หน้าแรก
หน้าแรก
รวม โมเมนต์ น่าจดจำ ! ของชายที่ชื่อ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับ ลิเวอร์พูล
25 พ.ค. 2564 | 18:47 น.
0
HaMuDosSantos
คลิกฟังข่าว!!
กำลังโหลด
ฤดูกาล 2020-21 ได้ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขณะเดียวกันมันก็เป็นปีสุดท้ายของนักเตะหลายๆ คนกับต้นสังกัดของตัวเองซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับ ลิเวอร์พูล
ในเมื่อเป็นการจากลาของนักเตะคนหนึ่งที่มีความสำคัญมากๆ กับ "หงส์แดง" วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือการรวบรวม "ช่วงเวลาโมเมนต์สำคัญของ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ตลอดระยะเวลา 5 ปีกับ ลิเวอร์พูล"
เปิดตัวกับ ลิเวอร์พูล
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 1 ฤดูกาลกับ
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
ซึ่งเป็นปีแรกที่พี่แกได้โลดแล่นบนสังเวียน
พรีเมียร์ลีก
และก็ทำให้
เจอร์เก้น คล็อปป์
เกิดรู้สึกสนใจจนต้องเดินเรื่องคว้าตัวมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 ด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี และได้สวมเสื้อหมายเลข 5
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ได้ประเดิมสนามเกมแรกให้
ลิเวอร์พูล
บนเวที
พรีเมียร์ลีก
ในนัดที่เจอกับ
อาร์เซน่อล
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ปี 2016 โดยได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ลงเล่นไป 80 นาที แถมยังมีส่วนช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะได้ 4-3 จากการทำแอสซิสต์ให้
อดัม ลัลลาน่า
พังประตูที่ 2
เปิดซิงตุงแรก
หลังได้ประเดิมสนามใน
ลิเวอร์พูล
ไปแล้วจากนั้นไม่นาน
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ก็สามารถเปิดซิงประตูแรกในสีเสื้อ
"หงส์แดง"
ได้ซึ่งเกิดขึ้นในนัดที่ต้นสังกัดจัดการไล่ยำใหญ่
วัตฟอร์ด
ไปด้วยสกอร์ 6-1 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ปี 2016
ลูกโขกอันทรงพลัง
ในยุคที่
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สถาปนากลายมาเป็นสโมสรเบอร์ 1 ของอังกฤษ มันก็ทำให้อรรถรสของทุกเกมที่เจอกับ
ลิเวอร์พูล
กลายเป็นศึกบิ๊กแมตช์ที่ดุเดือดเข้มข้น ไม่ได้ต่างจากศึก
"แดงเดือด"
ที่ต้องเจอกับ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เลย ซึ่งตัวของ
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
เองก็เคยฝากประตูสวยๆ งามๆ เอาไว้ในเกมที่ต้องเจอกับ
"เรือใบสีฟ้า"
โดยเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2016
จังหวะดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในนาทีที่ 8 เมื่อ
อดัม ลัลลาน่
า พาบอลขึ้นเกมมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะชายตามองไปในกรอบเขตโทษและบรรจงเปิดลอยไปทางเสาไกลให้
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
วิ่งมากระโดดเทคตัวโหม่งอย่างแรงก่อนบอลจะพุ่งเสียบเสาไปอย่างสวย และนั่นคือประตูเดียวที่เกิดขึ้นในเกมนั้น พร้อมกับพา
ลิเวอร์พูล
เก็บ 3 แต้มสำคัญได้สำเร็จ
ประตูทำลายสถิติ UCL
ศึก
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ในฤดูกาล 2017-18 ถ้าจะพูดถึงโมเมนต์ที่น่าจดจำของชายที่ชื่อ
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ก็คงเป็นรอบรองชนะเลิศ ที่เจอกับ
โรม่า
นี่แหละ เพราะพี่แกสามารถใสชื่อบนสกอร์บอร์ดได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันรายการนี้ซึ่งเกิดขึ้นในเลกที่ 2 ที่บุกไปเยือน
สตาดิโอ โอลิมปิโก้
และที่สำคัญคือประตูจากลูกโหม่งของ
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
นับเป็นประตูที่ 46 ที่
ลิเวอร์พูล
ยิงได้ใน
ยูซีแอล
ซีซั่นนั้น นับเป็นการทำลายสถิติเดิมของ
บาร์เซโลน่า
ที่ซัดไป 45 ประตูในซีซั่น 1999-2000
