เปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ กับ โอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020 ที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมที่ต้องแข่งขันกันในปีที่แล้ว ทว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนมาจัดการแข่งขันในปีนีิ ซึ่งแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัส ยังไม่ได้ลดลง แต่ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป
แม้ต้องพบกับอุปสรรคมากมาย อาจจะดูเงียบเหงาจากการที่ไร้ผู้ชมเต็มสนาม แต่ท้ายที่สุดเจ้าภาพอย่าง ญี่ปุ่น ก็ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบในพิธีเปิด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการแสดง การจัดลำดับต่าง ๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ เรียกได้ว่าทำได้ดีทีเดียว
ในพิธีเปิดการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ 2020 เกิดขึ้น ณ สนามกีฬาแห่งชาติ โอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ผู้นำแห่งญี่ปุ่น เสด็จร่วมทอดพระเนตร และแขกสำคัญจากนานาชาติมากมาย เช่น จิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา, เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ฯลฯ ส่วนตัวแทนจากเมืองไทยคือ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นตัวแทนร่วมงาน
ญึ่ปุ่น ผสมผสานวัฒนธรรม เอกลักษณ์ ความงดงามของประเทศได้อย่างลงตัวในพิธีเปิด สามารถทำให้ผู้ชมเพลินตาไปกับสิ่งน่าสนใจที่เจ้าภาพแสดงออกมาให้ทั่วโลกได้เห็น โดยเฉพาะการนำเอกลักษณ์งานไม้ งานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่น มาประกอบการแสดงได้อย่างลงตัวสร้างความน่าประทับใจได้ไม่น้อยทีเดียว
นอกเหนือจากการแสดงของเจ้าภาพที่น่าประทับใจแล้วอีกอย่างหนึ่งที่เป็นสีสันและถือเป็นเกร็ดความรู้ของการเปิดงานครั้งนี้คือ การจัดลำดับประเทศเข้าร่วม 206 ประเทศ ตามลำดับอักษรภาษาญี่ปุ่น โดยยังคงเปิดขบวนพาเหรดประเทศด้วย ประเทศกรีซ อันเป็นต้นกำเนิดของการแข่งขัน และ ปิดด้วยประเทศเจ้าภาพตามธรรมเนียม
สำหรับประเทศไทย เดินพาเหรดเข้ามาในสนามเป็นชาติที่ 102 ตามการจัดลำดับตัวอักษรของภาษาญี่ปุ่น โดยผู้ที่ได้รับเกียรติให้ถือธงไตรรรงค์นำทัพนักกีฬาไทยในพิธีเปิดครั้งนี้คือ คุณแซม-เศวต เศรษฐาภรณ์ นักกีฬายิงเป้าบินชายทีมชาติไทย และ คุณเอิน-ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ นักยิงปืนหญิงทีมชาติ
ทั้งนี้ คุณแซม-เศวต เศรษฐาภรณ์ เป็นหนึ่งในนักกีฬาไทยที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากในปีนี้ เพราะถือเป็นนักกีฬายิงเป้าบินไทยคนแรกที่สามารถคว้าตั๋วในการแข่งขัน โอลิมปิก รวมถึงเป็นนักกีฬาไทยที่อายุมากที่สุด และยังติด 1 ใน 10 ของนักกีฬาที่มีอายุมากที่สุดในโอลิมปิก 2020 ครั้งนี้ด้วย ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางไปโอลิมปิกครั้งแรกหลังจากเริ่มเล่นกีฬานี้มา 17 ปี
