แม้จะไม่มีการย้ายทีมแบบสั่นสะเทือนวงการเหมือนลีกเอิง ฝรั่งเศส ที่ได้ ลิโอเนล เมสซี่ หรือพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับไปวาดลวดลายอีกครั้ง แต่ บุนเดสลีกา เยอรมัน ยังคงเป็นลีกฟุตบอลที่สนุก และยิงประตูกันอุตลุดในทุกสัปดาห์
ซึ่งในช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้บอลลีกเมืองเบียร์ก็มีหลายดีลที่น่าสนใจทั้งการย้ายกันเองภายในลีก หรือการอิมพอร์ตเข้ามาจากลีกต่างประเทศก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาทุกท่านยลโฉมดีลที่น่าจับตาของศึกบุนเดสลีกา ในครั้งนี้ ซึ่งจะมีใครบ้างไปติดตามกันได้เลย
อังเดร ซิลวา (จาก แฟร้งค์เฟิร์ต ไป ไลป์ซิก)
กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสที่แจ้งเกิดกับยอดทีมในบ้านเกิดอย่าง ปอร์โต้ ก่อนถูกปล่อยไปให้ เอซี มิลาน ในช่วงซัมเมอร์ 2017 ด้วยค่าตัวราว 38 ล้านยูโร แต่ทว่าผลงานกับทัพ "ปีศาจแดง-ดำ" ของเขาไม่ค่อยสวยงามมากเท่าไหร่นัก จนถูกปล่อยยืมตัวไป เซบีย่า ในปี 2018 หลังจากนั้นก็เป็น แฟร้งค์เฟิร์ต ที่ดึงมาเสริมทัพด้วยสัญญายืมตัวในช่วงซัมเมอร์ 2019 ซึ่งเพียงซีซั่นแรกในศึกบุนเดสลีกาเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจซัดไป 12 ประตู จาก 25 นัดกับลีกเมืองเบียร์ ทำให้ทัพในช่วงซัมเมอร์ปีต่อมากทัพ "อินทรีแดงดำ" ตัดสินใจควักเงิน 3 ล้านยูโร คว้าตัวมาร่วมทัพแบบถาวร ซึ่งนั้นคือการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากเพราะเมื่อซีซั่นที่แล้ว ซิลวา จัดการซัดไปถึง 28 ประตู ในศึกบุนเดสลีกา เป็นรองเพียง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เพียงคนเดียวเท่านั้น และด้วยผลงานที่ร้อนแรงเกินห้ามใจทำให้ แอลเบ ไลป์ซิก ก็ได้ขนเงินจำนวน 23 ล้านยูโรมาสู่ขอในช่วงซัมเมอร์นี้ ก่อนที่ดีลดังกล่าวที่จบลงอย่างรวดเร็วเป็นการวิน-วิน ด้วยทั้งทั้ง 2 สโมสร และตัวนักเตะเองด้วย ส่วนซีซั่นนี้ อังเดร ซิลวา ลงเล่นให้ ไลป์ซิก เป็นตัวจริงทั้งหมดในช่วงออกสตาร์ท 3 นัดแรก พร้อมทำไปได้แล้ว 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ และต่อจากนี้ต้องมาดูว่าผลงานของเขาจะกระฉูดแตกเหมือนตอนไล่ล่าประตูให้ แฟร้งค์เฟิร์ต หรือเปล่าโอดิลอน คอสซูนู (จาก คลับ บรูซ ไป เลเวอร์คูเซ่น)
ปราการหลังวัยเพียง 20 ปี แต่ทว่าค่าตัวตัวของเขานั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียวเพราะ เลเวอร์คูเซ่น ต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินที่สูงถึง 23 ล้านยูโรเลยทีเดียว ท่ามกลางการได้รับความสนใจจากสโมสรใหญ่ในยุโรป และครั้งหนึ่ง อาร์เซน่อล กับ ลิเวอร์พูล เคยชายตามองหวังคว้าตัวมาครองแล้วเหมือนกัน โดย คอสซูนู แจ้งเกิดมาจาก ฮัมมาร์บี้ ทีมในลีกประเทศสวีเดน ก่อนย้ายมาร่วมทัพ คลับ บรูซ ในช่วงปี 2019 ก่อนค่อยๆ พัฒนาตัวเอง จนก้าวขึ้นมาเป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟตัวหลักของทีมได้สำเร็จ อย่างในช่วงซีซั่นที่ผ่านมาเจ้าตัวลงสนามทุกรายการไปมากถึง 42 นัด และเป็นกำลังสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ ลีกเบลเยี่ยม และบอลถ้วยอย่าง เบลเยี่ยม ซูเปอร์ คัพ มาครองได้อีกด้วย ส่วนการย้ายมาร่วมทัพ "ห้างยา" ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญของเจ้าตัวที่ได้มาลงเล่นใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป และด้วยช่วงอายุที่เพิ่ง 20 ปี พวกกับผลงานที่ผ่านมา และจุดเด่นเรื่องของความสูงที่มากถึง 191 เซนติเมตร เขาเองน่าจะพัฒนาฝีเท้า และยกระดับตัวเองให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้นไปได้อีกอย่างแน่นอน
ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ (จาก ไลป์ซิก ไป บาเยิร์น มิวนิค)
ดีลนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ทาง บาเยิร์น มิวนิค จัดการเดินหน้าเกมเร็วคว้าตัวแนวรับผู้นี้มาครอบได้สำเร็จ แม้ก่อนหน้านั้น อูปาเมกาโน่ จะมีข่าวกับหลายสโมสรโดยเฉพาะในอังกฤษอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล โดยปราการหลังวัย 22 ปี ย้ายมาร่วมทัพ "เสือใต้" ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านยูโร ซึ่งจะเป็นการได้ร่วมงานกับนายใหญ่คนเดิมอย่าง ยูเลี่ยน นาเกลล์มันน์ อีกครั้ง ภายหลังช่วยทำงานร่วมกันมาแล้วสมัยสวมเครื่องแบบของ ไลป์ซิก และพาต้นสังกัดบินสูงแม้จะไม่มีเรื่องของความสำเร็จ แต่ทว่าทั้งคู่ก็เป็นแกนหลักสำคัญในการพาทัพ "กระทิงแดง" ได้ไปลุยในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งนี้ อูปาเมกาโน่ ย้ายมาร่วมทัพ ไลป์ซิก ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2017 ก่อนที่จะฝึกฝนจนก้าวขึ้นมาเป็นกำแพงเหล็กของสโมสร และสร้างมูลค่าค่าตัวของตัวเองให้เป็นที่ต้องการในตลาดนักเตะ และกองหลังที่น่าติดตามว่าจะพัฒนาตัวเองไปได้ไกลถึงจุดไหนของวงการลูกหนังดอนเยลล์ มาเล่น (จาก พีเอสวี ไป ดอร์ทมุนด์)
แนวรุกวัย 22 ปี สร้างชื่อจากให้รู้จักเป็นวงกว้างมากขึ้นจากศึกยูโร 2020 ที่ผ่านมากับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ก่อนที่จะเป็น ดอร์ทมุนด์ ที่มือไวจัดการปิดดีลคว้าตัวมาเสริมทัพได้อย่างรวดเร็วด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร จาก พีเอสวี ไฮน์โดรเฟ่น โดย มาเล่น ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ พีเอสวี แบบเต็มตัวคือในช่วงปี 2018 ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักในแนวรุกให้กับทีม เพียงซีซั่นแรกเจ้าตัวก็กระหน่ำไปได้ถึง 10 ประตู พ่วงด้วย 5 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเกมลีก 31 นัด ก่อนที่ผลงานจะมาพีคขั้นสุดก็คือเมื่อซีซั่นที่แล้วที่มีส่วนร่วมกับประตูของ พีเอสวี ในทุกรายการไปมากถึง 37 ประตู แบ่งเป็นยิง 27 และแอสซิสต์ 10 ครั้ง จุดเด่นของ มาเล่น อยู่ที่ความรวดเร็วของฝีเท้า และเป็นคนที่ครองไว้กับเท้าได้อย่างยอดเยี่ยมมีสเต็ปการหลอกล่อคู่แข่ง และไปกับบอลได้ดี ซึ่งการเข้ามายังทัพ "เสือเหลือง" ของเขาปฎิเสธไม่ได้ว่าคือการมาแทนที่ของ จาดอน ซานโช่ ที่ทีมปล่อยตัวไปให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ฉะนั้นแล้วนี่คือบททดสอบก้อนโตที่ ดอนเยลล์ มาเล่น จะต้องพิสูจน์ตัวเอง เพราะในเมื่อผลงานของคนเก่าของทำไว้ดี ตัวเขาเองในฐานะผู้มาแทนก็ควรที่จะเป็นคนที่แฟนบอลสามารถฝากความคาดหวัง และเป็นแกนหลักในเกมรุกของทีมได้เช่นกันมาร์เซล ซาบิตเซอร์ (จาก ไลป์ซิก ไป บาเยิร์น มิวนิค)
ดีลที่เพิ่งเปิดตัวกันแบบสดๆ ร้อนๆ และกลายเป็นอีกหนึ่งแข้งจาก ไลปืซิก ที่ย้ายกลับไปร่วมงานกับเจ้านายคนเก่าอีกครั้ง ซึ่งค่าตัวของ ซาบิตเซอร์ ในการย้ายไปร่วมทัพ บาเยิร์น คราวนี้อยู่ที่ 15 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่กำลังพองามกับดาวเตะวัย 27 ปี ที่ นาเกลมันน์ เองก็รู้วิธีการใช้งานให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีเยี่ยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ย้อนกลับไป ซาบิตเซอร์ ย้ายมาร่วมทัพ ไลป์ซิก ตั้งแต่ปี 2015 ก่อนค้าแข้งยาวกับทีมถึง 6 ปี ด้วยกัน ลงเล่นไปมากถึง 229 นัด และการย้ายทีมครั้งนี้มันจะยิ่งช่วยให้เขามีโอกาสประสบความสำเร็จในลีกเมืองเบียร์มากยิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว แม้ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางของทัพ "เสือใต้" จะมีขุมกำลังที่แน่นหนา และลงตัวมากพอสมควร แต่ทว่าการได้ ซาบิตเซอร์ เข้ามาก็เหมือนเป็นการเพิ่มมิติในเกมรุก และเป็นจิ๊กซอว์ส่วนสำคัญอีกชิ้นที่จะพาทีมพุ่งชนกับความสำเร็จที่ไม่ใช่เพียงแค่ในเยอรมันเท่านั้น