logo-heading

แทมมี่ อับราฮัม กองหน้าลูกหม้อ ของ เชลซี ลบโปรไฟล์จากเด็ก สิงห์บลูส์ กลายร่างเป็น "หมาป่ากรุงโรม" อาแอส โรม่า แบบเต็มตัวเรียบร้อยแล้ว หลังเดินทางไปล่าตาข่ายให้กับทีม โชเซ่ มูรินโญ่ เนื่องจากเจ้าตัวกลายเป็นส่วนเกินของ โธมัส ทูเคิ่ล เพราะลำพังมีแค่ ติโม แวร์เนอร์ กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ก็แย่อยู่แล้ว ยิ่ง โรเมลู ลูกากู เข้ามาเสริมทัพ แทบไม่มีความหวังลงสนาม

ดังนั้นการย้ายมาอยู่กับ โรม่า คือคำตอบ !! อย่างไรก็ตาม แทมมี่ มีโอกาสได้กลับถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ สังเวียนอันเป็นที่รักของเขาอีกครั้ง เพราะ เชลซี ได้ใส่ออปชั่นซื้อกลับเอาไว้ที่ 68 ล้านปอนด์ ถึงแม้เป็นราคาที่แสนแพง แต่ถ้าเขาพิสูจน์ฝีเท้าให้เห็น ก็เชื่อว่า สิงห์บลูส์ พร้อมยอมทุ่มทุนดึงกลับไป

เนื่องจากมันมีเคสตัวอย่าง ที่นักเตะไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมตัวเองได้ ทำให้ต้องยอมจำใจย้ายทีม และ กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนทีมเดิมต้องซื้อกลับมา จะมีใครบ้าง ไปติดตามกันครับ

6. มาเรียโน่ ดิอาซ

6 แข้งฟอร์มเด่นกับทีมอื่น จนสโมสรเดิมต้องซื้อคืนกลับ เชื่อว่าหลายคนอาจจะลืมชื่อ มาเรียโน่ ดิอาซ ไปแล้วด้วยซ้ำ นี่คืออดีตลูกหม้อของ เรอัล มาดริด ที่สโมสรเคยทุ่มเงินเพื่อดึงตัวกลับมา แต่ทว่าก็กลายเป็นเอาเงินไป "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ"  จะว่าไป มาเรียโน่ ดิอาซ ก็มีสถานะคล้ายๆกับ แทมมี่ อับราฮัม เหมือนกัน เพราะเป็นเด็กลูกหม้อของทีม แต่โอกาสขึ้นชุดใหญ่แทบไม่มี ยิ่ง ดิอาซ ยิ่งยากไปใหญ่ โดยเฉพาะ มาดริด ที่มี 3 ประสาน BBC แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดังนั้น ดิอาซ จึงได้ลงเล่นในศึก ลา ลีกา สเปน ไปเพียงแค่ 8 นัด ด้วยความที่เป็นเด็กอยากสัมผัสสนาม ทำให้ ดิอาซ ตัดสินใจขอย้ายไปอยู่กับ โอลิมปิก ลียง เมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร และ เพียงแค่ซีซั่นเดียว ก็ฉายแววทันที หลังซัดไป 21 ประตู จากการลงสนาม 45 นัด ทำเอา มาดริด อดรนทนไม่ไหว ต้องยอมขาดทุน ใช้ออปชั่นซื้อกลับมา ในราคา 35 ล้านยูโร ดิอาซ กลับมาสู่สโมสร กับภาระอันหนักอึ้ง เพราะต้องมาสานต่อเบอร์ 7 ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตำนานดาวยิง ที่ย้ายไป ยูเวนตุส แต่กลายเป็นว่า ดิอาซ หายไปในกลีบเมฆ 3 ซีซั่นที่ผ่านมา ยิงรวมในลีกแค่ 6 ประตู ปัจจุบันไม่มีบทบาทในทีมอีกแล้ว และ เบอร์ 7 ก็ถูกริบไปให้กับ เอแดน อาซาร์

5. มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์

6 แข้งฟอร์มเด่นกับทีมอื่น จนสโมสรเดิมต้องซื้อคืนกลับ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ ปราการหลังทีมชาติเยอรมัน คงเป็นนักเตะไม่กี่คนบนโลกใบนี้ ที่ย้ายสลับขั้วไปอยู่กับทีมคู่อริครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นคือจาก บาเยิร์น มิวนิค ไปอยู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และจาก ดอร์ทมุนด์ ก็กลับไป บาเยิร์น มิวนิค และ มาตายรัง ดอร์ทมุนด์ อีกครั้ง จริงๆแล้ว มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ เป็นเด็กปั้นของ เสือใต้ อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ 7 ขวบ แต่เมื่อเติบใหญ่ ไม่สามารถเบียดแย่งตัวจริง จึงต้องเก็บข้าวของมาอยู่กับ เสือเหลือง เมื่อปี 2008 ด้วยราคา 4 ล้านยูโร จากนั้น ฮุมเมิ่ลส์ ก็กลายเป็นตัวหลักของ ดอร์ทมุนด์ ในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ พร้อมเป็นคีย์แมนพาทีมคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน 2 สมัย แต่ด้วยความที่ ดอร์ทมุนด์ เริ่มถอยห่างความสำเร็จ ทำให้ ฮุมเมิ่ลส์ ตัดสินใจย้ายทีม และ ทีมที่ได้ตัวเขาไปนั้นก็คือ บาเยิร์น ที่ดึงกลับไปในราคา 35 ล้านยูโร ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบที่หวัง แต่ก็มีส่วนช่วยให้ เสือใต้ เป็นแชมป์ลีก 3 สมัยซ้อน ด้วยอายุอานามที่แตะวัย 30 ปี สถานะความสำคัญของ ฮุมเมิ่ลส์ กับ บาเยิร์น ก็เริ่มลดลง สุดท้ายก็กลับไปตายรัง ดอร์ทมุนด์ อีกครั้ง คราวนี้ เสือเหลือง ซื้อกลับมาราวๆ 30 ล้านยูโร นับเป็นนักเตะที่ย้ายซบทีมคู่อริแบบไม่แคร์สื่อจริงๆ

4. เนมานย่า มาติช

6 แข้งฟอร์มเด่นกับทีมอื่น จนสโมสรเดิมต้องซื้อคืนกลับ เชลซี นับว่าเป็นสโมสรที่มีนักเตะล้นทีมจริงๆ เพราะพวกเขามักจะซื้อดาวรุ่ง มาถมรวมกัน และ ปล่อยส่งต่อให้ทีมอื่นยืมงาน ซึ่ง เนมานย่า มาติช ก็คือหนึ่งผู้เล่น ที่ สิงห์บลูส์ ซื้อมาร่วมทีม จาก โคซิเซ่ ทีมในลีกสโลวาเกีย เมื่อปี 2009 ตอนนั้นอายุประมาณ 21 ปี ทว่าการมา เชลซี ครั้งแรก มาติช ต้องเจอกับอาการบาดเจ็บ หลังจากไปรับใช้ทีมชาติเซอร์เบีย ในศึก ยูโร รุ่น ยู-21 ทำให้เป็นแค่สำรองแบบนั่งตูดด้าน ซีซั่นต่อมา ถูกปล่อยให้ วิเทสส์ อาร์เนม ยืมใช้งาน ก่อนถูกขายขาดให้กับ เบนฟิก้า เมื่อปี 2011 โดยถูกแนบไปในดีลของ ดาวิด ลุยซ์ ที่สลับขั้วมาอยู่กับ สิงห์บลูส์ จากการปล่อยไปอยู่ เบนฟิก้า ทำให้ มาติช ได้โชว์ผลงานอันยอดเยี่ยมกับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ที่มีดีในเรื่องการอ่านเกม, การจ่ายบอล และ การยิงไกล เขาช่วยพา เหยี่ยวลิสบอน คว้าแชมป์ลีก และ อยู่ในชุดรองแชมป์ ยูโรปา ลีก ซึ่งฟอร์มของกองกลางรายนี้ ไปเตะตา เชลซี ยุค โชเซ่ มูรินโญ่ เข้าอย่างจัง สิงห์บลูส์ ตัดสินใจซื้อ มาติช กลับมา หลังปล่อยออกจากทีมไป 3 ปี และ ต้องจ่ายเงินถึง 25 ล้านยูโร ก็ตาม แต่มันก็คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ เพราะคราวนี้ เจ้าตัวถือเป็นนักเตะคนสำคัญช่วย เชลซี คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2 สมัย และ เอฟเอ คัพ อีก 1 สมัย แต่ปัจจุบัน มาติช อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังย้ายตาม น้ามู เจ้านายเก่า มาตั้งแต่ซีซั่น 2017-18