ถึงแม้เกมนั้น
ลิเวอร์พูล
จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 2-4 แต่พวกเขาก็ได้ตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจากการชนะไปด้วยสกอร์รวม 7-6 อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดพวกเขาก็ต้องไปอกหักให้รอบชิงชนะเลิศซึ่งต้องแพ้ให้กับ
เรอัล มาดริด
ไปอย่างน่าเจ็บใจ 1-3
เกมที่ 100 กับ หงส์แดง
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
กลายเป็นอีก 1 นักเตะบนหน้าประวัติศาสตร์
ลิเวอร์พูล
ที่ลงเล่นให้สโมสรครบ 100 นัด รวมทุกรายการ ซึ่งเกิดขึ้นในเกมที่เสมอกับ
เชลซี
1-1 เมื่อวันที่ 29 กันยายน ปี 2018 เช่นเดียวกับวันที่ 14 เมษายน ปี 2019
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ก็ได้โอกาสลงเล่นนัดที่ 100 ให้
ลิเวอร์พูล
ใน
พรีเมียร์ลีก
เหมือนกัน และเกมนั้นคู่แข่งของพวกเขาก็คือทีมเดียวกันนั่นก็คือ
"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี
เรียกว่าเป็นความบังเอิญที่ลงตัวเลยทีเดียว
โมเมนต์สำคัญที่สุดในชีวิต
ถ้าจะพูดถึงโมเมนต์ที่น่าจดจำและประตูที่สำคัญที่สุดในชีวิตของ
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ก็คงจะเป็นเกม
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบรองชนะเลิศ นัด 2 ที่
ลิเวอร์พูล
ต้องเจอกับ
บาร์เซโลน่า
เมื่อฤดูกาล 2018-19
ความหวังในการเถลิงบัลลังก์แชมป์
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
สมัยที่ 6 ค่อนข้างเลือนลางและริบหรี่มากๆ เมื่อ
ลิเวอร์พูล
บุกไปโดนยำในนัดแรกที่
คัมป์ นู
0-3 แน่นอนว่าการจะพลิกนรกกลับมาโค่นทีมอย่าง
บาร์เซโลน่า
มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ในโลกของฟุตบอล และในเกมเลก 2 จุดเปลี่ยนและจุดพลิกชะตาของ
ลิเวอร์พูล
ได้เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลัง เพราะ
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ใช้เวลาแค่เพียง 2 นาที (นาทีที่ 54 และ 56) ในการยิง 2 ประตู พร้อมกับพา
ลิเวอร์พูล
กลับมาเป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบ และครองเกมได้เกือบทั้งหมดในสกอร์ 3-0 และเหลือเวลาให้เล่นงานฝ่ายตรงข้ามอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง จนท้ายที่สุดต้นสังกัด
"หงส์แดง"
ก็มาได้ประตูที่ 4 จนได้ ก่อนจะตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
และเป็นแชมป์สมัยที่ 6 สมดั่งใจหวัง
เมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้
ตั้งแต่
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ย้ายจาก
นิวคาสเซิ่ล
มาโลดแล่นผจญภัยกับ
ลิเวอร์พูล
เมื่อปี 2016 พี่แกยังไม่เคยมีชื่อทำประตูได้เลยในศึก
เมอร์ซี่ย์ ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์
ที่เจอกับคู่แข่งเพื่อนบ้านอย่าง
เอฟเวอร์ตัน
จนกระทั่งวันที่ 9 ธันวาคม ปี 2019 ในช่วงที่
ลิเวอร์พูล
กำลังฟอร์มฮอตเปรี้ยงปร้างสุดๆ พวกเขาจัดการไล่ยำใหญ่
"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ไ
ปแบบถล่มทลาย 5-2 และแน่นอนว่าหนึ่งในผู้ทำประตูในเกมๆ นั้นมีชื่อของ
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ด้วยซึ่งเกิดขึ้นในประตูสุดท้ายของเกม
แชมป์ พรีเมียร์ลีก
นอกจากถ้วยแชมป์
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์
ที่
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ได้สัมผัสกับมันเป็นครั้งแรกในชีวิตเมื่อฤดูกาล 2018-19 ในซีซั่นถัดมาเจ้าตัวยังคงเป็นส่วนสำคัญและช่วยให้
ลิเวอร์พูล
สานฝันได้สำเร็จนั่นก็คือการได้เถลิงบัลลังก์แชมป์
พรีเมียร์ลีก
เป็นครั้งแรกบนหน้าประวัติศาสตร์สโมสร และก็ถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษครั้งแรกในรอบ 30 ปีด้วย โดยในฤดูกาลนั้น
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ได้โอกาสลงเล่นในลีกไปทั้งหมด 37 นัด และยิงได้ 4 ประตู
