logo-heading

ในที่สุดการแข่งขันล่าความสำเร็จที่แสนยาวนานเกือบๆ 1 ซีซั่นก็สิ้นสุดลง เมื่อบทสรุปออกมาแล้วว่า อินเตอร์ มิลาน คือผู้ครองแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประจำซีซั่น 2020-21 และนี่ก็คือ 10 เรื่องราวอันน่าสนใจที่เกิดขึ้นกับพวกเขา จะมีอะไรบ้างไปติดตามจากทางเรา "ขอบสนาม" ได้เลย

เริ่มต้น - จุดจบ

รูปภาพ อันโตนิโอ คอนเต้ กำลังจะพาลูกทีม อินเตอร์ มิลาน เถลิงบัลลังก์แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อย่างยิ่งใหญ่ในฤดกาล 2020-21 เท่ากับว่าเขาคนนี้จะเป็นผู้ที่หยุดสถิติการคว้า สคูเด็ตโต้ ติดต่อกัน 9 ฤดูกาลของคู่แข่งอย่าง ยูเวนตุส ลงได้ อย่างไรก็ตามถ้าหากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนหรือปี 2011 อันโตนิโอ คอนเต้ คนนี้นี่แหละที่เข้ามาและปลุกให้ ยูเวนตุส ฟื้นคืนชีพกลับมาจนกลายเป็นสโมสรเบอร์ 1 ของ อิตาลี อีกครั้ง เรื่องแนวทาง รากฐานและระบบต่างๆ ทุกสิ่งมาจากฝีมือและกึ๋นของเขาทั้งหมด เขาพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ 3 สมัยติดต่อกัน ก่อนจะอำลาตำแหน่งไปในปี 2014 และเมื่อตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบันสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นก็เท่ากับว่า ผู้ที่สร้างและทำลายความยิ่งใหญ่ของ ยูเวนตุส ลงได้ก็คือคนๆ เดียวกันนั่นก็คือผู้ชายที่ชื่อ อันโตนิโอ คอนเต้

แชมป์ลีกที่ 5

ถ้านับเฉพาะการทำงานในเส้นทางระดับสโมสรตัวของ อันโตนิโอ คอนเต้ เองก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า "เขาคือผู้ชนะอย่างแท้จริง" อย่างที่ทราบกันว่าเขาคือคนที่พา ยูเวนตุส คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ได้ 3 สมัยติดต่อกัน ก่อนจะย้ายมา เชลซี ตอนปี 2016 และในฤดูกาลแรกของเขาสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นก็คือการปาดหน้า 2 เต็งแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มี โชเซ่ มูรินโญ่ ด้วยการพาทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก  มาครองได้สำเร็จในฐานะทีมนอกสายตา และปีนี้การคว้าแชมป์กับ อินเตอร์ มิลาน ก็เท่ากับว่าการคุมทีมในระดับสโมสรแบบเต็มๆ 7 ซีซั่น อันโตนิโอ คอนเต้ คว้าแชมป์ลีกได้ถึง 5 ครั้ง นับเป็นสถิติที่เยี่ยมยอดสุดๆ 

แต้มเท่ากับปี 2010

หลังจากบุกเชือดทีมบ๊วยอย่าง โครโตเน่ 2-0 ตามด้วย อตาลันต้า ที่ทำให้แค่บุกไปเสมอกับ ซาสซูโอโล่ 1-1 นั่นทำให้ อินเตอร์ มิลาน ได้กลายเป็นแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประจำฤดูกาล 2020-21 ในทันที และ ณ วินาทีนี้พวกเขามี 82 คะแนนจากการลงเล่น 34 นัดซึ่งเป็นจำนวนแต้มที่เท่ากับปี 2010 ที่พวกเขาได้แชมป์ลีกครั้งล่าสุดในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากซีซั่นนี้มันยังไม่จบ อินเตอร์ มิลาน ยังเหลือการแข่งขันอีก 4 นัด ก็เท่ากับว่าพวกเขายังมีโอกาสเก็บเพิ่มได้เป็น 94 คะแนน แต่ถึงกระนั้นสถิติที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรจะยังคงเป็นของฤดูกาล 2006-07 ที่พวกเขาเป็นแชมป์ด้วยการมี 97 คะแนน

