นับเป็นการเสริมทัพที่น่าสนใจสำหรับ อาร์เซน่อล หลังจัดการปิดดีลคว้าตัว เบน ไวท์ กองหลังที่ว่ากันว่าเนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งมาร่วมทีมได้สำเร็จ
ก่อนจะมาลงเอยกับ "ไอ้ปืนใหญ่" ด้วยความที่เหล่าบรรดาทีมบิ๊กเนมต่างก็ให้ความสนใจในตัวไอ้หมอนี่กันเยอะ วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ การพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ เบน ไวท์ ให้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิมกัน
ประวัติพอสังเขป
เบน ไวท์ ชื่อเต็มๆ ก็คือ เบนจามิน วิลเลี่ยม ไวท์ เกิดวันที่ 8 ตุลาคม ปี 1997 ที่ เมืองพูล ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันอายุ 23 ปี ส่วนสูง 6 ฟุต หรือ 182 เซนติเมตร ถนัดเท้าข้างขวา ประจำการในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ปัจจุบันสังกัดอยู่กับ อาร์เซน่อล ได้สวมเสื้อเบอร์ 4เส้นทางค้าแข้ง
ย้อนกลับไปสมัยเด็ก เบน ไวท์ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังด้วยการเป็นผลผลิตในอคาเดมี่ของ เซาธ์แฮมป์ตัน ก่อนจะโดนปล่อยตัวออกจากทีมตอนอายุ 16 ปี จากนั้นก็เป็น ไบร์ทตัน ที่จัดการเซ็นสัญญาพาเข้าไปปลุกปั้นฝึกปรือฝีเท้าต่อที่อคาเดมี่ของสโมสรประสบการณ์กับทีมอื่น
เบน ไวท์ ได้ประเดิมสนามเกมแรกให้ ไบร์ทตัน ชุดใหญ่ตอนซีซั่น 2016-17 ในวันที่ 9 สิงหาคม ปี 2016 ซึ่งตอนนั้นอายุแค่เพียง 17-18 ปีเท่านั้น โดยเป็นเกมบอลถ้วยน้ำจิ้ม อีเอฟแอล คัพ รอบแรกนัดที่ไล่ถล่ม โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 4-0 เบ็ดเสร็จฤดูกาลนั้นพี่แกก็ได้ลงเล่นไปเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้นและก็เป็นบอลถ้วยเล็กทั้ง 2 นัดเลยด้วย ประสบการณ์เต็มๆ ที่ เบน ไวท์ ได้โอกาสปล่อยของและโชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่มันเกิดขึ้นในฤดูกาลถัดมาหรือซีซั่น 2017-18 ที่ถูกปล่อยตัวไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับ นิวพอร์ท เคาน์ตี้ ใน ลีก ทู แบบยืมตัว เขาได้ประเดิมสนามนัดแรกในเกม อีเอฟแอล คัพ รอบแรกที่เอาชนะ เซาธ์เอนด์ ไป 2-0 และด้วยแววที่ฉายออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมันทำให้ผู้จัดการทีม ไมเคิ่ล ฟลินน์ ไว้เนื้อเชื่อใจและให้โอกาสเป็นตัวจริงยาวๆ เลย เบน ไวท์ คือกำลังสำคัญที่ช่วยให้ นิวพอร์ท เขี่ย ลีดส์ ยูไนเต็ด ตกรอบ เอฟเอ คัพ รอบ 3 พร้อมกับสร้างสถิติพา นิวพอร์ท ตีตั๋วเข้าไปเล่น เอฟเอ คัพ รอบ 4 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1978-79 เท่านั้นยังไม่พอในเกม เอฟเอ คัพ ที่ต้องเผชิญหน้ากับทีมระดับ พรีเมียร์ลีก อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พวกเขาก็สามารถยันเสมอได้ 1-1 ทำให้ต้องไปแข่งกันต่อในนัดรีเพลย์ ต้องบอกเลยว่าเกมนั้น เบน ไวท์ ได้รับคำชมเยอะมากหลังโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นและก็เอาอยู่ สามารถรับมือกับสุดยอดกองหน้าอย่าง แฮร์รี่ เคน ได้เป็นอย่างดี จากสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้ เบน ไวท์ คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีในสาขา เซาธ์ เวลส์ อาร์กุส ของ นิวพอร์ท ไปครอง จากการลงเล่นไปทั้งหมด 51 นัด ยิงได้ 1 ประตู ส่วนทางด้าน ไมเคิ่ล ฟลินน์ ก็เป็นแกนนำที่ยกให้ว่า เบน ไวท์ คือนักเตะตัวยืมที่ดีที่สุดเท่าที่ นิวพอร์ท เคยมีมาเลยทีเดียวเกือบย้ายไป สเปอร์ส
