logo-heading

สุดท้ายศึก "แดงเดือด" ที่พวกเราเหล่าแฟนบอลตั้งตารอก็ไม่เกิดขึ้นจนได้ เพราะมีสาวก "ปีศาจแดง" รวมตัวกันนับพันคนไปประท้วงอยู่หน้าสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น ไม่ใช่แค่นั้นยังบุกเข้ามาถึงในสนามและห้องแต่งตัวอีกด้วย ทำเอาวุ่นวายกันไปใหญ่ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าน่าจะเคลียร์สถานการณ์กันได้ แค่เลื่อนเวลาเตะออกไปสักหน่อย 

  อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วพอเคลียร์แฟนบอลออกจากสนามกับออกจากห้องแต่งตัวนักเตะได้แล้ว แต่แฟนผีก็ยังไม่ยอมไปไหน ยังรวมตัวกันอยู่ที่หน้าสนามทำให้เหล่านักเตะทั้ง 2 ทีมไม่สามารถเดินทางออกจากโรงแรมมาแข่งขันได้ เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย รวมถึงเรื่องของโควิด-19 ด้วย และจนแล้วจนรอด แมนฯ ยู กับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็เป็นฝ่ายต้องยอมถอย ประกาศยกเลิกการแข่งขันในเกมนี้ไปก่อน แน่นอนแหละว่าการกระทำครั้งนี้ของแฟนผี มันเกินเบอร์ไปมาก แต่พวกเขาทำเพื่ออะไรทำไมถึงต้องทำกันขนาดนี้ เรามาฟังไปพร้อมๆ กันดีกว่า  อย่างที่ทุกท่านทราบดีครับว่า แฟนผี ที่รวมตัวกันประท้วงเนี่ยเพื่อขับไล่ตระกูล เกลเซอร์ เจ้าของสโมสร ที่เข้ามาเทคโอเวอร์ซื้อทีมเมื่อปี 2005 ที่ราคา 790 ล้านปอนด์ ซึ่งหากย้อนกลับไปในช่วงแรกๆ ที่มาซื้อทีมก็ยังมีแฟนผีที่ดี๊ด๊าคิดว่าได้มหาเศรษฐีเข้ามาเกื้อหนุน ทว่าพออยู่ไปอยู่มามันไม่ใช่เลย เห็นได้ชัดว่าตระกูลเกลเซอร์ มาเพื่อกอบโกยและหวังผลทางธุรกิจเท่านั้น ไม่ได้มีจิตวิญญาณที่รักสโมสรเลยสักนิด ไม่สนใจบริหารทีม สนใจแต่ทำธุรกิจ เงินๆๆ อย่างเดียว และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เหล่าแฟนผี เริ่มรวมตัวกันประท้วงตระกูลเกลเซอร์ ซึ่งการประท้วงนั้นมีสัญลักษณ์คือสีเหลือง-เขียว ซึ่งเป็นสีดั้งเดิมของทัพ "ปีศาจแดง" ตอนที่ยังใช้ชื่อ นิวตัน ฮีธ อยู่ แต่ประท้วงไปประท้วงมา คนมันก็ไม่ได้เยอะ แล้ว "ปลิงมะกัน" ที่แฟนผีตั้งฉายาให้ก็ดูไม่ได้สะทกสสะท้านอะไร ทำให้พอเวลาผ่านไปมันก็เลยดูกร่อยๆ ทว่าพอมาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน บอร์ดบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไปลงชื่อเป็น 1 ใน 12 ทีมที่เข้าร่วมศึก ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก ซึ่งทำให้แฟนผี ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ เพราะเป็นการไม่ให้เกียรติแฟนบอล รวมถึงเหล่านักเตะที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วย และเหตุผลหลักที่เข้าร่วม ซูเปอร์ลีก ก็ไม่ใช่อะไรอื่นก็ "เงิน" อีกนั่นหละครับ แม้ว่าอีกไม่กี่วันต่อมา "ปีศาจแดง" จะแถลงการณ์ขอถอนตัวออกจากศึก ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก อันฉาวโฉ่ แต่แฟนบอลก็ยังคงเครียดแค้น บวกกับคดีเก่าที่เห็นแก่เงิน ไม่สนถ้้วยแชมป์ ก็ทำให้เกิดการจุดติดม็อบขึ้นมาประท้วงอีกครั้ง ซึ่งมีการส่งสัญญาณเตือน รวมกลุ่มกันเล็กๆ บุกเข้าสนามซ้อมมาแล้วเมื่อไม่ี่วันก่อนเกม "แดงเดือด" แต่วันนั้นรวมตัวกันไม่เยอะ แค่ 20 กว่าคนได้ แล้วก็มี โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้เป็นกุนซือที่บากหน้าเข้ามารับหน้า เจรจาไกล่เกลี่ยให้แฟนบอลกลับบ้านไป แต่ใครจะคิดหละว่าอีกไม่กี่วันถัดมาจาก 20 คน จะแปรเปลี่ยนเป็นเกือบ 2 พันคนได้ แถมเลือกแสดงออกในเกมที่แฟนบอลทั้งโลกตั้งตารอคอยนั่นคือศึก "แดงเดือด" ที่จะปะทะกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ซึ่งต้องบอกเลยว่าได้ซีนไปเต็มๆ ทั่วโลกสนใจ แต่มันเป็นการทำเกินไปมั้ย? เข้าใจแหละเรื่องการประท้วงตระกูลเกลเซอร์ หรือ ปลิงมะกัน ที่แฟนผีเรียก แต่การทำแบบนี้ มันส่งผลดี หรือมีประโยชน์อะไรไม่ทราบ มีแต่ทำให้ทีมรักของตัวเองเสียหายทั้งนั้น มีสิทธิ์จะโดนตัดแต้ม มีสิทธิ์จะโดนปรับเงิน มีสิทธิ์จะโดนไม่ให้เล่นในบ้านอีก และอื่นๆ อีกเยอะแยะ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะโดนลงโทษอะไร แต่โดนแน่นอนเพราะไม่สามารถควบคุมแฟนบอลตัวเองได้ ประโยชน์อย่างเดียวของการทำแบบนี้ก็คือ ตระกูลเกลเซอร์ รู้แล้วแหละว่าแฟนผีเกลียดเขามากมายขนาดไหน แต่ถามว่าสะทกสะท้านอะไรไหม? ผมว่ามันก็ไม่นะ ก็กูคือเจ้าของ กูไม่ออกซะอย่างพวกมึงจะทำอะไรได้ แต่ก็มีข่าวอยู่นะว่า เกลเซอร์ พร้อมจะขาย "ผีแดง" ทิ้ง หากได้ราคาไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านปอนด์ หรือราว 160,000 ล้านบาท!! คุณพระคุณเจ้า ถ้าจะขายราคาตามที่มีข่าวนี้จริง ตระกูลเกลเซอร์ ที่ฟันกำไรมามากโขกับการเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนต็ด จะได้กำไรเพิ่มขึ้นจากตอนที่ซื้อทีมเมื่อปี 2005 อีกเกือบ 5 เท่า!! ซึ่งแฟนผีที่ประท้วงคงไม่สนใจหรอกว่าจะได้กำไรเท่าไหร่ ขอแค่ เกลเซอร์ ออกไปก็พอ แต่ดูแล้วคงยากที่จะมีใครมาซื้อหากขายในราคานี้  อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องตามต่อคือ แล้วเกมแดงเดือดนี้จะโยกไปแข่งเมื่อไหร่ ในเมื่อโปรแกรมมันชุกซะเหลือเกิน ถ้าจะแข่งภายในสัปดาห์นี้ก็คงยาก เพราะ แมนฯ ยู มีเกมรอบรองชนะเลิศ ยูโรปา ลีก เลก 2 ที่จะบุกไปเยือนกับ อาแอส โรม่า รออยู่ในคืนวันพฤหัสนี้ แม้เลกแรกจะชนะมาขาด 6-2 แล้วก็ตามทีเถอะ

ท้ายสุดแล้วเราก็คงทำได้แค่ติดตามดูกันต่อไปว่าศึก "แดงเดือด" หนนี้จะได้แข่งอีกทีเมื่อไหร่ และ แมนฯ ยูไนเต็ด จะโดนบทลงโทษอะไรบ้างจากการที่ปล่อยให้แฟนบอลแผลงฤทธิ์หนักขนาดนี้ โปรดติดตามตอนต่อไป

 

ชิน ชินพัฒน์

 
logoline