมถอยให้แฟนบอลได้สิ่งที่ต้องการแล้วนั่นเอง เมื่อ FSG เป็นผู้ร้ายในสายตาของแฟนบอล ลิเวอร์พูล ปัจจุบัน เข้าสู้ปีที่ 11 แห่งการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ FSG เข้ามาบริหาร สโมสร ลิเวอร์พูล จากใกล้ล้มละลายสู่การคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก FSG ของ จอห์น เฮนรี่ คือผู้ที่มากอบกู้สถานการณ์ จากชาย 2 คนที่ได้ชื่อว่า "ปลิงมะกัน" ทอม ฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ตต์ จน ลิเวอร์พูล ยืนหยัดได้ทุกวันนี้ หากไม่มีกลุ่มทุน FSG ที่โอบอุ้ม ลิเวอร์พูล ในวันนั้น สโมสร ลิเวอร์พูล อาจจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างวันนี้ หรืออาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวหลายปีกว่าจะกลับมายิ่งใหญ่ได้ดังเดิม FSG เริ่มปรับปรุง ลิเวอร์พูล ด้วยการค่อยเปลี่ยนแปลงทีละนิด ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คือการเซ็นสัญญาสุดยอดกุนซือ ผู้มีเคมีและทัศนคติตรงกับ ลิเวอร์พูล มากสุด อย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีม รวมถึงพัฒนาเรื่องการตลาดจนมูลค่าของสโมสรเพิ่มขึ้น และสิ่งที่พวกเขาต้องการก็เกิดผล การกวาดคว้าแชมป์ในรอบ 2 ปี ที่ผ่านมา และที่สำคัญคือการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ส่งผลให้รายได้เข้าสโมสรมหาศาล ก่อนที่จะมาหยุดชะงักในยุคของการระบาดของ โควิด-19 ปฏิเสธไม่ได้ว่าการบริหารแบบอเมริกันอาจไม่ได้เข้าใจถึงฟุตบอลถ่องแท้ แต่เรื่องธุรกิจพวกเขาคือมือหนึ่งในด้านนี้ การบริหารช่วงที่ผ่านมามีบ้างที่การบริหารงานผิดพลาดไป แต่สุดท้ายพวกเขาก็เดินกลับเข้ามาในเส้นทางที่ถูกที่ควร มีบ้างที่เขาอาจลืมนึกถึงความรู้สึกของแฟนบอล เพราะมองแต่มุมธุรกิจ แต่เขาก็ยอมลดอีโก้ลงมาเพื่อขอโทษ ตรงส่วนนี้แฟนบอลน่าจะชื่นชมในความแมนจากใจที่พวกเขาต้องการสื่อออกมา หากพูดในฐานะแฟนบอลที่มองบางเรื่องในมุมของแฟนบอลด้วยกันเองแล้ว ต้องยอมรับว่าผู้ถ่ายทอดเรื่องราวอาจไม่เห็นด้วยกับทัศนคติบางอย่างของบอร์ดบริหาร เรื่องเงินการซื้อนักเตะ เราก็ไม่ได้ไปรู้รายละเอียดการจัดการบริหารเบื้องลึก ใจเราก็อยากได้นักเตะระดับเวิลด์คลาสเข้ามายกระดับทีมเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้ว เราเป็นเพียงแฟนบอลทำหน้าที่ในการสนับสนุนทีมรักต่อไปในแบบของเรา เพราะบางทีทฤษฎีมันยากกว่าปฏิบัติจริง ส่วนผู้บริหารก็มีบทบาทหน้าที่ทำให้สโมสรไปรอดและยั่งยืนที่สุด ซูเปอร์ ลีก อาจไม่ใช่คำตอบในการหาเงิน เพราะเหตุผลทางฟุตบอลมันน้อยกว่าทางธุรกิจ แต่เชื่อว่าการขับไล่ FSG ก็ไม่ใช่คำตอบของเรื่องทุกอย่างเหมือนกัน เราคงต้องเชื่อมั่นในการบริหารการเงินของ FSG ต่อ มันอาจขัดใจบ้าง แต่สุดท้ายการบริการงานในแบบพวกเขาทำให้ ลิเวอร์พูล กลับมาสู่จุดที่ควรจะเป็นเช่นทุกวันนี้ เราไม่ทราบปัญหาการเงินข้างในว่ามากน้อยขนาดไหนในยุค โควิด แบบนี้ ปล่อยให้ทุกคนทำหน้าที่ตามบทบาทของตัวเอง ส่วนเราในฐานะแฟนบอลทำหน้าที่ของตัวเองด้วยการเชียร์ทีมรักในการลงแข่งขันทุกแมตช์กันต่อไป ความคิดคนเราไม่เหมือนกัน แต่บางครั้งอะไรสุดโต่งเกินไปก็มีแต่จะพัง ถอยคนละก้าวกลับมาย้อนดูสิ่งที่ทำไป เราอาจจะได้เห็นสิ่งสำคัญที่เราพลาดมันไป You’ll never walk alone.

- เปี๊ยกบางใหญ่ -

logoline