มาว่าด้วยเรื่องของแฟชั่นกันบ้าง แน่นอนว่า โอลิมปิก คือการมุ่งเป้าไปที่การแข่งขันกีฬา แต่แฟชั่นในพิธีเปิดก็เป็นอะไรที่แข่งกันได้น่าสนใจไม่น้อย โอลิมปิก กับเครื่องแบบตามธรรมเนียมดั้งเดิมเป็นของคู่กันมานาน แต่วันนี้หลายประเทศกำลังออกนอกกรอบและพาเอกลักษณ์ของพวกเขาโลดแล่นสู่สายตามหาชน เรียกได้หลายประเทศจัดการแต่งตัวมาเต็มด้วยสีสันสดใสในการเข้าร่วมพาเหรดพิธีเปิด สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้มากทีเดียว เรียกได้ว่าหมดยุคของเครื่องแบบเดิม ๆ เปลี่ยนพิธีเปิดโอลิมปิกให้เป็นรันเวย์แฟชั่นไปเลยทีเดียว ชุดแต่ละประเทศจัดมาด้วยสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ บางประเทศมาในชุดแบบวัฒนธรรมของประเทศตัวเองที่ต้องปรบมือให้กับความครีเอต รวมถึงสร้างแบรนด์ออกมาขายได้อีกด้วย เช่น ชุดนักกีฬาของทีมชาติสหรัฐอเมริกา ชาติที่มีการส่งนักกีฬาลงแข่งขันมากที่สุดใน โอลิมปิก หนนีิ้ ก็ออกแบบชุดมาได้สมาร์ทไม่แพ้ใครเช่นกัน
แต่แฟชั่นขุดนักกีฬาพาเหรดครั้งนี้ที่แย่งซีนและถูกพูดถึงทั่วโลกโซเชี่ยลคงนี้ไม่พ้นภาพของ ปิต้า เตาฟาโตฟัว นักกีฬาของ ตองก้า ที่ถือธงทีมชาติออกมาด้วยชุดเอกลักษณ์ เปลือยกายท่อนบน เห็นกล้ามโต ๆ หล่อสมาร์ททำสาว ๆ ใจละลายกันทีเดียว
นอกจากการแสดงที่น่าตื่นตา ชุดแฟชั่นพาเหรดที่เป็นสีสันแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานคือขบวนพาเหรดนักกีฬาจากทั่วทุกมุมโลก ที่ทยอยเข้าสนามมาพร้อมกับเพลงประกอบสุดไพเราะนั่นเอง ซึ่งเพลงที่นำมาเปิดประกอบการเดินพาเหรด เป็นเพลงจากบรรดาเกมฮิตมากมายทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น Final Fantasy, Dragon Quest, Gradius, Monster Hunter ฯลฯ ซึ่งบางเพลงมีการนำมามิกซ์ใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย แต่แฟนเกมได้ยินแล้วประทับใจแน่นอน จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เจ้าภาพอย่าง ญี่ปุ่น ครีเอตได้อย่างสร้างสรรค์
อย่างไรก็ตามพิธีเปิดจะไม่สมบูรณ์แบบหากขาดการจุดคบเพลิงซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่สุดของงานพิธีเปิด คบเพลิงดวงไฟแห่งความหวังเข้าสู่สนามโดยมีตัวแทนนักกีฬา นักเรียน รวมถึงแพทย์และพยาบาล และ บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นหน้าด้านในการต่อสู้วิกฤต โควิด-19 ของประเทศอยู่ในเวลานี้มาตลอดตั้งแต่เกิดการระบาด รับหน้าที่ทรงคุณค่า ส่งต่อให้ นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสสาวญี่ปุ่นเชื้อสายเฮติ แชมป์ แกรนด์ สแลม 4 สมัย นักกีฬาอันมีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น นำคบเพลิงเดินขึ้นบันได ก่อนจุดไฟแห่งความหวังบนยอดภูเขาไฟฟูจิจำลอง และเมื่อไฟแห่งความหวังสว่างสไวขึ้น ก็เป็นสัญญาณที่บอกว่า "โตเกียว 2020" ที่ทุกคนรอคอย เปิดฉากแล้วอย่างเป็นทางการ เป็นการจบพิธีที่สมบูรณ์แบบของเจ้าภาพ
ถึงแม้ว่าจะน่าเสียดายที่พิธีเปิดในครั้งนี้ต้องเปิดท่ามกลางสนามที่ไร้ผู้ชมเนื่องจาก โควิด-19 ทว่า เจ้าภาพอย่า ญี่ปุ่น ก็ได้สร้างพิธีเปิดที่น่าประทับใจผู้ชมได้ไม่น้อยทีเดียว อาจไม่ใช่พิธีเปิดที่ดีที่สุด แต่ก็น่าจะเป็นมหกรรมของมวลมนุษยชาติรวมถึงคนไทย ที่จะเป็นสิ่งมาเยียวยาจิตใจของประชาชนในสถานการณ์ที่ยังคงเต็มไปด้วยความขัดแย้งและการแพร่ระบาดของไวรัสเช่นนี้ ทั้งนี้สามารถติดตามการแข่งขัน โอลิมปิก ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ ขอบสนามเกาะติดโอลิมปิก และร่วมเชียร์นักกีฬาไทยทุกคนในทุกการแข่งขันไปพร้อมกับเพื่อน ๆ ทุกท่าน … สวัสดี โอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020
- เปี๊ยกบางใหญ่ -