แพ้น้อยสุดในลีกยุโรป

รูปภาพ ถ้านับแค่ช่วงเวลานี้คุณรู้ไหมว่า อินเตอร์ มิลาน คือสโมสรที่เจอความพ่ายแพ้แค่เพียง 2 นัดเท่านั้น นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดในแวดวงลีกยุโรปประจำซีซั่นนี้ ขนาดพวก แอตเลติโก มาดริด, บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือแม้กระทั่ง เรอัล มาดริด พวกนี้ต่างก็พบกับความปราชัยไปแล้วถึง 4 นัดด้วยกัน ดังนั้นถ้า อินเตอร์ มิลาน อยากรักษาความเป็น นัมเบอร์ วัน ของสถิติดังกล่าวก็เท่ากับว่าอีก 4 นัดที่เหลือในการดวลแข้งกับ ซามพ์โดเรีย, โรม่า, ยูเวนตุส และ อูดิเนเซ่ พวกเขาห้ามแพ้เด็ดขาด ส่วน 2 เกมที่ขุนพล "เนรัซซูรี่" พ่ายไปในปีนี้เกิดขึ้นในนัดที่แพ้ เอซี มิลาน 1-2 ช่วงเดือนตุลาคม 2020 และแพ้ ซามพ์โดเรีย 1-2 ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา

คนที่ 2 ที่พา อินเตอร์-ยูเว่ เป็นแชมป์

บนหน้าประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอิตาลีมีสถิติบันทึกเอาไว้ว่า อันโตนิโอ คอนเต้ ได้กลายเป็นกุนซือคนที่ 2 ที่สามารถคว้า สคูเด็ตโต้ ได้กับทั้งสโมสร อินเตอร์ มิลาน และ ยูเวนตุส ต่อจาก โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ ที่เคยพา ยูเวนตุส คว้าแชมป์ลีกได้ 6 สมัยในช่วงปี 1976-86 ส่วนกับ อินเตอร์ มิลาน นั้นเกิดขึ้นในฤดูกาล 1988-89

แชมป์แรกในรอบ 11 ปี

อย่างที่เพิ่งกล่าวไปข้างต้นว่า อินเตอร์ มิลาน ของ อันโตนิโอ คอนเต้ คือทีมที่สามารถหยุดความยิ่งใหญ่ของ ยูเวนตุส เอาไว้ได้ในการเถลิงบัลลังก์แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ติดต่อกัน 9 สมัยซ้อน และนี่ก็คือการได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 หรือเมื่อ 11 ปีก่อนที่เกิดขึ้นในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งฤดูกาลดังกล่าวนั้นถือเป็นปีที่พิเศษยิ่งกว่าปีไหนๆ เพราะนั่นคือปีที่พวกเขาเถลิงบัลลังก์ ทริปเปิ้ล แชมป์ ได้เป็นครั้งแรกบนหน้าประวัติศาสตร์สโมสร ส่วนปีนี้แม้ว่าจะไม่ถึง ทริปเปิลแชมป์ แต่ว่ามันก็เป็นสิ่งที่สุดยอดกล้วยทอดสองถุงอยู่ดี

