logo-heading

ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเลยครับ ที่ มิเกล อาร์เตต้า กลายเป็นกุนซือเต็ง 1 ที่จะโดนปลดออกจากตำแหน่งเป็นคนแรก ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ หลังทำผลงานได้อย่างย่ำแย่เกินคำบรรยาย จากทีมที่ควรต้องลุ้นแชมป์ เมื่อวัดความโด่งดังของสโมสร แต่กลับกลายต้องมาจมปลักอยู่ท้ายตารางแบบยังไม่ชนะใคร

ล่าสุด เดอะ กันเนอร์ส ต่อต้านอย่างหนัก ก่อม็อบขับไล่ให้ อาร์เตต้า ออกจากตำแหน่ง ถึงแม้ตอนนี้เขายังไม่ได้โชว์สปิริตรับผิดชอบผลงาน แต่ลองไปวิเคราะห์กันว่าอนาคตของ พี่ต้า จะยืดยาวแค่ไหน เพราะก็เพิ่งพ่ายต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-5

- ทำไม อาร์เตต้า ถึงไม่ใช่คนที่แฟนบอลต้องการ

ย้อนกลับไปตอนที่บอร์ดบริหาร อาร์เซน่อล ไปตามจีบ มิเกล อาร์เตต้า มาคุมทีม หลังจากปดลด อูไน เอเมรี่ ซึ่ง ณ ตอนนั้น แฟนบอล "ไอ้ปืนใหญ่" ก็ตื่นเต้นพอสมควร เพราะ พี่ต้า มีดีกรีเป็นมือขวาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โค้ชชั้นอ๋องของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฉะนั้นน่าจะนำแท็คติค ติกิ-ตาก้า อันยอดเยี่ยม มาซึมซับให้กับทีม แน่นอนว่า อาร์เตต้า มาสร้างความหวังใหม่ให้กับ เดอะ กันเนอร์ส เนื่องจากเข้ามาไม่นาน ก็พาทีมเป็นแชมป์ เอฟเอ คัพ ต่อยอดด้วยการเป็นแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เอาชนะ ลิเวอร์พูล ช่วงก่อนสตาร์ทซีซั่น 2020-21 เหมือนเป็นการจุดประกายให้ อาร์เซน่อล มีอนาคตสดใสอีกครั้ง แต่วันเวลาผ่านไป จากอนาคตสดใส กลับกลายเป็นมืดมน อย่างซีซั่นก่อน ก็พาทีมจบอันดับ 8 ไม่ได้ไปแม้กระทั่ง ยูโรปา ลีก แย่กว่าสมัย อาร์แซน เวนเกอร์ ช่วงท้ายๆ หรือ อูไน เอเมรี่ เสียอีก ไม่ใช่แค่อันดับที่แย่นะครับ แต่เป็นผลงานในสนามมากกว่า ที่ทำให้แฟนบอลหัวเสียกันทั้งบาง อาทิ เรื่องแท็คติค : ตัดภาพไปดูกันที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะมีลายเซ็นชัดเจนเรื่องการทำทีม สไตล์ ติกิ-ตาก้า โด่งดังไปทั่วโลก คือ เน้นการครอบครองบอลเป็นหลัก การส่งต่อบอลกันเท้าสู่เท้า จู่โจมทุกพื้นที่ อย่างนัดล่าสุดครองเกมครึ่งหลัง  91% ขณะที่ อาร์เซน่อล แค่ 9 % หรือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะมีแบบฉบับ "เกเก้น เพรสซิ่ง" ไล่บีบคู่แข่งตั้งแต่แดนหน้า และ เข้าทำแบบสายฟ้าแลบ .. แต่กับ มิเกล อาร์เตต้า ไม่มีอะไรเด่นชัดสักอย่าง ไม่มีวิสัยทัศน์ หรือ สูตรสำเร็จไว้เล่นงานคู่แข่งใหญ่ ส่วนใหญ่มักใช้ความสามารถเฉพาะตัวเท่านั้น เรียกง่ายๆว่าบอลไม่มีทรง .. เรื่องการเปลี่ยนตัว : อาร์เตต้า ถือเป็นกุนซือที่มักเปลี่ยนผู้เล่นขัดใจจอร์จเหลือเกิน คนดีเปลี่ยนออก คนกระจอกเก็บไว้ หรือไม่ก็เปลี่ยนตัวไม่ได้เปรียบ ทั้งๆที่ตามหลัง เขาทำแบบนี้ให้เห็นหลายต่อหลายนัด เอาง่ายๆแค่นัดเปิดซีซั่น ที่เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด เขาเปลี่ยน นูโน่ ตาวาเรส แบ็กซ้าย ลงไปเล่นแบ็กขวาแทน คาลั่ม แชมเบอร์ส ไหนล่าสุดจะถอด บูกาโย่ ซาก้า ที่พอจะปั่นป่วนแนวรับ เชลซี ออกไปนั่ง และ ปล่อยให้ นิโคลัส เปเป้ ที่ไม่ได้สร้างพิษสง ให้อยู่ครบ 90 นาที