วันอำลา
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ลงเล่นเกมนัดสุดท้ายในสีเสื้อ
ลิเวอร์พูล
ในนัดที่เปิดบ้านอัด
คริสตัล พาเลซ
2-0 นอกจากจะสมหวังกับการได้โควต้าไปเล่น
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แล้ว พอจบเกม
เจอร์เก้น คล็อปป์
ก็ได้สั่งให้ลูกทีม
"หงส์แดง"
ทุกคนมายืนตั้งแถวเพื่อให้เกียรติกับการอำลาของเขาในฐานะหนึ่งในตำนานของสโมสร ถึงแม้จะอยู่ทีมได้แค่ 5 ปี แต่
ไวจ์นัลดุม
จะอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ และถูกจดจำในยุคที่คว้าได้ทั้งแชมป์
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
และ แชมป์
พรีเมียร์ลีก
สมัยแรก
"ตอนนี้ผมต้องกลั้นน้ำตาไว้เลยนะ ผู้คนในเมืองลิเวอร์พูล แสดงความรักให้กับผมมาตลอด 5 ปีที่ผมมา ผมจะคิดถึงพวกเขามาก คุณรู้ไหมผมก็หวังว่าจะได้เล่นให้สโมสรไปอีกหลายปี แต่น่าเสียดายที่หลายสิ่งหลายอย่างมันเปลี่ยนไป ผมต้องเริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่ ผมรู้ดีว่าผมย้ายมาร่วมทีมที่ยิ่งใหญ่ ผมยังจำวันที่ผมนั่งห้องต้อนรับและบอสบอกว่าเมื่อผมย้ายมา ลิเวอร์พูล พวกเราจะคว้าแชมป์ ผมแฮปปี้ที่เราทำได้จริงๆ มันคงเจ็บปวดมากหากจากสโมสรไปโดยไม่มีแชมป์อะไรติดมือเลย"
"มันเป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ ตั้งแต่ผมย้ายมาที่นี่แฟนๆ ก็ร้องเพลงชื่อผม ทุกสัปดาห์พวกเขาจะเห็นว่าผมทุ่มเทเต็มที่ 100 เปอร์เซนต์ เพื่อสโมสร นั่นคือสิ่งที่แฟนบอลอยากจะเห็นและชื่นชอบในตัวผม มันคือสิ่งที่ผมจะคิดถึงมาก ผมยังไม่ได้เซ็นสัญญากับทีมไหน ทุกคนก็รู้ว่าในโลกฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ สถานการณ์ตอนนี้ก็คือวันที่ 1 มิถุนายน นี้ผมจะไม่ได้เป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล อีกแล้ว"
"ไว้เราค่อยมาดูว่าผมจะทำอะไรต่อไปในหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ ผมขอไปพักผ่อนสักหน่อยแล้วค่อยไปรับใช้ทีมชาติในยูโร ผมจะกลับไปทบทวนเรื่องราวของผม และดูว่าสิ่งต่างๆมันไปในทิศทางไหน แฟนๆสมควรจะได้รู้เรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังมัน"
นี่คือบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
ที่กล่าวไว้หลังจบเกมดังกล่าวซึ่งพูดถึงการเตรียมย้ายทีมเพื่อออกไปหาความท้าทายครั้งใหม่ ส่วนสโมสรที่น่าจะเป็นสถานีต่อไปนั้นตลอดช่วงที่ผ่านมาก็มีหลายทีมเช่นเดียวกัน และระดับยักษ์ใหญ่ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า ,บาเยิร์น มิวนิค หรือว่าจะเป็น เปแอสเช จะเป็นทีมไหนก็ต้องมาดูกัน
HaMu Dos Santos
อนาคตของ โทนี่ โครส กับ ทัพราชันชุดขาว จะอยู่ต่อหรือพอแค่นี้ ?
28 มี.ค. 2567
6
หอเกียรติยศพรีเมียร์ลีก! ใครคือตัวเต็งเข้าร่วมปี 2024?
27 มี.ค. 2567
743
ทุกอย่างอยู่ในมือ!! กับ 2 นัดสุดท้ายชี้ชะตาทีมชาติไทย ไปต่อหรือพอแค่นี้
27 มี.ค. 2567
53
ทีมชาติไทย แพ้ เกาหลีใต้ 0-3 คาบ้าน เห็นอะไรกันบ้าง ??
27 มี.ค. 2567
237
ทำไม? "ทีมชาติไทย" ถึงจะเอาชนะ "เกาหลีใต้" ไม่ได้!!
24 มี.ค. 2567
429
ขอบสนาม
รู้ใว้ใช่ว่า
เปิดไทม์ไลน์ ! คดีข่มขืนของ ดานี่ อัลเวส
29 มี.ค. 2567
โรเมโอ ลาเวีย เปิดใจ ! ถึงซีซั่นแรกที่น่าผิดหวังกับ เชลซี
28 มี.ค. 2567
ฟัง ! ลิโอเนล เมสซี่ เปิดใจถึงเรื่องอนาคต
28 มี.ค. 2567
เจ้าแรกของไทย ! "เนชั่น" เปิดตัวผู้ประกาศข่าว Ai ดีเดย์ 1 เม.ย. นี้
28 มี.ค. 2567
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ลิเวอร์พูล
ขอบสนาม
จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
รวม โมเมนต์ น่าจดจำ ! ของชายที่ชื่อ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับ ลิเวอร์พูล
ข่าวล่าสุด
เปิดไทม์ไลน์ ! คดีข่มขืนของ ดานี่ อัลเวส
29 มี.ค. 2567
มาดามแป้ง-บิ๊กป๋อม ผนึกจัดฟุตซอลดาราฟาดแข้ง, ช้างศึกโต๊ะเล็ก อุ่น คูเวต
29 มี.ค. 2567