logo-heading

ถ้าว่ากล่าวถึงชื่อของ เคย์เลอร์ นาบาส เขาอาจไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่ชื่อเสียงโด่งดัง หรือถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงมากเท่าไหร่นัก แต่ทว่าถ้ามองในเรื่องของคุณภาพเขาคือนายด่านเบอร์ต้นๆ ของโลกลูกหนังเลยก็ว่าได้

เพราะไม่ว่าจะอยู่ภายใต้เครื่องแบบของสโมสรไหน หรือยามลงเล่นให้ทีมชาติคอสตาริก้า นาบาส ก็มักจะดึงศักยภาพของตัวเองออกมาให้แฟนบอลได้เห็นอยู่อย่างบ่อยครั้ง แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่เหมือนความโชคร้ายของเขาคือต่อให้แม้จะมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมมากเพียงใด และโชว์ผลงานได้น่าประทับใจขนาดไหน ก็มักที่จะถูกเบียดแย่งตำแหน่งหมายเลข 1 ของทีมไปเสียทุกครั้ง ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปดูไล่เรียงไทม์ไลน์ชีวิตลูกหนังของนายด่านวัย 34 กันหน่อยว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไรบ้าง และเหตุการณ์ครั้งไหนที่ดูเหมือนเขาโดนกระทำแบบไม่สมควร และโดนยึดมือ 1 ไปแบบคาดสายตาแฟนบอล

แจ้งเกิดจากฟุตบอลโลก

ย้อนเวลากลับไปในศึกฟุตบอลโลก 2014 ทัวร์นาเมนต์ที่มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น รวมไปถึงการแจ้งเกิดได้อย่างโดดเด่นของ เคย์เลอร์ นาบาส นายทวารจากทีมชาติคอสตาริก้า ที่ในขณะนั้นต้องยอมรับว่าชื่อเสียงของเขาไม่ได้โด่งดังมากพอที่จะทำให้แฟนบอลรู้จักเขาได้ในวงกว้าง เพราะด้วยเส้นทางชีวิตลูกหนัง รวมไปถึงการค้าแข้งกับ เลบันเต้ ในตอนนั้นมันไม่มากพอที่แสงสปอร์ตไลท์จะสาดส่องไปถึง โดยในศึกครั้งดังกล่าว คอสตาริก้า ของ นาบาส ถูกจับฉลากไปอยู่กลุ่มเดียวกับ อุรุกวัย, อิตาลี และ อังกฤษ แน่นอนด้วยชื่อเสียงชาติของพวกถูกมองว่าเต็งบ๊วยของกลุ่ม หรือ "ขนมกรุ๊บ" ที่พร้อมให้ทีมอื่นโขยกเอาชนะไปได้แบบง่ายๆ แต่ทว่าความจริงแล้วทัพ "กล้วยหอม" กลับออกมาด้วยผลงานที่โคตรจะเพอร์เฟคด้วยการกวาดไปได้ถึง 7 คะแนน พร้อมผลงานแบบไร้พ่ายผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม ส่วนฟอร์มของ นาบาส เขาเสียไปเพียงประตูเดียวให้กับ อุรุกวัย ส่วนทัพ "อัซซูรี่" กับ "สิงโตคำราม" ไม่อาจยิงบอลผ่านมือของเขาไปได้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่พบกับ กรีซ ผลงานของ นาบาส โดดเด่นเกินกว่าทุกคนเขางัดผลงานการเซฟสวยๆ อยู่หลายครั้ง รวมไปถึงในช่วงดวลจุดโทษที่เขาเป็นพระเอกเซฟได้พาทีมกรุยทางเข้าสู่รอบต่อไป แม้สุดท้ายทีมจะมาหยุดเส้นทางที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการพ่ายจุดโทษต่อ เนเธอร์แลนด์ แต่ผลงานของ นาบาส ได้รับการยอมรับ และลงทะเบียนแจ้งเกิดเป็นที่เรียบร้อย เคย์เลอร์ นาบาส : นายด่านฝีมือดี แต่ไม่อาจครองใจเป็นเบอร์ 1