- เรื่องการเสริมทัพ

อาร์เซน่อล มักจะโดนล้อเลียนเป็นประจำว่า "ราชาเงินผ่อน" ไม่ค่อยมีเงินทุ่มซื้อนักเตะแพงๆ และ ส่วนใหญ่เป็นการแบ่งชำระเป็นงวดๆไป แต่ประทานโทษ ซัมเมอร์นี้ อาเตต้า นับเป็นกุนซือที่ขึ้นชื่อว่าใช้จ่ายเงินมากที่สุด ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหนือกว่าทีมที่ซื้อสตาร์ดังๆอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียอีก ไอ้ปืนใหญ่ ใช้เงินไปราวๆ 129 ล้านปอนด์ ในการซื้อ เบน ไวท์, มาร์ติน โอเดการ์ด และ แอร่อน แรมส์เดล แต่เห็นไหมครับว่า มันไม่ได้อิมแพ็คอะไรมากขนาดนั้น โดยเฉพาะการไปซื้อ แรมส์เดล มาเฝ้าเสา ด้วยค่าตัวสูงถึง 30 ล้านปอนด์ ว่ากันว่าเงินมหาศาลขนาดนี้ แต่อาจต้องมานั่งเป็นสำรอง แบรนท์ เลโน่ ไม่ได้บอกว่า เงินที่ อาร์เตต้า ได้ใช้ มันจะเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แต่การนำ เบน ไวท์ มาร่วมทีม ถึง 50 ล้านปอนด์ เป็นเม็ดเงินที่สูงมาก หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องแนวรับได้ ก็จะถูกวิจารณ์เรื่องของการเกาไม่ถูกที่คัน ขณะที่ โอเดการ์ด ซึ่งยังนับว่าเป็นดาวรุ่ง ก็ต้องขึ้นมาแบกรับภาระในการเป็นจอมทัพทันที และ ในเกมที่พบกับ เรือใบสีฟ้า ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เท่ากับว่า ด้วยผลงานอันย่ำแย่ อาร์เซน่อล เสียไปแล้ว 9 ประตู ชนิดที่ยังยิงใครไม่ได้เลย คนแรกที่ต้องรับผิดชอบ ก็คือ อาร์เตต้า ดังนั้นการโดนด่าเละเทะแบบไม่มีชิ้นดี คือเรื่องที่เขาต้องเผชิญ เพราะดูจากการเสริมทัพ ไม่ใช่ว่าสโมสรไม่มีตังค์ทุ่มซื้อ แต่กระนั้นเขาเอาเงินไปผลาญ โดยไม่ได้แข้งซุปตาร์มาร่วมทีม หรือว่า บารมีของเขา ไม่สามารถดึงดูดใครได้แล้ว

-  พี่ต้า เตรียมตกงาน ?

ก่อนหน้านี้ มิเกล อาร์เตต้า เพิ่งจะวอนขอแฟนบอลให้เวลาตนเองได้คุมทีมอีกสัก 2-3 ปี แล้วค่อยมาตัดสินผลงานกันอีกครั้ง ขอให้เขาได้พาทีมฝ่าฟันผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ ให้เขาได้ลองสร้างทีมขึ้น.. แต่กระนั้น พี่ต้า คงลืมไปว่ากองเชียร์สมัยนี้ ไม่สามารถทนรอความสำเร็จได้นานๆ และ ผลงานตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา มันชอกช้ำระกำใจเหลือเกิน ลำพังแค่แพ้ให้กับ เบรนท์ฟอร์ด สาวก เดอะ กันเนอร์ส ก็ลุกฮือขึ้นไล่ให้ มิเกล อาร์เตต้า ออกจากตำแหน่งแล้ว ต่อมาแพ้คาบ้านให้กับ เชลซี แบบหมดรูปอีก 0-2 ถึงขั้นที่แฟนบอล ไอ้ปืนใหญ่ เคลื่อนพลจากแยกสามเหลี่ยม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม บุกไปล้อมรถบัส เพื่อขับไล่ให้ออกไปสักที เพราะอยู่ไปทีมก็มีแต่จะไม่เจริญ เนื่องด้วย 2 นัดที่ผ่านมา ยิงใครไม่ได้ แถมเสียไป 4 ประตู ร่วงมาอยู่อันดับ 19 เป็นการออกสตาร์ทที่แย่ที่สุดในรอบ 118 ปี ถึงแม้ท่าทีของ อาร์เตต้า จะยังไม่สะทกสะท้าน และ ยังดูภูมิใจกับฟอร์มของลูกทีม ที่สู้ เชลซี ได้อย่างเต็มที่ โดยการถล่มใส่ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในศึก คาราบาว คัพ 6-0 พอจะทำเนาสถานการณ์ลงได้บ้าง แต่ถึงกระนั้นการพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบเละเทะ 0-5 มันบ่งบอกว่าชะตาของเขาใกล้จะขาดลงแล้ว เมื่อเจอของจริง เนื่องจากสัปดาห์ต่อไป เป็นช่วง ฟีฟ่า เดย์ โปรแกรมสโมสรจะได้พัก มันเป็นช่วงเวลาที่ดีในการสืบเสาะหากุนซือคนใหม่เข้ามา อย่างน้อยๆก็มีเวลาเรียนรู้ ก่อนจะลงโม่แข้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดต่อไป ประมาณ 2 สัปดาห์ นัดต่อไป อาร์เซน่อล จะได้เปิดบ้านเจอกับ นอริช ซิตี้ แน่นอนว่ามันควรจะต้องเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะของ ไอ้ปืนใหญ่ ถ้าดูจากชื่อชั้น แต่ต้องรอดูว่า อาร์เตต้า จะอยู่ถึงตอนนั้นหรือไม่ เว้นเสียแต่ว่าบอร์ดบริหารจะประคบประหงมอุ้มชูเขาต่อไป อย่างน้อยก็รอดูอีกสัก 1 เดือน แต่เชื่อเถอะว่า แฟนบอล อยากไล่ให้ อาร์เตต้า ไปพ้นๆหน้าเสียเดี๋ยวนี้

ฮาย ฮาวดี้

logoline