คู่หูดูโอ้กองหน้า

รูปภาพ การมีผู้เล่นที่หวังผลได้ดีในเรื่องของการจบสกอร์รวมถึงการสร้างสรรค์เกม ยิ่งมีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ทีมของคุณมีโอกาสเป็นแชมป์มากเท่านั้น ถ้าพูดถึงหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งให้ อินเตอร์ มิลาน เป็นแชมป์ก็คือการมีคู่หูดูโอ้ที่ร้ายกาจไม่เบา นั่นก็คือการมี โรเมลู ลูกากู และ เลาทาโร่ มาร์ติเนซ มีการเปิดเผยออกมาว่าทั้งคู่มีส่วนร่วมกันถึง 51 ประตูจาก 74 ประตูที่ต้นสังกัดยิงไปได้ทั้งหมดในซีซั่นนี้ โดยตัวของ โรเมลู ลูกากู พิสูจน์แล้วว่าเขาคือผู้เล่นที่ดีที่สุดของ อินเตอร์ มิลาน จากการซัดไป 21 ประตู และกดไปอีก 10 แอสซิสต์ ขณะที่ เลาทาโร่ มาร์ติเนซ ซัลโวไปอีก 15 ประตู และกดไปอีก 5 แอสซิสต์ด้วยกัน

เกมรับดีที่สุดในลีก

เหมือนกับที่เขาพูดกันไว้ว่า "เกมรุกจะทำให้คุณชนะในเกม แต่เกมรับจะทำให้คุณเป็นแชมป์" ซึ่งนิยามนี้มันก็ตรงกับสถานการณ์ของ อินเตอร์ มิลาน พอดิบพอดี เพราะในฤดูกาล 2020-21 หรือจนถึงตอนนี้พวกเขาคือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกที่ 29 ประตูซึ่งน้อยกว่าทีมแชมป์เก่า ยูเวนตุส ที่เสียน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่ 31 ประตู อย่างไรก็ตามถ้านับในแวดวงสังเวียน 5 ลีกดังยุโรปก็ยังมีพวก ลีลล์, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, เซบีย่า, แอตฯ มาดริด, เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ไลป์ซิก ที่เสียน้อยกว่าพวกเขา

โรเมลู ลูกากู

รูปภาพ ถ้ายังจำกันได้ อันโตนิโอ คอนเต้ เคยพยายามเดินเรื่องเซ็นสัญญาคว้าตัว โรเมลู ลูกากู มาแล้วครั้งหนึ่งสมัยคุม เชลซี แต่สุดท้ายได้ อัลบาโร่ โมราต้า มาแทน ส่วนตัวของ ลูกากู ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ได้ร่วมงานกับนักเตะที่เล็งมานานสมใจ และล่าสุดก็คว้าแชมป์ด้วยกันด้วยที่ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งในตัวของ โรเมลู ลูกากู พี่แกเพิ่งสร้างสถิติเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้แตะหลัก 20 ประตู และทำได้แตะหลัก 10 แอสซสิต์ใน 1 ซีซั่นของ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นับตั้งแต่ที่ Opta มีการจัดเก็บสถิติเมื่อฤดูกาล 2004-05 มันกลายเป็นการลบคำสบประมาทที่มีต่อเขาโดยสิ้นเชิง หลังจากที่จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแบบไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ 

แชมป์มากที่สุดอันดับ 2

การเถลิงบัลลังก์แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในฤดูกาล 2020-21 ภายใต้บัลลังก์ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ทำให้ตอนนี้ อินเตอร์ มิลาน กลายเป็นสโมสรที่คว้า สคูเด็ตโต้ ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นอันดับ 2 ที่ 19 สมัย แซงหน้าคู่อริร่วมเมืองอย่าง เอซี มิลาน ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ถือว่ายังตามหลังอีกหนึ่งศัตรูอย่าง ยูเวนุตส อยู่ไกลเหมือนกันซึ่งครองสถิติไว้ที่ 36 สมัย เมื่อนับ 1 ได้แล้วในรอบ 11 ปีกับการคว้าแชมป์สมัยแรก และชาวแฟนๆ "ขอบสนาม" ล่ะครับ คิดว่านับตั้งแต่นี้ไปจะเปลี่ยนมาเป็นยุคสมัยของ อินเตอร์ มิลาน แล้วรึยัง ? พวกเขาจะสามารถรักษาความเป็น นัมเบอร์ วัน นี้ไปได้นานแค่ไหนกัน ?

HaMu Dos Santos 

logoline