3. มาร์โก รอยส์

รอยส์ มาร์โก รอยส์ หนึ่งในนักเตะที่จงรักภักดีของวงการ เขาอยู้ปักหลักกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2012 ทั้งๆที่เขาสามารถย้ายไปสโมสรอื่น เพื่อประสบความสำเร็จ เหมือนอย่างที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หรือ มาริโอ เกิทเซ่ 2 เพื่อนซี้ ที่เลือกไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค แต่ขอก็เลือกขอคว้าแชมป์กับ เสือเหลือง อย่างไรก็ตาม มาร์โก รอยส์ ไม่ได้เป็นนักเตะแบบ "วัน แมน คลับ" แต่อย่างใด เพราะถึงแม้เขาจะเป็นดาวรุ่ง อยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ 10 ปี ที่ฝึกปรือใน  อะคาเดมี่สโมสรแห่งนี้ ทว่าเขาเลือกย้ายไปอยู่กับ รอท ไวส์ส อาห์เล่น ช่วงซัมเมอร์ปี 2006 เพื่อหาโอกาสในการลงสนามให้มากขึ้นกว่าเดิม เส้นทางค้าแข้งของ รอยส์ ดูเหมือนจะไม่บรรจบกับ ดอร์ทมุนด์ อีกแล้ว เพราะได้ย้ายไปอยู่กับทีมคู่ปรับอย่าง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เมื่อปี 2009 อย่างไรก็ตาม 3 ซีซั่นหลังจากนั้น ในที่สุด ดาวเตะทีมชาติเยอรมัน ได้กลับคืนสู่สโมสรในวัยเด็กของเขาอีกครั้ง ซึ่งมาจากผลงานกับ "สิงห์หนุ่ม" ล้วนๆ ดอร์ทมุนด์ ยอมซื้อ รอยส์ กลับมาในราคา 17 ล้านยูโร นับเป็นราคาที่คุ้มค่าสุดๆ เพราะต่อให้เขาจะมีอาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่ทุกครั้งที่ลงสนาม เขาเต็มที่เสมอ อยู่ช่วยทีมไม่จากไปไหน ซึ่งตอนนี้ก็มีแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล มาประดับบารมี ได้ 2 สมัย