หลังหมดสัญญายืมตัวกลับคืนสู่ต้นสังกัด ไบร์ทตัน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตั้งใจจะพยายามเซ็นสัญญาคว้าตัวไปร่วมทีมให้ได้ หลังจากเคยยลโฉมศักยภาพฝีเท้ามาแล้วเมื่อปีก่อน แต่สุดท้ายก็ต้องอกหักไปเพราะ เบน ไวท์ ได้ตัดสินใจต่อสัญญาฉบับใหม่กับ ไบร์ทตัน ออกไป อย่างไรก็ตามความจงรักภักดีของเขามันก็ยังไม่ได้ทำให้พี่ก้าวขึ้นมาเป็นมีบทบาทกับทีมชุดใหญ่ ก่อนจะโดนปล่อยตัวไปเก็บเลเวลอีกครั้งกับ ปีเตอร์โบโร่ ในช่วงครึ่งซีซั่นหลังของฤดูกาล 2018-19ปีแจ้งเกิด
หลังได้สัมผัสประสบการณ์ใน ลีก ทู และ ลีก วัน มาแล้ว ฤดูกาล 2019-20 เบน ไวท์ ก็ได้เจอกับความท้าทายที่น่าสนใจยิ่งกว่าเดิมนั่นก็คือการค้าแข้งให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด บนสังเวียน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ และก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เรื่องของมาตรฐานขอบอกเลยว่าแรงดีไม่มีตกจากช่วงที่ผ่านๆ มา เลย ถึงจะย้ายมาแค่แปปเดียว แต่ เบน ไวท์ กลับได้รับเลือกให้เป็นผู้คว้ารางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคม 2019 แถมเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังด้วย นั่นเป็นบทที่พิสูจน์ให้เห็นว่าไอ้เจ้า เบน ไวท์ นั้นเป็นนักเตะที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ นับตั้งแต่นั้นก็เริ่มมีชื่อของทีมดังๆ ปรากฏขึ้นมาพัวพันกับตัวของ เบน ไวท์ อาทิเช่น ลิเวอร์พูล เป็นต้นๆ แว่วๆ มาว่าพวกเขาได้ส่งแมวมองมาจับตาดูและคอยเช็คฝีเท้าในทุกๆ เกมที่ไอ้หมอนี่ได้โอกาสลงสนามเลยทีเดียว เบ็ดเสร็จในฤดูกาล 2019-20 เบน ไวท์ ลงสนามให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ไป 46 จากทั้งหมด 49 เกม นับเป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่ช่วยให้ทัพ "ยูงทอง" ตีตั๋วเลื่อนชั้นกลับมาโลดแล่นบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2004 และมันก็สมเหตุสมผลดีที่ เบน ไวท์ ได้รับเสียงโหวตให้เป็นเจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ1 ซีซั่นกับ ไบร์ทตัน

สไตล์การเล่น
เบน ไวท์ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กซึ่งมีทักษะที่ครบเครื่องในเรื่องของการเล่นเกมรับ ทั้งคล่องตัวฉับไว เข้าถึงบอลไว มีเซนต์บอลการอ่านเกมที่ดี มีจังหวะการชิงเหลี่ยมเวลาเข้าปะทะที่เป็นเลิศอีกต่างหาก ไหนจะมีสกิลการวางบอลยาวที่ดีอีกต่างหากถ้าจะเปรียบถึงอดีตผู้เล่นของ อาร์เซน่อล ว่ากันว่า เบน ไวท์ เป็นกองหลังที่ดุดันโลดโผนคล้ายๆ กับ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เบน ไวท์ สถิติการดักทางลูกจ่ายบอลของคู่ต่อสู้เฉลี่ย 1.24 ต่อเกม สกัดบอล 1.27 ครั้งต่อเกม แถมยังมีอัตราการดวลชนะลูกกลางอากาศอยู่ที่ 3.27 ค่อเกมอีกด้วย ซึ่งเป็นสถิติที่่มากกว่าผู้เล่นเซ็นเตอร์แบ็กทุกคนของ อาร์เซน่อล นอกจากตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กแล้วหารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้ว เบน ไวท์ ยังสามารถผันตัวเองไปยืนเป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับได้อีกด้วย นับว่าเป็นหนึ่งในแข้งที่สารพัดประโยชน์สุดจริงๆทีมชาติ

HaMu Dos Santos