โดน มาดริด ดึงตัวไปเสริมแกร่ง

ภายหลังเฉิดฉายในศึกฟุตบอลโลก มีหรือที่หลังทัวร์นาเมนต์ นาบาส จะไม่เป็นที่ต้องการในตลาดซื้อ-ขาย นักเตะ ก่อนที่บทสรุปจะเป็น เรอัล มาดริด ที่ปิดดีลคว้าตัวมาครองด้วยค่าตัวราว 10 ล้านยูโร  แต่การย้ายทีมครั้งนี้ของเขามันไม่ใช่เรื่องง่ายในการจะยึดมือ 1 ของทีม เพราะด้วยซีซั่น 2014-15 ทัพ "ราชันชุดขาว" ยังคงมีพี่ใหญ่อย่าง อิเคย์ กาซิยาส ยืนขว้างหน้าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ที่เขาจะเบียด หรือสอดแทรกได้ สิ่งที่ นาบาส ทำได้คือการทำงานหนักของตัวเอง และเฝ้ารอโอกาสต่อไป แต่แล้วหลังจบฤดูกาลดังกล่าว เรอัล มาดริด ได้ทำการปล่อยตัว กาซิยาส ออกจากทีม ทำให้โอกาสครั้งใหญ่ตกมาใส่ นาบาส เข้าอย่างจัง เขาถูกเลื่อนขั้นมารับบทบาทนายด่านมือ 1 อย่างเต็มตัว ก่อนเป็นกำลังสำคัญพาทีมซิวแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้สำเร็จ ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีอีกหลายความสำเร็จถาโถมเข้ามาหาตัวเขา พร้อมยึดตำแหน่งตัวจริงแบบยาวๆ เพราะด้วยผลงาน และความสำเร็จ มันไม่มีข้อติมากพอที่จะปลดเชาลงจากตำแหน่งหมายเลข 1 ของสโมสร

ดีแค่ไหน ก็ยัง (เกือบ) ถูกปล่อย

นั่งไทม์แมชชีนกลับไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ 2015 เรอัล มาดริด ตกเป็นข่าวอย่างหนักว่าอยากจะได้ตัว ดาบิด เด เคอา นายด่านของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเรื่องนี้สร้างความสงสัยให้แฟนบอลมากพอควร เพราะทรัพยากรที่มีโดยเฉพาะ นาบาส เขาก็ดีพอที่จะยืนเฝ้าเสาให้กับสโมสร อีกทั้งก็เพิ่งประสบความสำเร็จมาด้วย ซึ่งสิ่งที่น่าน้อยใจสำหรับนายทวารชาวคอสตาริก้าคือเขากลายเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอ ในการยื่นซื้อตัว เด เคอา ในรูปแบบที่เขาเองก็ไม่ได้เต็มใจมากนักกับการกระทำของสโมสรในครั้งนี้ แต่ทว่าบทสรุปสุดท้ายดีลนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะทาง "ราชันชุดขาว" ชักช้าในเรื่องของเอกสารต่างๆ ทำให้ นาบาส ยังคงยืนหนึ่งเฝ้าเสาต่อไป และเป็นจิ๊กซอว์คนสำคัญในการพาทีมกวาดแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน เคย์เลอร์ นาบาส : นายด่านฝีมือดี แต่ไม่อาจครองใจเป็นเบอร์ 1

จุดเปลี่ยนเมื่อ กูร์ก​ตัวส์ เข้ามา

ภายหลังยึดเป็นนายด่านมือ 1 ได้ราวๆ 3 ฤดูกาล พร้อมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งถ้าว่ากันตามผลงาน เรอัล มาดริด แทบไม่ต้องมากังวลหาผู้รักษาประตูคนใหม่เข้ามาเลย แต่ทว่าทีมอย่าง "ราชันชุดขาว" พวกเขาไม่เคยพอ ว่าแล้วก็หันหน้าไปจีบ ติโบต์ กูร์ก​ตัวส์ นายทวารของ เชลซี และคราวนี้แข้งรายนั้นก็เล่นด้วย พร้อมกระเสือกกระสนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ย้ายมา เรอัล มาดริด จนกระทั่งปิดดีลได้สำเร็จที่ 35 ล้านยูโร ซึ่งเดาได้ไม่ยากเลยว่าการที่ กูร์ก​ตัวส์ เข้ามาก็ต้องยึดบมบาทนายด่านมือ 1 อย่างแน่นอน ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ นาบาส ถูกลดบทบาทเป็นเพียงเบอร์ 2 ของทีมทั้งที่ฝีไม้ลายมือระดับเขามันดีเกินกว่าจะนั่งตูดด้านอยู่ที่ม้านั่งสำรอง  แต่ทว่าจุดเปลี่ยนของ นาบาส ก็เกิดขึ้นอีกครั้งช่วงกลางซีซั่น 2018-19 เรอัล มาดริด มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งกุนซือก่อนที่จะวนกลับมาอยู่ในมือของ ซีเนดีน ซีดาน อีกครั้ง และการกลับมาของกุนซือคู่บุญมันเลยเป็นผลพลอยได้ของ นาบาส ที่ได้สิทธิ์กลับมายึดมือ 1 ของทีมอีกครั้ง โดยในช่วง 10 นัดสุดท้ายของฤดูกาล นาบาส ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกไปมากถึง 7 เกม ทำให้แสงสว่างเริ่มถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งว่าเขาได้จะได้ตำแหน่งตัวจริงกลับคืนมา แต่นั้นก็เหมือนความฝันแบบลมๆ แล้งๆ เพราะเมื่อฤดูกาลรูดม่านปิดฉากเขากลับต้องพบเจอเรื่องราวที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก เมื่อ ซีดาน เลือกที่จะใช้งาน กูร์ก​ตัวส์ ในตำแหน่งมือ 1 ในฤดูกาลหน้า ซึ่งมันแลดูไม่ค่อยแฟร์กับ นาบาส เท่าไหร่นัก เพราะด้วยผลงาน และตัวเลขสถิติต่างๆ เขาไม่ได้ด้อยไปกว่านายด่านรุ่นน้องคนนั้นเลย จนกระทั่งวันที่เขาไม่เคยคาดหวังก็เกิดขึ้น ด้วยความจำใจที่อยากจะได้โอกาสลงสนามแบบสม่ำเสมอมันเลยจำเป็นทำให้ นาบาส ต้องขอขึ้นบัญชีย้ายทีม และนั้นจึงกลายเป็นจุดที่ทำให้เขาปิดฉากการค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ไว้แบบไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก

ย้ายสู่ เปแอสเช

เมื่อเขาไม่เห็นค่ามากพอ ก็ก้าวเดินจากที่แห่งนั้นคงเป็นเรื่องที่ควรเกิดขึ้น ซัมเมอร์ 2019 นาบาส ได้เก็บกระเป๋าย้ายไปร่วมทัพ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ส่วนหนึ่งเพราะที่นั่นพร้อมมอบโอกาสให้กับเขาในการลงสนาม รวมไปถึงกุนซือในตอนนั้นอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล มีความต้องการอยากได้ดาวเตะผู้นี้ไปเสริมทัพ ซึ่งซีซั่นแรกกับ เปแอสเช ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดีกวาดแชมป์มาครองได้ถึง 3 สมัย ประกอบไปด้วย ลีก เอิง ฝรั่งเศส, เฟรนส์ คัพ และ เฟรนส์ ลีก คัพ รวมไปถึงกรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศศึก แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วย ส่วนฤดูกาลที่ 3 เมืองปารีส นายาส ยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีมตามเดิม แถมผลงานส่วนตัวยังคงยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยน ภายหลังเก็บคลีตในศึกลีก เอิงไป ได้ถึง 16 เกม จากการลงสนาม 29 นัด แม้สุดท้ายจะพลาดแชมป์ไปแบบเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตามภาพรวม 2 ขวบปีกับ เปแอสเช ชีวิตของ นาบาส แลดูจะแฮปปี้ไม่น้อย ทั้งได้โอกาสลงสนาม และคว้าแชมป์มาประดับบารมี แต่ทว่าใครจะรู้จู่ๆ อาการ "หนีเสือ ปะจระเข้" กำลังจะเกิดขึ้นกับเขา เคย์เลอร์ นาบาส : นายด่านฝีมือดี แต่ไม่อาจครองใจเป็นเบอร์ 1

จุดเปลี่ยนคือ ดอนนารุมม่า

อย่างที่เรารู้กันว่า เปแอสเช เพิ่งปิดดีลดึงตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายด่านดาวรุ่งที่กลายเป็นแข้งฟรีเอเยนต์ในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งมองด้วยตาเปล่าก็คงรู้ว่าการนำเข้านายทวารชาวอิตาลีคือการเข้ามาพร้อมเป็นนายทวารมือ 1 หาใช่เอามาเพื่อเป็นสำรองแต่อย่างใด ฉะนั้นคงที่คงดูจะซวยที่สุด และน่าสงสารที่สุดคงหนีไม่พ้น นาบาส ที่เหมือนภาพจำมันย้อนมาทำลาย เพราะอุตส่าห์หนีจาก มาดริด เพื่อมาเป็นจริง แต่กลับต้องมาโดนกระทำในลักษณะเดียวกันอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่เขาไม่ได้แสดงความผิดพลาดแต่กลับโดนเขี่ยจากบัลลังก์แบบงงๆ เช่นเดิม ถามว่า นาบาส ไม่มีโอกาสแทรกเป็นมือ 1 เลยหรอ? ตอบตามทฤษฎีมันก็มีโอกาส แต่ถ้าในทางปฎิบัติมองจากผลงานของ ดอนนารุมม่า ในช่วงที่ผ่านมามันยากเสียเหลือเกิน นอกจากรอเวลาที่เหมาะสม หรือผลงานของรุ่นน้องคนนี้มันลงเหวจริงๆ โอกาสคงจะเหวี่ยงกลับมาอยู่ในอุ้มมือเขาอีกครั้ง แน่นอนที่กล่าวมาทั้งหมดถ้าจะกล่าวว่าชีวิตของ นาบาส ค่อนข้างอาภัพต่อโชคชะตาคงจะไม่ได้มากเกินไป และที่น่าสนใจว่าต่อจากนี้ชีวิตลูกหนังของเขาจะถูกพัดพาไปที่ไหน หรือจะลองสู้ดูอีกสักตั้ง ทุกอย่างมันช่างน่าสนใจมากเหลือเกิน

- Paolinho -

logoline