2. โรเมลู ลูกากู

6 แข้งฟอร์มเด่นกับทีมอื่น จนสโมสรเดิมต้องซื้อคืนกลับ ย้อนกลับไปสมัยที่ โรเมลู ลูกากู ย้ายจาก อันเดอร์เลชท์ มาอยู่กับ เชลซี เมื่อปี 2011 ด้วยวัยเพียง 18 กะรัต เขาเป็นเหมือนเด็กร่างยักษ์ ที่ยังไม่เจนสนาม ไม่มีประสบการณ์ แทบจะถูกตัดออกจากทีมชุดใหญ่ด้วยซ้ำ โดนตอนนั้นเขาได้ลงสนามเพียงแค่ 8 นัด ในเกมลีก แบ่งเป็นตัวจริงแค่ 1 เกม ลูกากู ผิดหวังแบบสุดๆที่เขาไม่ได้รับโอกาสเลย และ เชลซี ก็คงเห็นใจ จึงปล่อยตัว ลูกากู ให้ไปหาประสบการณ์กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน แบบยืมตัว ซึ่งสโมสรนี้แหละครับ เป็นคนจุดประกายฝีเท้าของดาวยิงรายนี้ ให้วสว่างไสว หลังซัดไป 17 ประตู ซึ่งเป็นผลงานที่ไม่ธรรมดาเลย อย่างไรก็ตาม ลูกากู ไม่มีที่ว่างในทีม เชลซี ทำให้เขาถูกปล่อยตัวอีกครั้ง คราวนี้ไปอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน และ สานต่อผลงานยิงกระฉูด ก่อนที่ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน จะซื้อถาวรด้วยราคา 28 ล้านปอนด์ เป็นสถิติสูงสุดสโมสร จากนั้นฝีเท้าของ ลูกากู อัพเกรดขึ้นเรื่อยๆ ได้ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนราคาค่าตัวสูงถึง 75 ล้านปอนด์ ก่อนโยกย้ายไป อินเตอร์ มิลาน อีก 74 ล้านปอนด์ ถึงแม้ฟอร์มกับ ผีแดง จะดูน่าผิดหวัง แต่กับ อินเตอร์ มิลาน คือของจริง ลูกากู ทุบสถิติการยิง พาทัพ งูใหญ่ คว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี แต่ด้วยสถานะการเงิน ทำให้ทีมต้องยอมปล่อยสตาร์ออกไป ซึ่งคราวนี้ เชลซี ไม่ได้มองเขาเป็นเด็กแบเบาะอีกแล้ว ทุ่มทุนซื้อกลับมาถึง 98 ล้านปอนด์ โดยหวังว่าดาวยิงรายนี้ จะกลับมาล่าตาข่าย ช่วย สิงห์บลูส์ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง สุดสัปดาห์นี้ รอยลโฉมได้เลย

1. ปอล ป็อกบา

6 แข้งฟอร์มเด่นกับทีมอื่น จนสโมสรเดิมต้องซื้อคืนกลับ นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าตัว ปอล ป็อกบา จาก เลอ อาฟร์ มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาเป็นดาวรุ่งที่ถูกจับตามอง และ ถูกมองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นสตาร์คนต่อไป เพราะตัวสูงใหญ่, ครองบอลเยี่ยม พร้อมกับ เทคนิคอันแพรวพราว หลังเคยพา ปีศาจแดง คว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ เมื่อปี 2011 แต่แล้ว ป็อกบา ไม่อาจรอวันถูกผลักดันขึ้นสู่ชุดใหญ่อีกต่อไป เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่กองหลัง และ กองกลาง บาดเจ็บหลายคน แต่แล้ว ป๋าเฟอร์กี้ ไปเลือกส่ง ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวา ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ นัดเจอกับทีมบ๊วยอย่าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส กลายเป็น ป็อกบา นั่งสำรอง ซึ่งนั่นแหละครับทำให้ ป็อกบา ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส เมื่อปี 2012 จากเด็กที่ไม่ได้รับโอกาส ป็อกบา กลายร่างเทพเมื่ออยู่กับ "ไอ้ม้าลาย" เขาสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งมิดฟิลด์ตัวท็อปของยุโรป มีส่วนสำคัญพาทัพ "ไอ้ม้าลาย" คว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ 3 สมัย ด้วยการยิงไป 28 ประตู จาก 124 นัด มีลูกแอสซิสต์สวยๆเพียบ ทำให้สุดท้าย ปีศาจแดง ตัดสินใจยอมซื้อตัวกลับมา สนนราคาสูงถึง 89 ล้านปอนด์ ในปี 2016 ซึ่งขณะนั้นเป็นค่าตัวแพงสุดของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้แคมป์ "ป็อกแบ็ก" เพื่อพาทีมกลับมาสร้างความสำเร็จอีกครั้ง ทุกวันนี้เขายังคงเป็นคีย์แมนของ ปีศาจแดง ถึงแม้มีข่าวย้ายทีม และ จะเป็นกำลังสำคัญไล่ล่าคว้าแชมป์ลีกมาครองให้ได้

ฮาย ฮาวดี้-

logoline